นายกฯ อภิสิทธิ์ เร่ง 4 หน่วยงาน ส่งคำวินิจฉัยสั่งลงโทษ “พัชรวาท” คาดอย่างช้าถึงมือวันนี้ เผยมี 2 ทางเลือก ไม่ปลดออก-ไล่ออก ระบุกรณี “สุชาติ” ควรใช้เกณฑ์เดียวกัน
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ รร.ดุสิตธานีหัวหิน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาลงโทษ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการสั่งสลายการชุมนุมในวันที่ 7 ต.ค.2551 ที่ผ่านมาว่า ในวันนี้ (15 ต.ค.) สำนักงาน ก.พ. คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.), สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้ง 4 หน่วยงาน ที่ได้ขอความเห็นไปก็จะส่งรายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ โดยได้สั่งการไปว่าให้ตรวจดูให้ครบถ้วนทุกอย่าง แล้วเสนอมา ทั้งนี้ หากมาถึงมือภายในวันนี้ (15 ต.ค.) ก็จะรีบพิจารณาทันที โดยจะยึดเอาบรรทัดฐานจากข้อพิจารณาที่เสนอในที่ประชุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า บทลงโทษมี 2 ทาง คือ ปลดออกกับไล่ออก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็มี 2 ทางคือไล่ออกกับปลดออก ส่วนจะต้องเป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.หรือไม่ ตนเห็นว่าในสำนวนพฤติการณ์ที่ระบุมีความแตกต่างตรงนี้ก็แล้วแต่มุมมอง แต่ในเชิงข้อกฏหมายกับเกณฑ์ในการใช้ การพิจารณาควรจะเป็นเกณฑ์เดียวกัน เช่น ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในทางวินัยอย่างไร
เมื่อถามว่าคนที่ใช้อำนาจต่างกันคือนายกฯ กับ ก.ตร.ตรงนี้ควรต้องมีบรรทัดฐานเดียวกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จากที่ ก.ตร.มาด้วยก็จะได้รับทราบว่า แนวที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้ในเชิงข้อกฎหมายและในส่วนของมติ ครม.มีอะไรไว้บ้างและรวมไปถึงการเทียบเคียงกับทางก.พ.
“ก.ตร.เอง ที่มาก็ยังมีข้อสงสัยในเรื่องของคนใช้อำนาจแต่ก็ได้จบไปแล้ว คือ ก.ตร.สงสัยว่า เมื่อเป็นคดีเดียวกัน ควรจะเป็นคนเดียวสั่ง หรือไม่ แต่ข้อยุติทางกฎหมาย คือ หลักของเรื่องนี้ คือใครมีอำนาจแต่งตั้ง คนนั้นต้องเป็นผู้ออกคำสั่ง เพราะฉะนั้น กรณีของคุณสุชาติก็จะเป็นเรื่องของทางรักษาการ ผบ.ตร. และเมื่อมีคำสั่งออกมาท่านสุชาติก็ต้องรับไปปฎิบัติ ไม่ปฏิบัติก็จะมีปัญหา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าบทลงโทษของทั้ง 2 คนจะแตกต่างกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ดูกรณีของ พล.ต.ท.สุชาติ ส่วนในเรื่องมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงจะเป็นเรื่องของการทุจริต แต่กรณีนี้ไม่ได้ชี้เรื่องทุจริต
