“สอดแนมการเมือง”
โดย...ชัชวาล ชาติสุทธิชัย
เหลือเชื่อ..ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่รักเทิดทูนยิ่งชีวิต จะตกอยู่ในสภาวะอันตรายร้ายแรงได้ถึงขนาดนี้!
พวกทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ในไทย กำลังเดินตามรอยหลายประเทศที่สถาบันพระมหากษัตริย์ล้มครืนลง ด้วยการใช้กลยุทธ์แยบยลทั้งลับ-เปิดเผย ทำให้การวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ กระทำกันได้อย่างอิสระโดยไม่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้เพื่อกลุ่มล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ จะปล่อยข่าวลือให้ร้ายป้ายสีสถาบันสำคัญของชาติ ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จนหลงเชื่อหลงผิดสูญสิ้นศรัทธา ที่เคยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ลดลงเป็นลำดับ
ที่น่าเสียใจยิ่งก็คือ การจาบจ้วงและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รับรู้ของประชาชนคนไทยอย่างกว้างขวางในขณะนี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับไม่ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย กับคนชั่วเหล่านั้นอย่างจริงจัง ความอ่อนแอของรัฐบาลอภิสิทธิ์นี่เอง ที่ทำให้พวกล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ใจและยิ่งเหิมเกริมมากขึ้นเป็นทวีคูณ
นักโทษชายหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร เหิมเกริมถึงขนาดใช้กองกำลังเสื้อแดง ทำฏีกาที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ให้ประชาชนหลงลงชื่อใน“ฎีกาแดงเถื่อน” เพื่อกดดันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯโดยมิบังควรอย่างโจ่งแจ้ง
เท่านั้นไม่พอ นายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย แกนนำกองกำลังเสื้อแดงของนักโทษชายหนีคุกทักษิณ ยังบังอาจแถลงข่าวอย่างไม่บังควรอีกว่า
รัฐบาลอภิสิทธิ์กักขังฏีกาแดงมิให้ถึงพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก่อนวันที่ 4 ธันวาคม เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงอภัยโทษให้ทักษิณในวันที่ 4 ธันวาคมนี้???!!!
จตุพร พรหมพันธุ์ รู้ได้อย่างไรว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯจะอภัยโทษให้ทักษิณ? และจะอภัยโทษในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ด้วย? รวมทั้งจตุพร..ก็รู้ทั้งรู้ว่า ฎีกาแดงที่ยื่นเป็นฎีกาเถื่อน! ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อันเป็นที่เคารพรักเทิดทูนของชาวไทยยังทรงพระประชวร แต่ขบวนการคนอัปรีย์จัญไรกลับใช้ยุทธการ “ทุบหุ้น-หาเงิน-ล้มเจ้า”ในตลาดหลักทรัพย์อย่างครึกโครม
ด้วยการปล่อยข่าว“อัปมงคล”เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ทำเอาผู้คนแตกตื่นตกใจอย่างรุนแรง เพราะหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ดิ่งวูบลงกว่าสี่แสนล้านบาท ในขณะที่กลุ่มคนอัปรีย์ได้แอบเข้าไปช้อนหุ้นราคาต่ำเหล่านั้น ไว้ในกำมือ..เพื่อทำกำไรกันอย่างมหาศาล
การทุบหุ้นทำกำไรของกลุ่มคนอัปรีย์ ด้วยการปล่อยข่าว“อัปมงคล”ครั้งนี้ ถือเป็นการย่ำยีทำร้ายหัวใจคนไทยอย่างรุนแรงที่สุด
....และแล้ว..พสกนิกรทั่วประเทศ ก็พลันได้ชื่นบานหัวใจเป็นล้นพ้น เมื่อได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จจากห้องประทับลงมาปฏิบัติภารกิจฯ ณ โรงพยาบาลศิริราช ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิ์-ร่มไทรทองแก่ผองปวงชนชาวไทยตลอดกาลเทอญ...
แต่เรื่องก็ยังไม่จบ..ยังมีการพุ่งเป้าโจมตีประธานองคมนตรี โดยไม่แยแสว่า อะไรสมควรและอะไรไม่สมควรอย่างต่อเนื่อง
บุรุษฉายา“จอมเนรคุณแห่งชาติ” ได้ออกมาเคลื่อนไหวให้แก้รัฐธรรมนูญ ในหมวดพระ
มหากษัตริย์ มาตรา 20 ที่ว่า
ในระหว่าง ไม่มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 หรือมาตรา 19 ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
นายวีระเสนอแก้ไข..มิให้ประธานองคมนตรี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวครับ!
