ASTVผู้จัดการรายวัน-ก.ล.ต.ไฟเขียวบล.ทุกแห่งเทรดอนุพันธ์ต่างประเทศได้แล้ว จากเดิมที่ให้เฉพาะมาร์เกตเมกเกอร์ในโกลด์ฟิวเจอร์สเท่านั้น ช่วยเปิดทางทำกำไร-ป้องกันความเสี่ยงการลงทุน ด้านบล.ฟิลลิป เล็ง เทรดโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาดหุ้นอเมริกาพฤศจิกายนนี้ ตั้งงบลงทุน30 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติแบงก์ชาติ .นำเงินออกไปลงทุน และเปิดบัญชีซื้อขาย "สุชาย" คาดปีหน้าซื้อกิจการโบรกเกอร์เสริมความแข็งแกร่งและฐานลูกค้า ขณะที่ "โกลเบล็ก"แนะฉวยจังหวะราคาทองคำยังไม่สูงเกินเอื้อม ทยอยเก็บเข้าพอร์ตบริหารความเสี่ยงการลงทุน
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้มีการออกประกาศให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไทยทุกแห่งสามารถไปซื้อขายอนุพันธ์อ้างอิงราคาทองคำ(โกลด์ฟิวเจอร์ส)หุ้น และราคาน้ำมันต่างประเทศได้แล้ว จากเดิมก่อนหน้านี้ที่อนุมัติให้เฉพาะบล.ที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมกเกอร์)ในโกลด์ฟิวเจอร์สของบริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)หรือ TFEXเท่านั้นที่สามารถไปลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สต่างประเทศได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดกว้างให้บล.ที่มีความสนใจไปลงทุนต่างประเทศสามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้เพื่อการทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน
สำหรับบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)มีความสนใจที่จะไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในการนำเงินออกนอกประเทศไทยเพื่อไปลงทุน และบริษัทกำลังเปิดบัญชีซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่เพื่อใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขายในต่างประเทศจากที่มีระบบที่พร้อมในการดำเนินการดังกล่าว โดยประเทศที่บริษัทสนใจที่จะไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สต่างประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา เพราะ เป็นตลาดที่มีการการซื้อขายสูง ซึ่งบริษัทได้เตรียมงบลงทุนในต่างประเทศไว้จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีพอร์ตการลงทุนรวมเป็น 330 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ บล.ฟิลลิปคาดว่าจะสามารถไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ต่างประเทศได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการหารือกับบริษัทแม่อยู่ตลอดในเรื่องการไปลงทุนต่างประเทศ และเมื่อทางการไทยอนุมัติให้สามารถไปทำธุรกิจต่างประเทศ ทางบริษัทก็พร้อมที่จะไปทำ ส่วนแนวโน้มจะมีบล.ไปลงทุนต่างประเทศจำนวนมากหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและประสบการณ์ของแต่ละโบรกเกอร์ โดยในระหว่างนี้บริษัทจะมีการศึกษาและหาสูตรในการคำนวณเพื่อใช้ในการลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในต่างประเทศ เพราะ แต่ละประเทศที่มีการเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น มีการอ้างอิงค่าความบริสุทธ์ของทองคำต่างกัน
"2สัปดาห์ที่ผ่านมาก.ล.ตได้มีการออกประกาศให้โบรกเกอร์ทุกแห่งสามารถไปลงทุนอนุพันธ์อ้างอิงหุ้น ราคาน้ำมัน และราคาทองคำในต่างประเทศได้ และคาดว่าก.ล.ต.จะออกประกาศให้นักลงทุนรายย่อยไปลงทุนได้เช่นกัน ซึ่งบริษัทจะไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาดหุ้นอเมริกา และขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดบัญชีซื้อขายที่สิงคโปร์เพื่อใช้เป็นฐานในการส่งคำสั่งซื้อขาย รวมถึงอยู่ระหว่างการขอแบงก์ชาติในการนำเงินออกไปลงทุน ซึ่งคาดว่าใน 2 สัปดาห์น่าจะไปลงทุนได้" นายสุชายกล่าว
อย่างไรก็ตามคาดว่าในเร็วๆนี้ ทางก.ล.ต.จะมีการออกประกาศให้นักลงทุนรายย่อยสามารถไปซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในต่างประเทศเช่นกัน แต่จะกำหนดให้นักลงทุนรายย่อยที่สนใจไปลงทุนต่างประเทศได้นั้น จะต้องเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง (เฮดจ์จิ้ง) เท่านั้น
