xs
xsm
sm
md
lg

"ฮุนเซน" กร่างกลางเวทีอาเซียนจุดกระแสรักชาติพุ่งปรี๊ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ครั้งที่ 15 ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 23-25 ตุลาคมที่ผ่านมา

เชื่อว่าคนไทยในฐานะเจ้าภาพ และนายกรัฐมนตรีไทยในฐานะประธานอาเซียน แทบไม่คาดคิดว่าจะได้รับฟังคำสัมภาษณ์ที่แสนจะอดสูจากปากของผู้นำประเทศกัมพูชา

ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ต.ค. "สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาถึงประเทศไทยไม่นาน เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน

สมเด็จ ฮุน เซน ไม่ได้เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดในเวลา 09.30 น. ที่โรแรมดุสิตธานี หัวหิน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรับแจ้งว่า ติดภารกิรต้อนรับการเดินทางมาเยือนของนายลี มยอง-บัก ประธานาธิบดีเกาหลีใต้

การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทั้งไทยและเทศช่วงบ่ายที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ไม่มีใครคาดคิดว่า สมเด็จฮุน เซน จะใช้เวทีนี้ประกาศความสัมพันธ์อันแนบแน่น กับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชนิดรักกันแทบจะกลืนกิน แถมยังยกชั้นไปเทียบเคียงกับนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ทั่วโลกให้การยอมรับคือ "นางออนซาน ซูจี" อีกต่างหาก

การให้สัมภาษณ์ครานั้นเป็นการขโมยซีน การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนไปเลยทีเดียว เพราะทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ รวมถึงคนทั่วโลกต่างเฝ้าจับตาดูปฏิกิริยาที่เข้าขั้นถึงความขัดแย้งของผู้นำทั้งสองประเทศตั้งแต่นั่นเป็นต้นมา...

เย็นวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ก็ไม่น้อยหน้า ออกมาโต้ทันควันชนิดหมัดต่อหมัด โดยในตอนหนึ่งที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า

“คิดว่าท่านนายกฯฮุนเซนต้องคิดให้ดี และต้องคิดให้ดีว่าถ้ายืนยันตัดสินใจที่ไปมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ผลประโยชน์ของคน 2 ชาติเพื่ออะไร ผมเห็นว่าเป็นนายกฯที่มีความอาวุโส อย่าไปเป็นเบี้ยหรือเหยื่อให้ใครเลย”

โดยเฉพาะคำว่า "กี่คนในโลกมองทักษิณเหมือนอองซาน" ซึ่งนายกฯไทยคาดคิดว่า ผู้นำกัมพูชา คงประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ ที่มีความแตกต่างจากกรณีนางอองซาน ซูจี ด้วยความคลาดเคลื่อน

ปฏิกิริยาของผู้นำทั้งสองฝั่ง ต่างเขม็งเกรียว แข็งขึงและตึงตัง และการออกมาฟาดฟันกันครั้งนี้กลายเป็นสงครามน้ำลาย และแม้ท่าทีของนายกฯ ไทยจะดูนิ่มนวลแต่ก็บาดใจและสะใจบรรดาคนไทยรักชาติไม่น้อย ซึ่งก็ช่วยลบภาพที่นายกฯอภิสิทธิ์ ขาดซึ่งภาวะผู้นำ ออกไปได้บ้าง

นักวิชาการ นักรัฐศาสตร์ ผู้คนในแวดวงการเมือง ออกมาพูดถึงท่าทีของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาในวันนั้น โดยเห็นสอดคล้องกันว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน กระทำการเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่งที่ใช้การประชุมอาเซียนให้สัมภาษณ์ทำนองวิจารณ์รัฐบาลไทยว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะการอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกระทำเหมือนกับกรณีของนางอองซาน ซูจี เพราะที่ผ่านมากัมพูชาไม่เคยคิดจะช่วยเหลือนางซูจี แถมบ่อยครั้งยืนข้างรัฐบาลทหารพม่า โดยประกาศมาตลอดว่าปล่อยให้เป็นเรื่องภายในของพม่า

"คนๆ นี้ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะพูดถึงเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชนได้เลย เพราะเขาไม่ใช่นักประชาธิปไตย ไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เขาคือคนสุดท้ายในโลกที่จะพูดเรื่องการปกป้องสิทธิของประชาชนได้ เพราะในกัมพูชามีปัญหาการละเมิดสิทธิมากมายมหาศาล มีคนอดอยาก เป็นโรคเอดส์ จำนวนมากน่าอเนจอนาจ โดยที่เขาไม่เคยคิดจะแก้ไข วันที่พม่ามีการฆ่าพระสงฆ์คนๆ นี้เป็นคนบอกว่าเป็นเรื่องภายใน ไม่ต้องไปยุ่ง แต่วันนี้กลับพูดในเรื่องนี้ซึ่งล้วนแต่มาจากผลประโยชน์ส่วนตัวของเขากับพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นสิ่งที่คนๆนี้ทำในเมืองไทยไร้มารยาทอย่างร้ายแรง"

