ASTV ผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.ยอมรับวืดเป้าหมายการขายปิโตรเลียมปีนี้ คาดลดลง 3-5% หลังหลายโครงการมีปัญหาทั้งอาทิตย์เหนือ และมอนทาราที่ออสเตรเลีย เล็งศึกษาปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือขายบางโครงการที่ถือหุ้นอยู่ใน 40 โครงการ 13 ประเทศ แต่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนแหล่ง M9 ที่พม่าเพิ่มขึ้น พร้อมหาพันธมิตรร่วมงาน
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ปริมาณการขายปิโตรเลียมของบริษัทจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.4 แสนบาร์เรล/วัน ประมาณ 3-5% เนื่องจากแหล่งผลิตอาทิตย์เหนือมีปัญหา และแหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลียเกิดการรั่วไหลของน้ำมัน ทำให้การผลิตเชิงพาณิชย์ล่าช้าจากแผนเดิมไตรมาส 4/2552 เป็นไตรมาส 1/2553 เบื้องต้นจะผลิตน้ำมัน 3.5-4 หมื่นบาร์เรล/วัน โดยคาดว่าจะแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทาราได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น จะทำงานร่วมมือกับบริษัทออสเตรเลียให้ใกล้ชิดมากขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้น ได้มีการทำประกันความเสียหายครอบคลุมเกือบทุกกรณี เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถได้รับการชดใช้จากบริษัทประกัน
ในปีนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนรายได้ เนื่องจากปริมาณการขายปิโตรเลียมลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปรับตัวสูงกว่า 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ไตรมาสแรกปีนี้ราคาเฉลี่ยน้ำมันต่ำมากอยู่ที่บาร์เรลละ 38-40 เหรียญสหรัฐ
นายอนนต์กล่าวว่า ขณะนี้ระบบส่งก๊าซฯ จากแท่นแหล่งบงกชดำเนินการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สามารถส่งก๊าซฯ ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ได้ตามปกติแล้ว 630 ล้านลบ.ฟุต/วัน ซึ่งช่วงที่ปตท.หยุดรับก๊าซฯจากแหล่งบงกชนั้น คงต้องดูสัญญาการซื้อขายว่าจะดำเนินบทปรับปตท.หรือไม่
ส่วนการลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือขายบางโครงการที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 40 โครงการใน 13 ประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างรอบคอบ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้ ทำให้งบการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่จะมีความชัดเจนว่าจะเลือกลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพที่ดี โดยปีหน้าจะมีค่าใช้จ่ายในการสำรวจแหล่ง M 9 ที่พม่ามากขึ้น
ในปลายปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเซ็นสัญญาซื้อขายปิโตรเลียมที่แหล่ง M 9 หลังจากพิจารณาการหาพันธมิตรร่วมทุนในแหล่งดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาว่าต้องการพาร์ทเนอร์อย่างไร โดยมองว่าการเงิน และเทคโนโลยีก็ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักในการเลือกพาร์ทเนอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทเจรจาให้โอมานเข้าร่วมถือหุ้นด้วย แต่การดำเนินการล่าช้าทำให้โอมานไม่สนใจที่จะลงทุนแล้ว
ส่วนปัญหามาบตาพุดที่ศาลปกครองกลางสั่งระงับกิจการ 76 โครงการ รวมโรงแยกก๊าซฯ หน่วย 6 ที่จะแล้วเสร็จต้นปี 2553 หากโรงแยกฯ 6 ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้จะกระทบการจำหน่ายก๊าซฯ ที่บริษัทจะส่งป้อนเข้าโรงแยกฯ 6 แต่บริษัทได้วางแผนสำรอง โดยจะจัดส่งก๊าซฯ ให้ผู้ผลิตรายอื่นที่ส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าเป็นหลัก
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ปริมาณการขายปิโตรเลียมของบริษัทจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.4 แสนบาร์เรล/วัน ประมาณ 3-5% เนื่องจากแหล่งผลิตอาทิตย์เหนือมีปัญหา และแหล่งมอนทาราที่ออสเตรเลียเกิดการรั่วไหลของน้ำมัน ทำให้การผลิตเชิงพาณิชย์ล่าช้าจากแผนเดิมไตรมาส 4/2552 เป็นไตรมาส 1/2553 เบื้องต้นจะผลิตน้ำมัน 3.5-4 หมื่นบาร์เรล/วัน โดยคาดว่าจะแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทาราได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น จะทำงานร่วมมือกับบริษัทออสเตรเลียให้ใกล้ชิดมากขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้น ได้มีการทำประกันความเสียหายครอบคลุมเกือบทุกกรณี เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถได้รับการชดใช้จากบริษัทประกัน
ในปีนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนรายได้ เนื่องจากปริมาณการขายปิโตรเลียมลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปรับตัวสูงกว่า 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ไตรมาสแรกปีนี้ราคาเฉลี่ยน้ำมันต่ำมากอยู่ที่บาร์เรลละ 38-40 เหรียญสหรัฐ
นายอนนต์กล่าวว่า ขณะนี้ระบบส่งก๊าซฯ จากแท่นแหล่งบงกชดำเนินการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สามารถส่งก๊าซฯ ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ได้ตามปกติแล้ว 630 ล้านลบ.ฟุต/วัน ซึ่งช่วงที่ปตท.หยุดรับก๊าซฯจากแหล่งบงกชนั้น คงต้องดูสัญญาการซื้อขายว่าจะดำเนินบทปรับปตท.หรือไม่
ส่วนการลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือขายบางโครงการที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 40 โครงการใน 13 ประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างรอบคอบ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปีนี้ ทำให้งบการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่จะมีความชัดเจนว่าจะเลือกลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพที่ดี โดยปีหน้าจะมีค่าใช้จ่ายในการสำรวจแหล่ง M 9 ที่พม่ามากขึ้น
ในปลายปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเซ็นสัญญาซื้อขายปิโตรเลียมที่แหล่ง M 9 หลังจากพิจารณาการหาพันธมิตรร่วมทุนในแหล่งดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาว่าต้องการพาร์ทเนอร์อย่างไร โดยมองว่าการเงิน และเทคโนโลยีก็ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักในการเลือกพาร์ทเนอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทเจรจาให้โอมานเข้าร่วมถือหุ้นด้วย แต่การดำเนินการล่าช้าทำให้โอมานไม่สนใจที่จะลงทุนแล้ว
ส่วนปัญหามาบตาพุดที่ศาลปกครองกลางสั่งระงับกิจการ 76 โครงการ รวมโรงแยกก๊าซฯ หน่วย 6 ที่จะแล้วเสร็จต้นปี 2553 หากโรงแยกฯ 6 ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้จะกระทบการจำหน่ายก๊าซฯ ที่บริษัทจะส่งป้อนเข้าโรงแยกฯ 6 แต่บริษัทได้วางแผนสำรอง โดยจะจัดส่งก๊าซฯ ให้ผู้ผลิตรายอื่นที่ส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าเป็นหลัก
