โจรใต้ชาติชั่ว! ป่วนไม่เว้นสถานศึกษาที่เป็นลูกหลานของตัวเอง ลอบเผาอาคารเก็บอุปกรณ์การเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านตันหยงเปาว์ ปัตตานี ที่เตรียมไว้เปิดเทอม 2 พ.ย..นี้เสียหายทั้งหมด ทหาร ฉก.นราฯนำกำลังเข้าค้น”ตันหยงลิมอ” พบระเบิดชนิดขว้างพร้อมประกอบ 6 ลูกคุมตัวพี่ชายเจ้าของบ้านสอบ “สุเทพ” ปัดไม่รับรู้-ไม่เจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบใต้
วานนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านตันหยงเปาว์ ม.4 บ้านตันหยงเปาว์ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงนำกำลัง พร้อมประสานรถดับเพลิงเข้าไประงับเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 2 ชั้นเพลิงได้เผาเครื่องมืออุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนของโรงเรียนที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้เปิดเทอมในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ภายในซึ่งเป็นครุภัณฑ์ ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ได้รับความเสียหายทั้งหมด
สอบสวนทราบว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ปีนประตูโรงเรียนเข้ามาโดยที่ไม่มีใครเห็น เนื่องจากเป็นช่วงการดึก จากนั้นคนร้ายจึงได้ราดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟเผาก่อนหลบหนีไป นอกจากนี้คนร้ายยังได้ใช้สีพ่นข้อความที่ไม่เหมาะสมตามถนนหลายจุด และกำแพงของโรงเรียนโดยกล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร และให้ทหารออกนอกพื้นที่ด้วย
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสนั่น พงษ์อักษร นายอำเภอหนองจิก พร้อมด้วยนายฉัตรเทพ เพิ่มทรัพย์ ปลัดป้องกันอำเภอ พนักงานสืบสวน สภ.หนองจิก และชุดกองวิทยาการปัตตานีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ออกมาเพื่อก่อกวนทำลายขวัญและสร้างสถานการณ์ก่อนเปิดภาคเรียน
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางฝ่ายกองกำลังได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วในการที่จะดูแลความปลอดภัยครู โดยได้กำชับทุกหน่วยได้ปฏิบัติตามแผนที่ได้ประชุมตกลงกับคณะครู และผู้บริหารโรงเรียนเอาไว้อย่างเคร่งครัด เช่น การจัดชุดคุ้มกันเส้นทาง ชุดรับครูตามจุดนัดพบต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตามโครงการปรับปรุงบ้านพักครูให้มีความสมบูรณ์เพื่อให้ครูเข้ามาพักอาศัย เพื่อลดระยะทางของการเดินทางลดน้อยลงไปด้วย
ที่ จ.นราธิวาสช่วงเวลา 06.00 น. พ.ต.เอกพล เลขนอก รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 ชุดช่วยราชการ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านบาโงแยะ หมู่ 2 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฏหมาย และติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีมั่นคง จากการเข้าตรวจค้น สามารถยึดลูกกระเดื่องซึ่งเป็นระเบิดชนิดขว้างทำด้วยท่อ พี.วี.ซี.สีเทา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว 6 ชุด และเหล็กเส้นขนาด 3 หุนตัดท่อนเป็นสะเก็ดระเบิดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม บรรจุในกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น โดยทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ในโรงทำยางแผ่น หลังบ้านเลขที่ 54/2 บ้านบาโงแยะ ต.ตันหยงลิมอ ซึ่งเป็นบ้านของนายเจ๊ะอารง เจ๊ะแน อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง และจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ทราบว่านายเจ๊ะอารงไม่อยู่ในบ้านเพราะไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายซาการียา เจ๊ะแน อายุ 52 ปี พี่ชายของนายเจ๊ะอารง ไปสอบสวนขยายผล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวกลุ่มพูโลขอเจรจากับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ข่าวการเจรจามีมาตลอด ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนก็มีคนอาสาไปเจรจากันมาก แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่คิดว่าจะมีใครไปทำเช่นนั้น เพราะไม่ทราบว่าจะไปเจรจากับใคร แต่ถ้ามีการติดต่อขอเจรจามาจริง ต้องขอดูว่าเป็นใคร เพราะมีอยู่หลายกลุ่ม หากเป็นกลุ่มเก่าๆ ก็อาจสั่งการไม่ได้