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้อย่างแข็งกร้าว ก็ถือว่าเหมาะสม ความจริงควรจะห้ามไม่ให้เขาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้อีก แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเพราะอาจจะไปละเมิดสิทธิในการพูด แต่ถ้ารัฐบาลต้องการจะตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันคือเชิญฝ่ายค้านในกัมพูชา รวมทั้งนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา ที่วันนี้หลบหนีสมเด็จฮุนเซนอย่างหัวซุกหัวซุน ให้เข้ามาสัมมนาในประเทศไทย แล้วก็ดูว่าสมเด็จฮุนเซนจะคิดอย่างไร

26 ตุลาคมหลังเสร็จสิ้นการประชุมอาเซียนไป 1 วัน เว็บไซต์ข่าวหลายแห่งพาดหัวใหญ่ "นักศึกษา - นักการเมืองชาวพม่าในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไม่พอใจ "ฮุนเซน" เปรียบ "ทักษิณ" เทียบชั้น "อองซาน ซูจี"

เป็นชาวพม่า ซึ่งประกอบด้วยนักการเมือง นักศึกษาพม่าและชาวพม่าทั่วไปตามแนวชายแดนไทย - พม่า และในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ต่างไม่พอใจที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ออกมากล่าวเปรียบเปรยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนั้น เป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตยเทียบชั้น นางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี. และนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่า ว่า ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหามากที่ยังไม่เคลียร์ตัวเอง ในช่วงที่มีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี

พวกเขาไม่เห็นว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างไร หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต้องกลับมาต่อสู้ในประเทศไทย ตั้งแต่กลุ่มคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ได้ทำการปฏิวัติ หรือ ช่วงรัฐบาลภายใต้คมช.ดูแล

จากคำสัมภาษณ์นายหม่อง หม่อง ยี อดีตนักศึกษาพม่า ที่ชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก ระบุว่า นางอ่องซาน ซูจี เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่อยู่ในประเทศของตนเองมาตลอด ไม่เคยคิดออกนอกประเทศ แม้ว่า รัฐบาลทหารพม่าจะให้ออกนอกประเทศก็ตาม แต่นางไม่ยอมออกไป และต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจไม่มีผลประโยชน์ใดๆแอบแฝง ต่างกับพ.ต.ท.ทักษิณมาก จะมาเทียบชั้นกันไม่ได้

เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน "พรรคสม รังสี" ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านในกัมพูชา ได้ออกคำแถลงการณ์ โจมตีสมเด็จฮุนเซน ในเรื่อง เสนอตัวให้นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้ากัมพูชาได้ จากกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันเรื่องพร้อมจะให้ นช.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา โดยให้เหตุผลว่า “ถ้าหาก (ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา) สม รังสี สามารถเดินทางเข้าไทยเช่นที่เข้ามาเมื่อเร็วๆ นี้ และกล่าวโจมตีรัฐบาลกัมพูชา ทำไมทักษิณเพื่อนที่ดีของผม จะไม่สามารถเดินทางเข้ากัมพูชาแบบเดียวกันได้”

นายสม ได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนจากพรรคการเมืองต่างๆ ดำรงตน “เป็นกลาง” อย่างเคร่งครัด ต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างประชาชนในประเทศเพื่อนบ้าน อะไรก็ตามที่เป็นผลจากความตึงเครียดทางการเมือง หรือความไม่สงบในประเทศไทย ก็อาจมีผลพวงต่อกัมพูชาทั้งสิ้น

จากเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น เริ่มจากการที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปพม่าพร้อมหยิบขี้ปากสมเด็จฯ ฮุนเซนมาทำร้ายประเทศไทย จนถูกกล่าวหาว่าชักศึกเข้าบ้าน ประกอบกับพฤติกรรมสุดกร่างของพระยาละแวกแห่งกัมพูชาที่มาซ่าในประเทศ แทนที่จะส่งผลกระทบกับรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างที่นช.ทักษิณคาดหวังไว้ กลับกลายเป็นกระแสที่ปลุก "ความรักชาติ" ของคนไทยให้เพิ่มมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มคนเสื้อแดงในภาคอีสานที่เคยหลงผิดเป็นชอบชื่นชนนช.ทักษิณ ก็ทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

คนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยเริ่มคิดถึงเบื้องลึกแห่งจิตใจของนช.ทักษิณว่า แท้ที่จริงแล้ว ต้องการเคลื่อนไหวเพื่อชาติหรือเพื่อเงิน 8.6 หมื่นล้านที่ถูกอายัดไว้ รวมทั้งต้องการกลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง

แต่สำหรับ นช.ทักษิณแล้วเขาไม่สนใจกับผลกระทบที่เกิดขึ้น แถมล่าสุดยังมีข่าวออกมาด้วยว่า ลอยกระทง 2 พ.ย.นี้ เขาจะเดินทางไปลอยกระทงที่กัมพูชาเพื่อขอบคุณเพื่อนรัก-สมเด็จฯฮุนเซนอีกต่างหาก
กำลังโหลดความคิดเห็น