นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่มีตนกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีปัญหากัน ยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลนี้โดยพรรคร่วมรัฐบาลหลายๆพรรคยังเหนี่ยวแน่น และมีปณิธานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน
ส่วนกรณีที่มีปัญหาความขัดแย้งภายในกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ นั้นเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ ต้องไปแก้กันเอง
เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องพูดคุยกับนายอลงกรณ์ หรือไม่นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ รมว.พาณิชย์ และรมช.พาณิชย์ ต้องพูดคุยกันเอง เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าจะมีการปรับครม.ในตำแหน่งอื่น นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันไม่ได้ เพราะว่าจะมีการปรับในตำแหน่งของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี มาแทน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีตำแหน่งว่าง
เมื่อถามย้ำถึงผลงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 10 เดือนที่ผ่านมามีอะไรเด่นชัดบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า ถึงเวลาจะแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้มีชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม รวมอยู่ด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่มีชี่อของพล.อ.ประวิตร ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ 100 เปอร์เซ็นต์
**"เจ๊วา"ยันไม่มีปัญหากับ"เสี่ยจ้อน"
ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ แสดงความไม่พอใจการแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีของกระทรวงพาณิชย์ว่า เรื่องทุกอย่างจบตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.แล้ว แต่กับนายอลงกรณ์ นั้นยังไม่ได้คุยกัน เพราะวันที่ 27 ต.ค.ตนไม่ได้เข้าประชุมครม.
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างจบหมดแล้วอีกทั้งตนกับนายอลงกรณ์ได้คุยกันแล้วระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่หัวหิน นายอลงกรณ์บอกว่าตัวก็ไม่มีอะไร เพียงแต่การทำงานของนายอลงกรณ์นั้น ก็มีทีมงานและที่ปรึกษาซึ่งเราก็เข้าใจ ยืนยันว่าการแต่งตั้งนั้นไม่ใช่การอาศัยช่วงที่นายอลงกรณ์ไม่อยู่แล้วชิงดำเนินการ
**อ้างที่ผ่านมาตามใจสารพัด
ผู้สื่อข่าวถามว่านายอลงกรณ์ระบุว่าเดิมมีข้อตกลงกันแล้วข้อตกลงดังกล่าวคืออะไร นางพรทิวา กล่าวว่า เป็นสถานการณ์หนึ่งในวันนั้น แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยน มีโจทย์เข้ามาใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนายอลงกรณ์ขออะไรมาก็ทำให้หมดทุกคน แต่อาจจะไม่ได้ตรงตามตำแหน่งที่นายอลงกรณ์ต้องการ แต่ส่วนใหญ่ได้ทั้งหมดก็น่าจะโอเค
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแบ่งงานนั้นตามหลักการแล้วขึ้นกับอำนาจรัฐมนตรีว่าการ อีกทั้งกรมที่รมว.พาณิชย์ ดูแลตนก็ให้นายอลงกรณ์มาช่วยดูแล ไปดูงานต่างประเทศอะไรต่างๆ ก็บ่อย เซ็นอนุมัติให้ตลอด บางทีก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเยอะ ทำให้ทุกอย่าง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาแบ่งงานกันใหม่ เพราะปกติก็ทำกับแบบบูรณาการอยู่แล้ว
**เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม
ส่วนจะกลายเป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นางพรทิวา กล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรคนั้นชัดเจน กรณีนี้เป็นเรื่องของกระทรวงมากกว่า นายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับพรรค ให้ไปคุยกันเอาเอง อีกทั้งคนที่นายอลงกรณ์อยากให้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้น ก็เป็นรองอธิบดีแค่ปีเดียว ขณะที่คนอื่นเป็นมา 6 ปี ปกติแล้วตามธรรมเนียมของกระทรวงเขาไม่ตั้งกัน แต่เราก็ทำตามที่ท่านต้องการ ทุกอย่างเราทำให้หมดตามที่ขอมา มีเพียงบางตำแหน่งอาจไม่ได้ตามต้องการ แต่ทุกคนได้ขึ้นหมด
