“สวนเสือศรีราชา”รุกตลาดครั้งใหม่ ร่วมเคทีซี- ไทยทิคเก็ตฯ ขายทัวร์

ศูนย์ข่าวศรีราชา -สวนเสือศรีราชา เดินหน้าจัดทำแผนการตลาดครั้งใหญ่ กระตุ้นไทยเที่ยวไทย หลังวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองช่วงปลายปี 51 – กลางปี 52 ทำนักท่องเที่ยวหายกว่า 50 % ล่าสุดจับมือร่วม เคทีซี และบริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เปิดขายบัตรท่องเที่ยวโปรแกรมพิเศษที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือบัตร พร้อมทุ่มงบบางส่วนพัฒนาโครงการขนาดเล็ก ที่ยังค้างให้เสร็จรับการรุกเต็มรูปแบบทั้งในและต่าง ประเทศในปีหน้า

นายวสันต์ เต็มศิริพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ซู จำกัด ผู้บริหารสวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดแสดงสัตว์โดยเฉพาะเสือและจระเข้ รวมทั้งการแสดงความ สามารถของสัตว์นานาชนิดเผยว่า หลังแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มมีให้เห็นตั้งแต่ช่วงกลางปี 52 ทำให้สวนเสือศรีราชา ต้องเร่งจัดทำแผนตลาดเพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

หลังจากในช่วงปลายปี 2551 จนถึงกลางปี 2552 ภาวะเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาการเมืองในประเทศ และการตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลก จนทำให้สวนเสือศรีราชา ต้องประสบปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หายไปกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวไทยหายไปไม่น้อยกว่า 20%

ทำให้สวนเสือศรีราชา ต้องปรับลดค่าใช้จ่าย และชะลอการลงทุนในโครงการใหญ่ เช่น โครงการไนท์ซู ที่มีงบลงทุนเกือบ 100 ล้านบาท การก่อสร้างรีสอร์ต รวมถึงการจัดโรดโชว์ในต่างประเทศ

“แนวโน้มทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เพิ่ม ขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางมาเข้าค่ายพักแรมและเที่ยวชมสวนเสือของกลุ่มเด็กนักเรียนที่เติบโตกว่า 100% รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปัจจุบันหายไปเพียง 30% ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะจัดทำแผนตลาดเพื่อรองรับการเติบโตในปีหน้าหากไม่มีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาแทรก โดยแผนแรก เราได้ร่วมมือกับกลุ่ม KTC ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เพื่อมอบสิทธิพิเศษและโปรแกรมท่อง เที่ยวราคาประหยัดให้แก่ผู้ถือบัตร และยังร่วมกับบริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด ซึ่งจะเป็นตัวแทนจำหน่ายโปรแกรมท่องเที่ยวราคาพิเศษให้เรา ”

นายวสันต์ เผยอีกว่าการจับมือร่วมกับ 2 องค์กรใหญ่จากส่วนกลาง จะทำให้ตัวเลขการเติบโตในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยของสวนเสือศรีราชาเฉพาะแพกเกจที่จัดทำในส่วนนี้มีไม่น้อยกว่า 5% ของยอดนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีเฉลี่ย 4-5 แสนคนต่อปี ซึ่งในส่วนของ KTC จะเริ่มกิจกรรมดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่การจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวร่วมกับไทยทิคเก็ตฯ จะเริ่มในเดือนธันวาคม

ขณะที่การทำตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะยังไม่ดำเนินการจนกว่าจะถึงปี 2553 เพื่อรอดูว่าเศรษฐกิจโลกเป็นเช่นไร หากดีขึ้นก็จะเดินทางไปจัดโรดโชว์เพื่อสร้างตลาดใหม่และดึงตลาดหลักกลับคืน

นอกจากนั้นในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา สวนเสือศรีราชา ยังได้นำโครงการขนาดเล็กที่เบรกการลงทุนไว้ตั้งแต่ปลายปี 51 เช่น โครงการอุทยานเสือ ที่มีแผนดำเนินการเมื่อหลายปีก่อนและมีแผนลงทุนในปี 51กลับมาปัดฝุ่นใหม่เพื่อให้เป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางรูปแบบที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสให้อาหารเสืออย่างใกล้ชิด คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2553 ภายใต้งบดำเนินการ 7 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังทุ่มงบประมาณปรับพื้นที่บริเวณโดมเสือ ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตและจัดกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นฐาน และที่พักสำหรับกลุ่มนักเรียนที่มาเข้าค่ายพักแรมโดยพบว่าการเติบโตของกลุ่มนักเรียนในส่วนนี้มีมากกว่า 100%

ส่วนงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งยังใช้ในการปรับรูปแบบการแสดงต่างๆ เพื่อเพิ่มสีสันในการชมการแสดงของนักท่องเที่ยว ซึ่งในปี 2553 สวนเสือศรีราชา ยังมีแผนที่จะทุ่มงบลงทุนเพื่อพัฒนาด้านการ ตลาดอีกไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท

“รายได้ที่จะทำให้สวนเสือศรีราชาอยู่ได้แบบสบายๆ จะต้องมีไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเมื่อก่อนนี้เราทำได้ แต่เมื่อต้องเจอกับวิกฤตรอบด้านทำให้ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมามีเพียง 8-9 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้นในปีหน้าเมื่อเราเดินแผนการตลาดไปได้ระยะหนึ่งแล้วก็คาดว่ารายได้ของเราจะกระเตื้องขึ้นเป็นลำดับ และเราจะมุ่งทำตลาดในกลุ่มเด็กนักเรียนให้เพิ่มมากขึ้นหลังพบแนวโน้มตลาดในส่วนนี้ค่อนข้างสดใส ”นายวสันต์ กล่าว