ASTV ผู้จัดการรายวัน - คณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติปลดออก “สุชาติ เหมือนแก้ว” สั่งสลายม็อบเหตุการณ์ 7 ตุลา ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด พ่วงด้วยอดีตผู้การอุดร “เพิ่มศักดิ์” ปล่อยเสื้อแดงรุมทำร้ายประชาชนที่หนองประจักษ์ อุดรธานี “สุชาติ” บอกรับราชการมานานขอพักผ่อน นช.แม้วโฟนอินยุตำรวจแข็งข้อรัฐบาล
วานนี้ (29 ต.ค.) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.และกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภจ.อุดรธานี โดยใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง 30 นาที
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรง พล.ต.ท.สุชาติ จากกรณีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 7 ต.ค. 51 และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กรณีถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยให้กลุ่มประชาชน พร้อมอาวุธหลายชนิด บุกเข้าทำร้าย ประชาชนชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2551 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า คณะกรรมการได้พิจารณาซึ่งมี 2 แนวทาง คือ ปลดออก หรือ ไล่ออก โดยได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า การปฏิบัติงานของทั้ง 2 คน ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคณะกรรมการมีมติเห็นว่าควรลงโทษสถานเบาที่สุดคือปลดออก สำหรับหนังสือที่ทาง พล.ต.ท.สุชาติ ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. นั้น ตนได้เรียนแล้วว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีอำนาจพิจารณา เนื่องจากเป็นการพิจารณาโทษ ตามคำชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ซึ่งมี 2 แนวทางเท่านั้น
“คณะกรรมการมีความเห็นว่าทั้ง 2 คน ได้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์และสุดความสามารถ จึงได้ลงโทษสถานเบาที่สุดคือปลดออก แต่ผมก็เรียนไปว่าเราไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้”
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การพิจารณาของคณะกรรมการ ได้นำแนวทางกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาโทษทางวินัยโดยให้ปลดออก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.มาเป็นบรรทัดฐาน เมื่อถามว่าทั้ง 2 คน จะสามารถยื่นอุทธรณ์ร้องขอความเป็นธรรมได้อีกหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของบุคคลทั้ง 2 สามารถทำได้ ซึ่งอาจจะไปยื่นอุทธรณ์ต่อ ศาลปกครอง
ด้าน พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า หลังคณะกรรมการพิจารณาลงมติให้ปลดออกแล้ว ตนคงจะไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. มีกฏข้อบังคับอยู่ในตัวอยู่แล้ว คงปล่อยให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ซึ่งตนคงจะต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
“หากเขาปลดออกผมก็คงจะออก เราคงไปทำอะไรไม่ได้ ซึ่งมีกฎปิดปากอยู่ แต่ผมก็อยากจะออกอยู่แล้ว” พล.ต.ท.สุชาติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.จ.อุดรธานี ได้เข้าดำรงตำแหน่ง ผบก.จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2551 ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งได้ประมาณ 2 เดือน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนรักอุดร ที่ถูกนายขวัญชัย ไพรพนา ปลุกระดม ยกพวกเข้าไปทำร้ายพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี ที่กำลังเปิดเวทีปราศรัยภายในสวนสาธารณประจักษ์ศิลปาคม เมื่อวันที่ 24 ก.ค.51
“แม้ว” โฟนอินยุ ตร.แข็งข้อ “มาร์ค”
เย็นวันเดียวกัน นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ารายการวิทยุชุมชนคนรักอุดรคลื่น97.50 ของนายขวัญชัย ไพรพนา แสดงความเห็นเรื่องการปลด พล.ต.ทสุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.ภ.4 และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภ.อุดรธานี ว่า จะได้รู้ว่ารัฐบาลนี้ 2 มาตรฐาน ใครอยู่บนความถูกต้องรักประชาธิปไตยที่เขาหาว่าเป็นข้างเสื้อแดง โดนหมด ประเทศตราบใดความยุติธรรมไม่เกิด ยังไม่แสดงความชัดเจนเรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่มีทางปรองดองกันได้ ถ้าเป็นอย่างนี้นับวันจะยิ่งเสียหาย ยังไม่สายที่จะปรองดองกัน วันๆ หนึ่งคิดแก้ปัญหาชาติ แต่กลับมาเข่นฆ่าคนที่ไม่เห็นด้วย ทั้งที่เป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ไปรับคำสั่งกันมาทั้งนั้น กฎหมายที่เคยเรียนมา ไม่มีเกียรติภูมิไม่ได้คิดเรื่องถูกต้องกันหรอก รับคำสั่งกันมาหมด อยากบอก พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ และทุกคนให้มีกำลังใจ ชีวิตอายุราชการท่านยังอยู่อีกนานเชื่อว่าจะได้ความเป็นธรรมกลับคืนมา เพราะฉะนั้นเราต้องอดทน กฎหมายเขาใช้เพื่อรักษาความเป็นธรรม รักษาสันติสุข ไม่ใช้พร่ำเพรื่อให้เกิดความแตกแยก