"กับท่านอลงกรณ์ไม่ได้มีอะไรกัน แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ความจริงไม่มีอะไร ต่างคนต่างทำงานกันได้ด้วยดี ช่วยซึ่งกันและกันอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าที่ท่านอลงกรณ์ ออกมาพูดนั้นคิดอะไรอยู่ แต่ตัวดิฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว สบายๆ เพราะเรื่องใหญ่ของกระทรวงที่ต้องเร่งทำคือเรื่องสินค้าเกษตร ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง เมื่อครม.แต่งตั้งเสร็จก็ถือว่าจบไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก อีกทั้งนายกฯ ก็ชัดเจนว่าเรื่องผ่านไปแล้ว และให้เป็นเรื่องภายใน" นางพรทิวากล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างนางพรทิวา และนายอลงกรณ์ ว่าพรรคภูมิใจไทยมีความเห็นเหมือนกับนายกฯ คือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่เป็นเรื่องการบริหารภายในกระทรวง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ อยู่กันแค่ 2 คนน่าจะคุยกัน เท่าที่ฟังมาสิ่งที่นางพรทิวา ตอบสื่อก็มีความชัดเจนคือ มีการพูดคุยกันตลอด อาจจะไม่ได้ดั่งใจ 100 เปอร์เซนต์ แต่ในที่สุดแล้วมันไม่ได้แปลว่าคนที่ไม่ได้ดั่งใจทำงานไม่ได้ เรื่องนี้ควรจะละเลิกออกมาพูดกันข้างนอก วันนี้ไม่ใช่ปัญหาของพรรค
**ภูมิใจไทยยันไม่ปรับ"พรทิวา"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนกระทรวงนี้รัฐมนตรีจะมีปัญหาบ่อย ควรจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ถือว่าเป็นหน่วยงานที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนส่วนใหญ่ไม่ว่าเรื่องการดูแลสินค้าเกษตร หรือสินค้าอุปโภค บริโภค รวมถึงการค้าขายระหว่างประเทศ ฉะนั้นการทำงานที่จะจูนให้เข้าด้วยกันในความเห็นที่แตกต่างระดับรัฐมนตรีกับรัฐบาล จำเป็นต้องพูดคุยกันมาก
หากถามว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเปล่า ก็ต้องถามว่านางพรทิวา ทำงานไม่ดีตรงไหน วันนี้คิดว่าอยู่ที่คนสองคนคุยกัน เชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะจบลงได้
ส่วนที่มองกันว่าที่นี้ มีข่าวการทุจริตเกิดขึ้นบ่อยนั้น เห็นว่า ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เวลานี้กระบวนการตรวจสอบทั้งภาคประชาชน และองค์กรอิสระมีความเอาจริงเอาจัง ฉะนั้นการกล่าวหาลอยๆไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกัน และกระทรวงพาณิชย์วันนี้ ไม่ใช่เพียงรัฐมนตรีว่าการเท่านั้นที่ดูแล รัฐบาลเองก็ดูแลอย่างใกล้ชิด หากพูดเรื่องการทุจริต การโกง โดยเฉพาะที่มองว่าฝ่ายบริหารหรือรัฐมนตรีโกงเองนั้น ตนไม่รับประกันว่ารัฐมนตรีพรรคอื่นเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีการตรวจสอบกันเอง ส่วนในชั้นปฏิบัติ หากพบว่ามีการทุจริต เราต้องดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด
เมื่อถามว่ากังวลกับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ที่เวลาพูดเรื่องการทุจริต การโกงพยายามจะโยงมาจากพรรคร่วม นายศุภชัย กล่าวว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็เตือนๆ กันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องไปว่ากล่าวกันเอง ให้ระมัดระวังคำพูด เรื่องแบบนี้จะบอกว่าเราไม่ถือสาก็ไม่ได้ แต่เราเข้าใจธรรมเนียมการอยู่กันของพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้อิสระทางความคิด คำพูด ซึ่งอาจจะเกินเลยเพราะพรรคประ ชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมาวันนี้มาอยู่กันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเขาต้องปรับตัว ซึ่งเราท้วงติงไปหลายครั้งแล้ว
