ASTVผู้จัดการรายวัน-รฟม.ปรับแผนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ขอใช้งบไทยเข้มแข็ง (SP2) จำนวน 30,891 ล้านบาท ส่วนอีก 21,569 ล้านบาทค่าก่อสร้างใช้เงินกู้ในประเทศเหมือนเดิม คาดสัปดาห์หน้าสายสีม่วง ลงนามผู้รับเหมาสัญญา 2 และ 3
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จะเสนอคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการจัดสรรงบประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2) ดำเนินงานในส่วนของการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-บางแคและหัวลำโพง-ท่าพระ กิโลเมตร จำนวน 30,891 ล้านบาท ค่าก่อสร้างอีกประมาณ 21,569 ล้านบาทนั้น จะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศซึ่งเป็นไปตามแผนเดิม โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มีระยะทาง 27 กิโลเมตร มูลค่ารวมประมาณ 52,464 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 พ.ย. 2552 นี้ เพื่อขอขยายกรอบวงเงินค่าก่อสร้างโครงการอีกด้วย ซึ่งรฟม.ได้จัดส่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการขยายกรอบวงเงินค่าก่อสร้างไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2552 โดยการปรับเปลี่ยนแหล่งเงินดำเนินโครงการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือทำให้ล่าช้าแต่อย่างใด เนื่องจากการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นงานส่วนแรกที่จะต้องดำเนินการซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดไม่มีปัญหาใดๆ
ส่วนความคืบหน้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ในส่วนของการลงนามในสัญญาก่อสร้าง 2 และ 3 นั้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้แจ้งว่าจะจัดส่งร่างสัญญากลับมายังรฟม.ได้ภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะสามารถเชิญผู้รับงานมาลงนามในสัญญาก่อสร้างได้
โดยสัญญาที่ 2 ผู้รับเหมาคือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) วงเงิน 13,100 ล้านบาท สัญญาที่ 3 ผู้รับเหมา คือ กลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON,บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) วงเงิน 5,025 ล้านบาท
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จะเสนอคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการจัดสรรงบประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (SP2) ดำเนินงานในส่วนของการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางซื่อ-บางแคและหัวลำโพง-ท่าพระ กิโลเมตร จำนวน 30,891 ล้านบาท ค่าก่อสร้างอีกประมาณ 21,569 ล้านบาทนั้น จะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศซึ่งเป็นไปตามแผนเดิม โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มีระยะทาง 27 กิโลเมตร มูลค่ารวมประมาณ 52,464 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 พ.ย. 2552 นี้ เพื่อขอขยายกรอบวงเงินค่าก่อสร้างโครงการอีกด้วย ซึ่งรฟม.ได้จัดส่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการขยายกรอบวงเงินค่าก่อสร้างไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2552 โดยการปรับเปลี่ยนแหล่งเงินดำเนินโครงการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือทำให้ล่าช้าแต่อย่างใด เนื่องจากการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นงานส่วนแรกที่จะต้องดำเนินการซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดไม่มีปัญหาใดๆ
ส่วนความคืบหน้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ในส่วนของการลงนามในสัญญาก่อสร้าง 2 และ 3 นั้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้แจ้งว่าจะจัดส่งร่างสัญญากลับมายังรฟม.ได้ภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะสามารถเชิญผู้รับงานมาลงนามในสัญญาก่อสร้างได้
โดยสัญญาที่ 2 ผู้รับเหมาคือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) วงเงิน 13,100 ล้านบาท สัญญาที่ 3 ผู้รับเหมา คือ กลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON,บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) วงเงิน 5,025 ล้านบาท
