“ทรูวิชั่นส์” มัดมืดชก “สมาชิก”

“เปิดชีวิตมุมมองใหม่ เปิด ทรูวิชั่นส์” สโลแกนของทรูวิชั่นส์ ที่เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปีก่อน เพื่อให้สอดรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ต้องการขยายฐานผู้ชมไปสู่ระดับต่างจังหวัดให้ได้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ามันส่งผลต่อทัศนคติผู้ชมอย่างจัง เพราะใครที่ดูทรูวิชั่นส์ ก็เหมือนกำลังยกระดับความฉลาดของตัวเองให้เพิ่มสูงขึ้น ตามที่สโลแกนเขาว่าไว้

แต่...แน่ใจแล้วหรือ?

เพราะตั้งแต่ทรูวิชั่นส์หน้าบานหาช่องทางเพิ่มรายได้ จากการที่สามารถแก้ไขสัญญากับทาง อสมท ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้สามารถโฆษณาได้ 6 นาทีต่อชั่วโมง ตามที่ พ.ร.บ.การการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ปี 2551 ได้มีผลบังคับใช้ได้แล้ว ยิ่งดูเหมือนสิทธิ์ที่สมาชิกรับชมทรูวิชั่นส์ ดูจะเหลือน้อยลงไปทุกที

ทรูวิชั่นส์ กล่าวอ้างถึง กลไกราคาตลาด ว่าไม่สามารถแก้ไขค่าสมาชิกหรือค่าแพกเกจได้ จะไม่มีการลดราคาค่าสมาชิก แม้ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโฆษณาได้ มันแปลได้ว่า “ทรูวิชั่นส์มีแต่ได้กับได้” แล้วสมาชิกจะยังคงฉลาดขึ้นอีกหรือ?

เพราะมาตรการที่ทรูวิชั่นส์ นำมาใช้เลี่ยงความสูญเสียของตน คือเหตุผลเดียว ทรูวิชั่นส์จะขยายช่องเพิ่ม จะเห็นคอนเทนต์ใหม่ๆ ร่วมกับผู้จัดรายการเข้ามาผลิตให้

แต่ที่ผ่านมาเป็นที่สังเกตว่า ช่องรายการที่ทรูวิชั่นส์เริ่มนำมาเสริมทัพ กลับเป็นคอนเทนต์เดิมๆ ที่นำมาฉายซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นช่องตลกอย่าง Hay Ha, ช่องเพลงป๊อปเก่าๆ กับ Majung หรือแม้กระทั่งช่องขายสินค้าอย่างช่อง Shopping Network และเมื่อเทียบกับช่องรายการที่ซื้อสิทธิ์มาจากต่างประเทศ ดูจะยังห่างชั้นกันเยอะ ผู้ชมก็ยังกดเปลี่ยนไปดูช่องเดิมๆ แล้วแบบนี้สมาชิกของทรูวิชั่นส์ ยังจะสามารถเปิดชีวิตมุมมองใหม่ได้หรือ?

เมื่อหันมามองค่าบริการที่ทรูวิชั่นส์จัดการแบ่งแพกเกจการรับชมออกเป็น 3 แพกเกจใหญ่1.Platinum Package 82 ช่อง รายเดือน 2,000 บาท / เดือน 2.Gold Package 71 ช่อง รายเดือน 1,412.97 บาท / เดือน และ3.Silver Package 61 ช่อง รายเดือน 750 บาท / เดือน จะเห็นว่าราคายิ่งแพง นั่นคือสมาชิกจะได้ดูคอนเท้นท์ที่ใหม่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการบันเทิง เพลง สารคดี ภาพยนตร์ การ์ตูน และที่ขาดไม่ได้และดูเหมือนจะเป็นตัวดึงดูดให้สมาชิกชอบจ่าย ขยับไปเลือกแพกเกจที่ราคาสูงขึ้น คือ กีฬา

