ทรงพระเจริญ ในหลวงปรากฏพระองค์ พระพักตร์แจ่มใส เสด็จรอบโรงพยาบาลศิริราช ถวายราชสักการะพระบรมรูป ร.5 พระบรมราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก-พระบรมราชชนนี พสกนิกรดีใจ เปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้องศิริราช สื่อนอกเสนอข่าวในหลวงปรากฏพระองค์ครั้งแรกไปทั่วโลก
วานนี้ (23 ต.ค.) เวลา 12.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ประทับรถเข็นไฟฟ้าไปยังตึกสยามินทร์ ในการถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอาคาร เนื่องในโอกาสวันปิยมหาราช วันที่ 23 ตุลาคม 2552
จากนั้นคณะแพทย์เข็นรถพระที่นั่งถวายไปยังศาลาศิริราช 100 ปี ทรงถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากนั้นประทับรถเข็นพระที่นั่งมาที่ด้านหน้าศาลาศิริราช 100 ปี พระราชทานพวงมาลัยให้แพทย์เชิญไปถวายราชสักการะที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จากนั้นได้ประทับทอดพระเนตรพระราชานุสาวรีย์ และบริเวณโดยรอบที่มีประชาชนจำนวนมากที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอยู่ด้วยความปลาบปลื้มตื้นตัน
จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะแพทย์เข็นรถพระที่นั่งไปยังอาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ทอดพระเนตรพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และนิทรรศการสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ที่โรงพยาบาลจัดขึ้นในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 109 ปี วันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา จากนั้นได้ทอดพระเนตรใต้อาคารที่มีร้านหนังสือนายอินทร์ และร้านกาแฟดอยตุง ก่อนประทับรถเข็นพระที่นั่งไปทอดพระเนตรส่วนต่างๆ ของโรงพยาบาลต่อไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า ซึ่งตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนิน พสกนิกรที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จต่างรู้สึกยินดีและปลาบปลื้มที่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และเห็นว่าพระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง โดยจากประกาศสำนักพระราชวัง ฉบับที่ 33 ที่ออกเมื่อวันที่ 23 ต.ค.รายงานว่าพระอาการโดยทั่วไปคงที่ พระกำลังพระวรกายแข็งแรงขึ้น เสวยพระกระยาหาร และทรงพระบรรทมได้เป็นปกติ คณะแพทย์ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะจนครบกำหนด และถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการต่อไป
บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราชวานนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากประชาชนได้รับทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินถวายสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช ฯลฯ และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จ โดยในเวลา13.30 น. สามเณรจำนวน 117 รูป ที่ได้บรรพชาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากวัดสุณียศรัทธาธรรม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพร
ขณะที่พสกนิกรเดินทางเข้าลงนามถวายพระพรในสมุดที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจัดเตรียมไว้ มีทั้งมากันเป็นครอบครัวและหมู่คณะ เช่น คณะครูและนักเรียน คณะสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ตามด้วยคณะผู้ชนะเลิศจากการประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2009 องค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ก็ยังคงมีประชาชนจุดธูปขอพรพร้อมนั่งอธิฐานจิตที่บริเวณสนามหญ้า โดยหันหน้าไปทางอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เพื่อขอให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร
ผู้นำอาเซียนลงนามถวายพระพร
บ่ายวานนี้ ที่ รร.เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ถวายพระพรว่า ในนามรัฐบาล และประชาชนชาวสิงคโปร์ ข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุด และขอถวายพระพร และความปรารถนาดีไปถึงพระองค์ ขอให้ทรงหายจากอาการประชวร และมีพระพลานามัยสมบูรณ์โดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีบรรดาผู้นำของแต่ละประเทศได้ร่วมลงนามถวายพระพร ณ โรงแรมที่พัก อาทิ นายยูกิโอะ ฮาโตยามา นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้ลงนามถวายพระพร ที่ รร.ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช และ ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ลงนามถวายพระพร ที่ รร.เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
"ประชาชนผู้ที่มาร่วมลงนามถวายพระพรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นการเดินทางมากันเป็นครอบครัว ในส่วนคณะแพทย์และพยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก็ต่างมีใบหน้ายิ้มแย้ม เนื่องจากมีความชัดเจนว่าในหลวงฯใกล้หายจากพระอาการประชวร โดยไม่ต้องรอฟังแถลงการณ์สำนักพระราชวัง" ผู้สื่อข่าวรายงาน
