นางธนิดา อดิวันทนากุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
( UNIQ ) แจ้งถึงการพัฒนาการที่สำคัญของบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัท ฯ ดังนี้
บริษัท ฯ ได้รับงานเมกะโปรเจกต์เป็นรายแรกคือโครงการระบบรถไฟชานเมือง ( สายสีแดง ) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 8,749 ล้านบาท และเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2552 เป็นต้นมา ซึ่งเปิดเผยไปแล้วในโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง ) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีเรื่องการรื้อย้ายชุมชนที่บุกรุกจำนวนประมาณ 3,300 ราย ซึ่งรวมอยู่ในสัญญาก่อสร้างด้วย จึงเป็นที่กังวลของผู้ที่ทราบเรื่อง ซึ่งบริษัท ฯ มีแผนการขับไล่ให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน เพื่อให้ทันต่อแผนงานก่อสร้าง และในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาบริษัท ฯได้ดำเนินการให้ชุมชนที่บุกรุกตกลงที่จะรื้อย้ายแล้วประมาณ 2,600 ราย ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่คาดไว้มากเป็นผลให้งานก่อสร้างสามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท ฯ สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ได้อย่างเต็มที่
สำหรับนโยบายภาครัฐได้ที่ออกโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโครงการนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นงานก่อสร้างขนาดใหญ่ และบริษัท ฯ จะเข้าไปร่วมประมูลทุกงานและในปี 2552 ผู้ถือหุ้นเดิมรายใหญ่ไม่มีการขายหุ้นจากที่ถือครองไว้แต่อย่างใด
นอกจากเหตุผลที่บริษัท ฯ ชี้แจงดังกล่าวข้างต้น บริษัท ฯ ไม่สามารถทราบได้ว่าเพราะเหตุใดราคาหุ้นของบริษัท ฯจึงปรับตัวสูงขึ้น ตามที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสอบถามมา
ขณะราคาหุ้น UNIQ วานนี้ เปิดตลาดที่ 7.90 บาท ก่อนปรับลดลงมาต่ำสุดที่้ 7.25 บาท ก่อนจะปรับขึ้นช่วงบ่ายและปิดตลาดที่ราคา 8 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.56 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 14.37 ล้านบาท
( UNIQ ) แจ้งถึงการพัฒนาการที่สำคัญของบริษัทที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัท ฯ ดังนี้
บริษัท ฯ ได้รับงานเมกะโปรเจกต์เป็นรายแรกคือโครงการระบบรถไฟชานเมือง ( สายสีแดง ) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 8,749 ล้านบาท และเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2552 เป็นต้นมา ซึ่งเปิดเผยไปแล้วในโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง ) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีเรื่องการรื้อย้ายชุมชนที่บุกรุกจำนวนประมาณ 3,300 ราย ซึ่งรวมอยู่ในสัญญาก่อสร้างด้วย จึงเป็นที่กังวลของผู้ที่ทราบเรื่อง ซึ่งบริษัท ฯ มีแผนการขับไล่ให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน เพื่อให้ทันต่อแผนงานก่อสร้าง และในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาบริษัท ฯได้ดำเนินการให้ชุมชนที่บุกรุกตกลงที่จะรื้อย้ายแล้วประมาณ 2,600 ราย ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่คาดไว้มากเป็นผลให้งานก่อสร้างสามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท ฯ สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ได้อย่างเต็มที่
สำหรับนโยบายภาครัฐได้ที่ออกโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งโครงการนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นงานก่อสร้างขนาดใหญ่ และบริษัท ฯ จะเข้าไปร่วมประมูลทุกงานและในปี 2552 ผู้ถือหุ้นเดิมรายใหญ่ไม่มีการขายหุ้นจากที่ถือครองไว้แต่อย่างใด
นอกจากเหตุผลที่บริษัท ฯ ชี้แจงดังกล่าวข้างต้น บริษัท ฯ ไม่สามารถทราบได้ว่าเพราะเหตุใดราคาหุ้นของบริษัท ฯจึงปรับตัวสูงขึ้น ตามที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสอบถามมา
ขณะราคาหุ้น UNIQ วานนี้ เปิดตลาดที่ 7.90 บาท ก่อนปรับลดลงมาต่ำสุดที่้ 7.25 บาท ก่อนจะปรับขึ้นช่วงบ่ายและปิดตลาดที่ราคา 8 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 2.56 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 14.37 ล้านบาท