เป็นที่รู้กันว่า..หมวดพระมหากษัตริย์ในกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น เป็นหมวดที่ไม่มีใครคิดเข้าไปเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นไปตามพระราชอำนาจ ขนาดคณะทหารที่ก่อการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ก็ไม่เคยเข้าไปเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในหมวดนี้เลย
แกนนำที่ชื่อ วีระ มุสิกพงษ์ ทำไมถึงบังอาจขนาดนี้ นับเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่งนัก และหากสืบสาวราวเรื่องข่าวลือลึงลงไปก็พบว่า
ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ยังทรงพระประชวรอยู่ ท่ามกลางข่าวลือ “อัปมงคล”แพร่ระบาด แกนนำคนเสื้อแดงบางคน ได้ปราศรัยโจมตีให้ร้ายป้ายสีบนเวทีว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กำลังจะเป็นอะไรที่มากกว่าการเป็นประธานองคมนตรี!
แถมสื่อบางคอลัมน์ยังปล่อยข่าวลือว่า มี“กระแสพิเศษ”จากบางที่บางแห่ง ให้อดีตนายทหาร 52 คน ตบเท้าเข้าพรรคการเมืองของนักโทษชายหนีคุก เพื่อช่วยกันโค่นล้มบุคคลสำคัญที่มชื่อย่อว่า“ป-เปรม”?
อีกทั้งบางข่าวก็ยังลือกันอยู่ในมุมลึกๆว่า “กระแสพิเศษ”ยังต้องการให้เพื่อนรักทักษิณ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ให้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ที่ชวนฉงนก็คือ..วันนี้นายกฯอภิสิทธิ์ก็ยังตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตัวจริงไม่ได้ครับ!
ทำไมห้วงนี้..ขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ดูจะมีปฏิบัติการสอดประสานกันอย่างเป็นระบบ ทั้งต่างประเทศและในประเทศจนคึกคักผิดปกติ?
ทำไมห้วงนี้..ขบวนการเสื้อแดง กองกำลังส่วนตัวของนักโทษชายหนีคุกทักษิณ ก็ทุ่มเทสรรพกำลังเคลื่อนไหวทั้งต่างประเทศและในประเทศ เพื่อล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างร้อนรนผิดปกติ?
ทำไมผู้นำชาติเขมรอย่างฮุนเซน ที่ยกกำลังทหารมายึดผืนดินไทยอย่างโจ่งแจ้ง ก็ยังสวมวิญญาณ“กุ๊ยเสื้อแดง”ทำสงครามน้ำลายแบบไม่ยั้ง พุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลอภิสิทธิ์และให้ร้ายป้ายสีกระบวนการยุติธรรมของไทย ประกาศชัดว่า..รัฐบาลเขมรจะไม่ส่งตัวนักโทษชายหนีคุกทักษิณ ให้ไทย แถมยังจะปลุกบ้านหรูให้อยู่อีกต่างหาก
อีกทั้งยังกล่าวชื่นชมนักโทษชายหนีคุกทักษิณ ยกชั้นขึ้นเทียบเคียง นางอองซาน ซูจี วีรสตรีนักสู้ชาวพม่าอย่างเปิดเผย ทั้งๆที่ทักษิณกับซูจีนั้น แตกต่างกันชนิดฝ่ามือกับฝ่าเท้า การกระทำเช่นนั้นของฮุนเซน ถือเป็นการผิดมารยาททางการทูตอย่างร้ายแรง?
ทำไมตอนนี้“พระยาละแวก-ฮุนเซน”จึงเหิมเกริม และทำไม“พระยาจักรี-ตัวจิ๋ว”จึงกล้าเร่ไปตามชาติต่างๆ เพื่อ“ชักศึกเข้าบ้าน”อย่างหน้ามืดตามัวเช่นนั้น?
คำตอบทั้งหมดอยู่ที่..ทักษิณยังมี“เงิน”ไม่โปร่งใสในมือมากมาย ทำให้สามารถ”จ้าง-ผีโม่แป้ง”ป่วนบ้านป่วนเมืองได้อย่างต่อเนื่อง
หากนักโทษชายหนีคุกทักษิณไร้“เงิน” “คนหน้าเหลี่ยม”ก็คือสุนัขหางด้วนตัวหนึ่ง ที่ไร้ค่า-ไร้เพื่อน-ไร้คนชะเลียร์ ฯลฯ หากทักษิณไร้เงิน-แม้นอยากเป็นนายกรัฐมนตรีสักปานใด ชาตินี้-ชาติหน้าตอนบ่ายจรดค่ำ..ก็ไม่มีวันได้เป็น หากทักษิณไร้เงิน-แม้นอยากป่วนประเทศไทยสักปานใด..ก็ไม่มี“ผีสักตัว-มาโม่แป้ง”ให้หรอกครับ
ที่สำคัญ..หากทักษิณไร้เงิน ป่านนี้คงนอนตบยุงอยู่ใน“มุ้งสายบัว”ที่คุกคลองเปรมแล้วล่ะ เพราะไม่มีปัญญาแสดงบทบาทในละครชีวิตจริง เรื่อง“บิ๊กเหลี่ยม-หนีคุกสุดขอบฟ้า”ได้ดังทุกวันนี้หรอกครับ..จริงไหม?
เงิน-เงิน-เงิน คือ ฤทธิ์เดชตัวจริงของนักโทษชายหนีคุก“ทักษิณ ชินวัตร”ครับ!!!