นายสุชาย กล่าวว่า ในปีหน้าจะเริ่มมีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมซื้อขรายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)แบบขั้นบันได ซึ่งจะทำให้บล.บางแห่งที่ได้รับผลกระทบจากรายได้ค่าคอมมิชชั่นปรับตัวลดลงมาก ทำให้บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปซื้อกิจการของบล.ที่ฐานะอ่อนแอ โดยที่ผ่านมาบริษัทก็มีการเจรจาอยู่เช่นกัน แต่จากการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นนั้นจะทำให้การเจรจาซื้อกิจการทำได้เร็วขึ้น ซึ่งบล.ที่บริษัทต้องการซื้อเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งนั้น จะเป็นบล.ที่มีฐานลูกค้าในต่างจังหวัด เพราะ ขณะนี้เรามีฐานลูกค้าดังกล่าวอยู่ต่ำ ซึ่งตรงจุดนี้จะช่วยให้ฐานลูกค้าของบริษัทมีความหลากหลาย
**โกลเบล็กแนะทยอยซื้อทองรับตรุษจีน**
นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะนี้จนถึงช่วงปลายปีจะยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งมองว่ายังเป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อขาย เนื่องจากโดยปกติไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮท์ซีซั่นที่มีความต้องการของทองคำเข้ามาจำนวนมาก
“แม้ราคาทองทั้งในประเทศ และต่างประเทศในขณะนี้จะมีการปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2551 หรือเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หากประเมินตามแนวโน้มของราคาในปัจจุบันถือว่ายังสามารถเข้าซื้อได้ เพราะปกติช่วงไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะมีความต้องการ(ดีมานด์)เข้ามามาก จากเทศกาลตรุษจีนที่ต้องยอมรับว่าราคาทองในขณะนั้นอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับทั้งนักลงทุนที่ซื้อเพื่อออม และเพื่อทำกำไรอย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ราคาทองในตลาดโลกช่วงปลายปี 2551 อยู่ในระดับ 880 ดอลล่าร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ในระดับ 14,250 บาท และปัจจุบันราคาทองในประเทศอยู่ที่ระดับ 16,800บาท/บาททอง ส่วนราคาทองในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 1057.40 ดอลล่าร์/ออนซ์
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า การซื้อขายทองคำถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยสัดส่วนที่นักลงทุนควรลงทุนน่าจะอยู่ในระดับ 10-15% ของพอร์ตการลงทุน ซึ่งการซื้อขายทองของโกลเบล็กจะอิงตามราคาทองคำในตลาดโลกที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา จึงถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายทองคำได้ดีกว่าการอิงตามราคาทองในประเทศเป็นหลัก
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้มีการออกประกาศให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ไทยทุกแห่งสามารถไปซื้อขายอนุพันธ์อ้างอิงราคาทองคำ(โกลด์ฟิวเจอร์ส)หุ้น และราคาน้ำมันต่างประเทศได้แล้ว จากเดิมก่อนหน้านี้ที่อนุมัติให้เฉพาะบล.ที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เกตเมกเกอร์)ในโกลด์ฟิวเจอร์สของบริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)หรือ TFEXเท่านั้นที่สามารถไปลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สต่างประเทศได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดกว้างให้บล.ที่มีความสนใจไปลงทุนต่างประเทศสามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้เพื่อการทำกำไรและป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน
สำหรับบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)มีความสนใจที่จะไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในการนำเงินออกนอกประเทศไทยเพื่อไปลงทุน และบริษัทกำลังเปิดบัญชีซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่อยู่เพื่อใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขายในต่างประเทศจากที่มีระบบที่พร้อมในการดำเนินการดังกล่าว โดยประเทศที่บริษัทสนใจที่จะไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สต่างประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา เพราะ เป็นตลาดที่มีการการซื้อขายสูง ซึ่งบริษัทได้เตรียมงบลงทุนในต่างประเทศไว้จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีพอร์ตการลงทุนรวมเป็น 330 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ บล.