“จำไม่ได้หรือมีคนเคยนำมาออกทีวีกัน ผมไม่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น มันจะยุ่ง ขณะนี้เราก็ดูแลประชาชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษอยู่แล้ว”
วานนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านตันหยงเปาว์ ม.4 บ้านตันหยงเปาว์ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงนำกำลัง พร้อมประสานรถดับเพลิงเข้าไประงับเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 2 ชั้นเพลิงได้เผาเครื่องมืออุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนของโรงเรียนที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้เปิดเทอมในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ภายในซึ่งเป็นครุภัณฑ์ ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ได้รับความเสียหายทั้งหมด
สอบสวนทราบว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ปีนประตูโรงเรียนเข้ามาโดยที่ไม่มีใครเห็น เนื่องจากเป็นช่วงการดึก จากนั้นคนร้ายจึงได้ราดน้ำมันเบนซินแล้วจุดไฟเผาก่อนหลบหนีไป นอกจากนี้คนร้ายยังได้ใช้สีพ่นข้อความที่ไม่เหมาะสมตามถนนหลายจุด และกำแพงของโรงเรียนโดยกล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร และให้ทหารออกนอกพื้นที่ด้วย
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสนั่น พงษ์อักษร นายอำเภอหนองจิก พร้อมด้วยนายฉัตรเทพ เพิ่มทรัพย์ ปลัดป้องกันอำเภอ พนักงานสืบสวน สภ.หนองจิก และชุดกองวิทยาการปัตตานีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ออกมาเพื่อก่อกวนทำลายขวัญและสร้างสถานการณ์ก่อนเปิดภาคเรียน
ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางฝ่ายกองกำลังได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วในการที่จะดูแลความปลอดภัยครู โดยได้กำชับทุกหน่วยได้ปฏิบัติตามแผนที่ได้ประชุมตกลงกับคณะครู และผู้บริหารโรงเรียนเอาไว้อย่างเคร่งครัด เช่น การจัดชุดคุ้มกันเส้นทาง ชุดรับครูตามจุดนัดพบต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตามโครงการปรับปรุงบ้านพักครูให้มีความสมบูรณ์เพื่อให้ครูเข้ามาพักอาศัย เพื่อลดระยะทางของการเดินทางลดน้อยลงไปด้วย
ที่ จ.นราธิวาสช่วงเวลา 06.00 น. พ.ต.เอกพล เลขนอก รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 ชุดช่วยราชการ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านบาโงแยะ หมู่ 2 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฏหมาย และติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีมั่นคง จากการเข้าตรวจค้น สามารถยึดลูกกระเดื่องซึ่งเป็นระเบิดชนิดขว้างทำด้วยท่อ พี.วี.ซี.สีเทา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว 6 ชุด และเหล็กเส้นขนาด 3 หุนตัดท่อนเป็นสะเก็ดระเบิดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม บรรจุในกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น โดยทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ในโรงทำยางแผ่น หลังบ้านเลขที่ 54/2 บ้านบาโงแยะ ต.ตันหยงลิมอ ซึ่งเป็นบ้านของนายเจ๊ะอารง เจ๊ะแน อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง และจากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ทราบว่านายเจ๊ะอารงไม่อยู่ในบ้านเพราะไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายซาการียา เจ๊ะแน อายุ 52 ปี พี่ชายของนายเจ๊ะอารง ไปสอบสวนขยายผล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวกลุ่มพูโลขอเจรจากับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ข่าวการเจรจามีมาตลอด ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนก็มีคนอาสาไปเจรจากันมาก แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่คิดว่าจะมีใครไปทำเช่นนั้น เพราะไม่ทราบว่าจะไปเจรจากับใคร แต่ถ้ามีการติดต่อขอเจรจามาจริง ต้องขอดูว่าเป็นใคร เพราะมีอยู่หลายกลุ่ม หากเป็นกลุ่มเก่าๆ ก็อาจสั่งการไม่ได้
“จำไม่ได้หรือมีคนเคยนำมาออกทีวีกัน ผมไม่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น มันจะยุ่ง ขณะนี้เราก็ดูแลประชาชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษอยู่แล้ว”