ส่วนกรณีที่มีปัญหาความขัดแย้งภายในกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ นั้นเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ ต้องไปแก้กันเอง
เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องพูดคุยกับนายอลงกรณ์ หรือไม่นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ รมว.พาณิชย์ และรมช.พาณิชย์ ต้องพูดคุยกันเอง เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าจะมีการปรับครม.ในตำแหน่งอื่น นายสุเทพกล่าวว่า ยืนยันไม่ได้ เพราะว่าจะมีการปรับในตำแหน่งของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี มาแทน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีตำแหน่งว่าง
เมื่อถามย้ำถึงผลงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 10 เดือนที่ผ่านมามีอะไรเด่นชัดบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า ถึงเวลาจะแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้มีชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม รวมอยู่ด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ไม่มีชี่อของพล.อ.ประวิตร ในการปรับ ครม.ครั้งนี้ 100 เปอร์เซ็นต์
**"เจ๊วา"ยันไม่มีปัญหากับ"เสี่ยจ้อน"
ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ แสดงความไม่พอใจการแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดีของกระทรวงพาณิชย์ว่า เรื่องทุกอย่างจบตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.แล้ว แต่กับนายอลงกรณ์ นั้นยังไม่ได้คุยกัน เพราะวันที่ 27 ต.ค.ตนไม่ได้เข้าประชุมครม.
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างจบหมดแล้วอีกทั้งตนกับนายอลงกรณ์ได้คุยกันแล้วระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่หัวหิน นายอลงกรณ์บอกว่าตัวก็ไม่มีอะไร เพียงแต่การทำงานของนายอลงกรณ์นั้น ก็มีทีมงานและที่ปรึกษาซึ่งเราก็เข้าใจ ยืนยันว่าการแต่งตั้งนั้นไม่ใช่การอาศัยช่วงที่นายอลงกรณ์ไม่อยู่แล้วชิงดำเนินการ
**อ้างที่ผ่านมาตามใจสารพัด
ผู้สื่อข่าวถามว่านายอลงกรณ์ระบุว่าเดิมมีข้อตกลงกันแล้วข้อตกลงดังกล่าวคืออะไร นางพรทิวา กล่าวว่า เป็นสถานการณ์หนึ่งในวันนั้น แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปสถานการณ์ก็ต้องเปลี่ยน มีโจทย์เข้ามาใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนายอลงกรณ์ขออะไรมาก็ทำให้หมดทุกคน แต่อาจจะไม่ได้ตรงตามตำแหน่งที่นายอลงกรณ์ต้องการ แต่ส่วนใหญ่ได้ทั้งหมดก็น่าจะโอเค
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแบ่งงานนั้นตามหลักการแล้วขึ้นกับอำนาจรัฐมนตรีว่าการ อีกทั้งกรมที่รมว.พาณิชย์ ดูแลตนก็ให้นายอลงกรณ์มาช่วยดูแล ไปดูงานต่างประเทศอะไรต่างๆ ก็บ่อย เซ็นอนุมัติให้ตลอด บางทีก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเยอะ ทำให้ทุกอย่าง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาแบ่งงานกันใหม่ เพราะปกติก็ทำกับแบบบูรณาการอยู่แล้ว
**เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม
ส่วนจะกลายเป็นปัญหาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นางพรทิวา กล่าวว่า ไม่มี เรื่องพรรคนั้นชัดเจน กรณีนี้เป็นเรื่องของกระทรวงมากกว่า นายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนว่าไม่เกี่ยวกับพรรค ให้ไปคุยกันเอาเอง อีกทั้งคนที่นายอลงกรณ์อยากให้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้น ก็เป็นรองอธิบดีแค่ปีเดียว ขณะที่คนอื่นเป็นมา 6 ปี ปกติแล้วตามธรรมเนียมของกระทรวงเขาไม่ตั้งกัน แต่เราก็ทำตามที่ท่านต้องการ ทุกอย่างเราทำให้หมดตามที่ขอมา มีเพียงบางตำแหน่งอาจไม่ได้ตามต้องการ แต่ทุกคนได้ขึ้นหมด