ฟิลลิปคาดว่าจะสามารถไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ต่างประเทศได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการหารือกับบริษัทแม่อยู่ตลอดในเรื่องการไปลงทุนต่างประเทศ และเมื่อทางการไทยอนุมัติให้สามารถไปทำธุรกิจต่างประเทศ ทางบริษัทก็พร้อมที่จะไปทำ ส่วนแนวโน้มจะมีบล.ไปลงทุนต่างประเทศจำนวนมากหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและประสบการณ์ของแต่ละโบรกเกอร์ โดยในระหว่างนี้บริษัทจะมีการศึกษาและหาสูตรในการคำนวณเพื่อใช้ในการลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในต่างประเทศ เพราะ แต่ละประเทศที่มีการเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น มีการอ้างอิงค่าความบริสุทธ์ของทองคำต่างกัน
"2สัปดาห์ที่ผ่านมาก.ล.ตได้มีการออกประกาศให้โบรกเกอร์ทุกแห่งสามารถไปลงทุนอนุพันธ์อ้างอิงหุ้น ราคาน้ำมัน และราคาทองคำในต่างประเทศได้ และคาดว่าก.ล.ต.จะออกประกาศให้นักลงทุนรายย่อยไปลงทุนได้เช่นกัน ซึ่งบริษัทจะไปลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในตลาดหุ้นอเมริกา และขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดบัญชีซื้อขายที่สิงคโปร์เพื่อใช้เป็นฐานในการส่งคำสั่งซื้อขาย รวมถึงอยู่ระหว่างการขอแบงก์ชาติในการนำเงินออกไปลงทุน ซึ่งคาดว่าใน 2 สัปดาห์น่าจะไปลงทุนได้" นายสุชายกล่าว
อย่างไรก็ตามคาดว่าในเร็วๆนี้ ทางก.ล.ต.จะมีการออกประกาศให้นักลงทุนรายย่อยสามารถไปซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในต่างประเทศเช่นกัน แต่จะกำหนดให้นักลงทุนรายย่อยที่สนใจไปลงทุนต่างประเทศได้นั้น จะต้องเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง (เฮดจ์จิ้ง) เท่านั้น
นายสุชาย กล่าวว่า ในปีหน้าจะเริ่มมีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมซื้อขรายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)แบบขั้นบันได ซึ่งจะทำให้บล.บางแห่งที่ได้รับผลกระทบจากรายได้ค่าคอมมิชชั่นปรับตัวลดลงมาก ทำให้บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปซื้อกิจการของบล.ที่ฐานะอ่อนแอ โดยที่ผ่านมาบริษัทก็มีการเจรจาอยู่เช่นกัน แต่จากการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นนั้นจะทำให้การเจรจาซื้อกิจการทำได้เร็วขึ้น ซึ่งบล.ที่บริษัทต้องการซื้อเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งนั้น จะเป็นบล.ที่มีฐานลูกค้าในต่างจังหวัด เพราะ ขณะนี้เรามีฐานลูกค้าดังกล่าวอยู่ต่ำ ซึ่งตรงจุดนี้จะช่วยให้ฐานลูกค้าของบริษัทมีความหลากหลาย
**โกลเบล็กแนะทยอยซื้อทองรับตรุษจีน**
นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะนี้จนถึงช่วงปลายปีจะยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งมองว่ายังเป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อขาย เนื่องจากโดยปกติไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮท์ซีซั่นที่มีความต้องการของทองคำเข้ามาจำนวนมาก
“แม้ราคาทองทั้งในประเทศ และต่างประเทศในขณะนี้จะมีการปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2551 หรือเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หากประเมินตามแนวโน้มของราคาในปัจจุบันถือว่ายังสามารถเข้าซื้อได้ เพราะปกติช่วงไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะมีความต้องการ(ดีมานด์)เข้ามามาก จากเทศกาลตรุษจีนที่ต้องยอมรับว่าราคาทองในขณะนั้นอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับทั้งนักลงทุนที่ซื้อเพื่อออม และเพื่อทำกำไรอย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ราคาทองในตลาดโลกช่วงปลายปี 2551 อยู่ในระดับ 880 ดอลล่าร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ในระดับ 14,250 บาท และปัจจุบันราคาทองในประเทศอยู่ที่ระดับ 16,800บาท/บาททอง ส่วนราคาทองในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 1057.40 ดอลล่าร์/ออนซ์
นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า การซื้อขายทองคำถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยสัดส่วนที่นักลงทุนควรลงทุนน่าจะอยู่ในระดับ 10-15% ของพอร์ตการลงทุน ซึ่งการซื้อขายทองของโกลเบล็กจะอิงตามราคาทองคำในตลาดโลกที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา จึงถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายทองคำได้ดีกว่าการอิงตามราคาทองในประเทศเป็นหลัก