กีฬา จะเป็นข้ออ้างชั้นดีที่ทรูวิชั่นส์ ยังเสียงแข็งที่จะไม่มีการปรับลดราคาค่าสมาชิกลงมาแน่ เพราะเล่นผูกขาดการแข่งขันกีฬาดีๆ โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ไว้แบบนี้ สมาชิกก็ต้องก้มหน้าง้ออยู่วันยังค่ำ จะทำอย่างไรได้ จะเปิดชีวิตมุมมองใหม่ได้ มันก็ต้องเงินถึงหน่อย

สิ่งที่ทรูวิชั่นส์ได้ในวันนี้ ถือเป็นสิ่งที่ได้อยู่ฝ่ายเดียว ค่าตอบแทนที่ให้กับ อสมท ในอัตรา 6.5% จากรายได้โฆษณานั้น ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า มันสมเหตุสมผลที่ อสมท ควรจะได้รับแล้วหรือไม่

ขณะที่ตัวเลขโฆษณาทางทรูวิชั่นส์ ก็ตอบได้ไม่เต็มปาก ว่าต่อปีฟันรายได้ไปมากเท่าไร อ้างเพียงว่า เคเบิลทีวีแบบตอบรับสมาชิกที่ทำกันในต่างประเทศ อย่างเก่งจะมีรายได้จากโฆษณาอยู่ที่ไม่เกิน 5% ของรายได้ที่มาจากสมาชิก นั่นเท่ากับว่ารายได้ต่อปีของทรูวิชั่นส์ ที่มีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาทในปีนี้ จะมีรายได้จากโฆษณาสูงถึง 500 ล้านบาท มอบให้ อสมท เพียง 32.5 ล้านบาท เท่ากับว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นจริงๆอีก 467.5 ล้านบาท

ขณะที่สมาชิกยังคงแบกรับภาระจากราคาสมาชิกเท่าเดิม แถมต้องดูโฆษณาพ่วงไปด้วย ซึ่งไม่ได้แตกต่างกับดูฟรีทีวีเท่าไรนัก ไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรเลย แน่ใจแล้วหรือ ว่าสมาชิกจะสามารถ เปิดชีวิตมุมมองใหม่ เปิดทรูวิชั่นส์ ได้จริง

หรือว่าสิทธิพิเศษของสมาชิกทรูวิชั่นส์ก็คือ เมื่อจ่ายเงินเป็นสมาชิกทรูวิชั่นส์แล้ว จะได้ดูโฆษณาพ่วงไปด้วยแบบเสียเงิน คงเข้าทำนองที่ สมาชิกทรูวิชั่นส์ ถูกมัดมือชก คงไม่ผิดนัก

นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงการที่ทรูวิชั่นส์มีโฆษณาได้ว่า เชื่อว่าทางทรูวิชั่นส์จะไม่มีทางลดค่าสมาชิกลงแน่นอน ตามที่ทางทรูวิชั่นส์ได้แสดงเจตจำนงค์ไว้ แม้จะมีช่องทางหารายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น แต่คงจะให้ความสำคัญกับเรื่องของคอนเท้นท์เป็นหลักที่จะเป็นสิ่งผูกใจให้สมาชิกยังคงเลือกใช้บริการรับชมอยู่ แม้ว่าจะมีโฆษณาให้รำคาญใจก็ตาม

ขณะที่การหารายได้จากโฆษณาดูจะเป็นดาบ 2 คม ให้ทั้งคุณและโทษในเวลาเดียวกันแบบนี้ เชื่อว่าคำตัดสินนี้ อยู่ที่จำนวนฐานสมาชิกของทรูวิชั่นส์เป็นสำคัญ ตัวเลข 2 ล้านครัวเรือนที่หวังจะได้ในสิ้นปีนี้ จะเป็นไปได้จริงแค่ไหน

แล้วใครกัน จะได้ประโยชน์จากสโลแกน “เปิดชีวิตมุมมองใหม่ เปิด ทรูวิชั่นส์” นี้จริงๆ

หรือต้องเปลี่ยนสโลแกนใหม่เป็น “เปิดช่องโฆษณาใหม่ๆ เปิดทรูวิชั่นส์”