"กับท่านอลงกรณ์ไม่ได้มีอะไรกัน แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ความจริงไม่มีอะไร ต่างคนต่างทำงานกันได้ด้วยดี ช่วยซึ่งกันและกันอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าที่ท่านอลงกรณ์ ออกมาพูดนั้นคิดอะไรอยู่ แต่ตัวดิฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว สบายๆ เพราะเรื่องใหญ่ของกระทรวงที่ต้องเร่งทำคือเรื่องสินค้าเกษตร ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง เมื่อครม.แต่งตั้งเสร็จก็ถือว่าจบไปแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก อีกทั้งนายกฯ ก็ชัดเจนว่าเรื่องผ่านไปแล้ว และให้เป็นเรื่องภายใน" นางพรทิวากล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างนางพรทิวา และนายอลงกรณ์ ว่าพรรคภูมิใจไทยมีความเห็นเหมือนกับนายกฯ คือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่เป็นเรื่องการบริหารภายในกระทรวง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ อยู่กันแค่ 2 คนน่าจะคุยกัน เท่าที่ฟังมาสิ่งที่นางพรทิวา ตอบสื่อก็มีความชัดเจนคือ มีการพูดคุยกันตลอด อาจจะไม่ได้ดั่งใจ 100 เปอร์เซนต์ แต่ในที่สุดแล้วมันไม่ได้แปลว่าคนที่ไม่ได้ดั่งใจทำงานไม่ได้ เรื่องนี้ควรจะละเลิกออกมาพูดกันข้างนอก วันนี้ไม่ใช่ปัญหาของพรรค
**ภูมิใจไทยยันไม่ปรับ"พรทิวา"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนกระทรวงนี้รัฐมนตรีจะมีปัญหาบ่อย ควรจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ถือว่าเป็นหน่วยงานที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนส่วนใหญ่ไม่ว่าเรื่องการดูแลสินค้าเกษตร หรือสินค้าอุปโภค บริโภค รวมถึงการค้าขายระหว่างประเทศ ฉะนั้นการทำงานที่จะจูนให้เข้าด้วยกันในความเห็นที่แตกต่างระดับรัฐมนตรีกับรัฐบาล จำเป็นต้องพูดคุยกันมาก
หากถามว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเปล่า ก็ต้องถามว่านางพรทิวา ทำงานไม่ดีตรงไหน วันนี้คิดว่าอยู่ที่คนสองคนคุยกัน เชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะจบลงได้
ส่วนที่มองกันว่าที่นี้ มีข่าวการทุจริตเกิดขึ้นบ่อยนั้น เห็นว่า ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เวลานี้กระบวนการตรวจสอบทั้งภาคประชาชน และองค์กรอิสระมีความเอาจริงเอาจัง ฉะนั้นการกล่าวหาลอยๆไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกัน และกระทรวงพาณิชย์วันนี้ ไม่ใช่เพียงรัฐมนตรีว่าการเท่านั้นที่ดูแล รัฐบาลเองก็ดูแลอย่างใกล้ชิด หากพูดเรื่องการทุจริต การโกง โดยเฉพาะที่มองว่าฝ่ายบริหารหรือรัฐมนตรีโกงเองนั้น ตนไม่รับประกันว่ารัฐมนตรีพรรคอื่นเป็นอย่างไร แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีการตรวจสอบกันเอง ส่วนในชั้นปฏิบัติ หากพบว่ามีการทุจริต เราต้องดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด
เมื่อถามว่ากังวลกับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ที่เวลาพูดเรื่องการทุจริต การโกงพยายามจะโยงมาจากพรรคร่วม นายศุภชัย กล่าวว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็เตือนๆ กันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องไปว่ากล่าวกันเอง ให้ระมัดระวังคำพูด เรื่องแบบนี้จะบอกว่าเราไม่ถือสาก็ไม่ได้ แต่เราเข้าใจธรรมเนียมการอยู่กันของพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้อิสระทางความคิด คำพูด ซึ่งอาจจะเกินเลยเพราะพรรคประ ชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมาวันนี้มาอยู่กันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเขาต้องปรับตัว ซึ่งเราท้วงติงไปหลายครั้งแล้ว