วานนี้ (29 ต.ค.) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.และกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 ช่วยราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภจ.อุดรธานี โดยใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง 30 นาที
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นการประชุมคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรง พล.ต.ท.สุชาติ จากกรณีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 7 ต.ค. 51 และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กรณีถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยให้กลุ่มประชาชน พร้อมอาวุธหลายชนิด บุกเข้าทำร้าย ประชาชนชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2551 จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า คณะกรรมการได้พิจารณาซึ่งมี 2 แนวทาง คือ ปลดออก หรือ ไล่ออก โดยได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า การปฏิบัติงานของทั้ง 2 คน ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคณะกรรมการมีมติเห็นว่าควรลงโทษสถานเบาที่สุดคือปลดออก สำหรับหนังสือที่ทาง พล.ต.ท.สุชาติ ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. นั้น ตนได้เรียนแล้วว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีอำนาจพิจารณา เนื่องจากเป็นการพิจารณาโทษ ตามคำชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ซึ่งมี 2 แนวทางเท่านั้น
“คณะกรรมการมีความเห็นว่าทั้ง 2 คน ได้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์และสุดความสามารถ จึงได้ลงโทษสถานเบาที่สุดคือปลดออก แต่ผมก็เรียนไปว่าเราไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้”
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า การพิจารณาของคณะกรรมการ ได้นำแนวทางกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาโทษทางวินัยโดยให้ปลดออก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.มาเป็นบรรทัดฐาน เมื่อถามว่าทั้ง 2 คน จะสามารถยื่นอุทธรณ์ร้องขอความเป็นธรรมได้อีกหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของบุคคลทั้ง 2 สามารถทำได้ ซึ่งอาจจะไปยื่นอุทธรณ์ต่อ ศาลปกครอง
ด้าน พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า หลังคณะกรรมการพิจารณาลงมติให้ปลดออกแล้ว ตนคงจะไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. มีกฏข้อบังคับอยู่ในตัวอยู่แล้ว คงปล่อยให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ซึ่งตนคงจะต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
“หากเขาปลดออกผมก็คงจะออก เราคงไปทำอะไรไม่ได้ ซึ่งมีกฎปิดปากอยู่ แต่ผมก็อยากจะออกอยู่แล้ว” พล.ต.ท.สุชาติกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.จ.อุดรธานี ได้เข้าดำรงตำแหน่ง ผบก.จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2551 ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งได้ประมาณ 2 เดือน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนรักอุดร ที่ถูกนายขวัญชัย ไพรพนา ปลุกระดม ยกพวกเข้าไปทำร้ายพันธมิตรฯ จ.อุดรธานี ที่กำลังเปิดเวทีปราศรัยภายในสวนสาธารณประจักษ์ศิลปาคม เมื่อวันที่ 24 ก.ค.51
“แม้ว” โฟนอินยุ ตร.แข็งข้อ “มาร์ค”
เย็นวันเดียวกัน นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ารายการวิทยุชุมชนคนรักอุดรคลื่น97.50 ของนายขวัญชัย ไพรพนา แสดงความเห็นเรื่องการปลด พล.ต.ทสุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.ภ.4 และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภ.อุดรธานี ว่า จะได้รู้ว่ารัฐบาลนี้ 2 มาตรฐาน ใครอยู่บนความถูกต้องรักประชาธิปไตยที่เขาหาว่าเป็นข้างเสื้อแดง โดนหมด ประเทศตราบใดความยุติธรรมไม่เกิด ยังไม่แสดงความชัดเจนเรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่มีทางปรองดองกันได้ ถ้าเป็นอย่างนี้นับวันจะยิ่งเสียหาย ยังไม่สายที่จะปรองดองกัน วันๆ หนึ่งคิดแก้ปัญหาชาติ แต่กลับมาเข่นฆ่าคนที่ไม่เห็นด้วย ทั้งที่เป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ไปรับคำสั่งกันมาทั้งนั้น กฎหมายที่เคยเรียนมา ไม่มีเกียรติภูมิไม่ได้คิดเรื่องถูกต้องกันหรอก รับคำสั่งกันมาหมด อยากบอก พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ และทุกคนให้มีกำลังใจ ชีวิตอายุราชการท่านยังอยู่อีกนานเชื่อว่าจะได้ความเป็นธรรมกลับคืนมา เพราะฉะนั้นเราต้องอดทน กฎหมายเขาใช้เพื่อรักษาความเป็นธรรม รักษาสันติสุข ไม่ใช้พร่ำเพรื่อให้เกิดความแตกแยก