ที่ รพ.ศิริราช นายวรวีร์ มะกูร์ดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์ นายไบรอัน ร็อบสัน โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย และกรรมการบริหารสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า พร้อมคณะผู้บริหารและนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดเอเชียนคัพและซีเกมส์ ร่วมลงนามถวายพระพร
นางสมถวิล ช่วงอรุณ อายุ 78 ปี เดินทางมาลงนามพร้อมบุตรสาวและหลาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนลูกหลานมาร่วมลงนามถวายพระพร เมื่อได้เห็นพระองค์ท่านและได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด จึงรู้สึกดีใจและปลื้มปิติ ขนลุกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก จนน้ำตาไหล ถือเป็นบุญตาเพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นพระองค์ท่าน อยากให้บ้านเมืองสงบสุขเพื่อถวายให้กับในหลวงฯ ขอให้ท่านมีพระพลานามัยแข็งแรงและพระชนม์อายุยืนนาน
ที่ จ.นครราชสีมา นายธีระศักดิ์ เกตุพรหมราช อายุ 29 ปี ชาว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พนักงานบริษัท กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปิติ ดีใจและโล่งใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นพระองค์ท่านทรงเสด็จพระราชดำเนินได้แล้ว ในฐานะเป็นพสกนิกรชาวไทยก็ขอให้คนไทยที่อยู่ทุกมุมโลกจงหลอมรวมและร้อยใจเป็นหนึ่งเดียวอธิษฐานให้พระองค์ท่านทรงหายจากพระอาการประชวร กลับมามีพระวรกายที่แข็งแรงเป็นดวงใจของคนไทยตลอดไป
สื่อต่างประเทศตีข่าว
สำนักข่าวและบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่ของต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศส สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ต่างพร้อมใจกันนำเสนอรายงานข่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนีเมื่อวันศุกร์ (23) เผยแพร่ไปทั่วโลก โดยต่างบรรยายว่าเป็นการปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรงพระประชวร และเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
ในรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศยังได้บรรยายถึงภาพพสกนิกรชาวไทยจำนวนมากที่เดินทางไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและต่างพากันเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ตลอดเส้นทางที่พระองค์เสร็จพระราชดำเนิน.
วานนี้ (23 ต.ค.) เวลา 12.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ประทับรถเข็นไฟฟ้าไปยังตึกสยามินทร์ ในการถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านหน้าอาคาร เนื่องในโอกาสวันปิยมหาราช วันที่ 23 ตุลาคม 2552
จากนั้นคณะแพทย์เข็นรถพระที่นั่งถวายไปยังศาลาศิริราช 100 ปี ทรงถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากนั้นประทับรถเข็นพระที่นั่งมาที่ด้านหน้าศาลาศิริราช 100 ปี พระราชทานพวงมาลัยให้แพทย์เชิญไปถวายราชสักการะที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จากนั้นได้ประทับทอดพระเนตรพระราชานุสาวรีย์ และบริเวณโดยรอบที่มีประชาชนจำนวนมากที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอยู่ด้วยความปลาบปลื้มตื้นตัน
จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะแพทย์เข็นรถพระที่นั่งไปยังอาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ทอดพระเนตรพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และนิทรรศการสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ที่โรงพยาบาลจัดขึ้นในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 109 ปี วันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา จากนั้นได้ทอดพระเนตรใต้อาคารที่มีร้านหนังสือนายอินทร์ และร้านกาแฟดอยตุง ก่อนประทับรถเข็นพระที่นั่งไปทอดพระเนตรส่วนต่างๆ ของโรงพยาบาลต่อไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า ซึ่งตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนิน พสกนิกรที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จต่างรู้สึกยินดีและปลาบปลื้มที่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และเห็นว่าพระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง โดยจากประกาศสำนักพระราชวัง ฉบับที่ 33 ที่ออกเมื่อวันที่ 23 ต.ค.รายงานว่าพระอาการโดยทั่วไปคงที่ พระกำลังพระวรกายแข็งแรงขึ้น เสวยพระกระยาหาร และทรงพระบรรทมได้เป็นปกติ คณะแพทย์ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะจนครบกำหนด และถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการต่อไป
บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราชวานนี้ เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากประชาชนได้รับทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินถวายสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช ฯลฯ และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จ โดยในเวลา13.30 น. สามเณรจำนวน 117 รูป ที่ได้บรรพชาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากวัดสุณียศรัทธาธรรม จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพร
ขณะที่พสกนิกรเดินทางเข้าลงนามถวายพระพรในสมุดที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจัดเตรียมไว้ มีทั้งมากันเป็นครอบครัวและหมู่คณะ เช่น คณะครูและนักเรียน คณะสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ตามด้วยคณะผู้ชนะเลิศจากการประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2009 องค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ก็ยังคงมีประชาชนจุดธูปขอพรพร้อมนั่งอธิฐานจิตที่บริเวณสนามหญ้า โดยหันหน้าไปทางอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เพื่อขอให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร
ผู้นำอาเซียนลงนามถวายพระพร
บ่ายวานนี้ ที่ รร.เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ถวายพระพรว่า ในนามรัฐบาล และประชาชนชาวสิงคโปร์ ข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพอย่างสูงสุด และขอถวายพระพร และความปรารถนาดีไปถึงพระองค์ ขอให้ทรงหายจากอาการประชวร และมีพระพลานามัยสมบูรณ์โดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีบรรดาผู้นำของแต่ละประเทศได้ร่วมลงนามถวายพระพร ณ โรงแรมที่พัก อาทิ นายยูกิโอะ ฮาโตยามา นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้ลงนามถวายพระพร ที่ รร.ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช และ ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ลงนามถวายพระพร ที่ รร.เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
"ประชาชนผู้ที่มาร่วมลงนามถวายพระพรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นการเดินทางมากันเป็นครอบครัว ในส่วนคณะแพทย์และพยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก็ต่างมีใบหน้ายิ้มแย้ม เนื่องจากมีความชัดเจนว่าในหลวงฯใกล้หายจากพระอาการประชวร โดยไม่ต้องรอฟังแถลงการณ์สำนักพระราชวัง" ผู้สื่อข่าวรายงาน
ที่ รพ.ศิริราช นายวรวีร์ มะกูร์ดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์ นายไบรอัน ร็อบสัน โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย และกรรมการบริหารสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า พร้อมคณะผู้บริหารและนักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดเอเชียนคัพและซีเกมส์ ร่วมลงนามถวายพระพร
นางสมถวิล ช่วงอรุณ อายุ 78 ปี เดินทางมาลงนามพร้อมบุตรสาวและหลาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดจึงชวนลูกหลานมาร่วมลงนามถวายพระพร เมื่อได้เห็นพระองค์ท่านและได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด จึงรู้สึกดีใจและปลื้มปิติ ขนลุกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก จนน้ำตาไหล ถือเป็นบุญตาเพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นพระองค์ท่าน อยากให้บ้านเมืองสงบสุขเพื่อถวายให้กับในหลวงฯ ขอให้ท่านมีพระพลานามัยแข็งแรงและพระชนม์อายุยืนนาน
ที่ จ.นครราชสีมา นายธีระศักดิ์ เกตุพรหมราช อายุ 29 ปี ชาว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พนักงานบริษัท กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปิติ ดีใจและโล่งใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นพระองค์ท่านทรงเสด็จพระราชดำเนินได้แล้ว ในฐานะเป็นพสกนิกรชาวไทยก็ขอให้คนไทยที่อยู่ทุกมุมโลกจงหลอมรวมและร้อยใจเป็นหนึ่งเดียวอธิษฐานให้พระองค์ท่านทรงหายจากพระอาการประชวร กลับมามีพระวรกายที่แข็งแรงเป็นดวงใจของคนไทยตลอดไป
สื่อต่างประเทศตีข่าว
สำนักข่าวและบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่ของต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศส สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ และสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ต่างพร้อมใจกันนำเสนอรายงานข่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนีเมื่อวันศุกร์ (23) เผยแพร่ไปทั่วโลก โดยต่างบรรยายว่าเป็นการปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรงพระประชวร และเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา
ในรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศยังได้บรรยายถึงภาพพสกนิกรชาวไทยจำนวนมากที่เดินทางไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและต่างพากันเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ตลอดเส้นทางที่พระองค์เสร็จพระราชดำเนิน.