อสมท ประสบความสำเร็จในการแก้สัญญาโฆษณาได้กับทาง ทรูวิชั่นส์ สรุปตัวเลขแบ่งรายได้ให้ที่อัตรา 6.5% ของรายได้โฆษณา อสมทได้ช่องเพิ่มอีก 3 ช่อง พร้อมรับทรัพย์ค่าชดเชยที่ทรูวิชั่นส์เล่นแง่ไว้อีก 110.86 ล้านบาท ด้านทรูวิชั่นส์ยิ้ม ลุยขายโฆษณาเต็มที่ พร้อมดึงพันธมิตรร่วมเปิดช่องรายการโลคอลคอนเท้นท์เพิ่มไม่ต่ำกว่า 7 ช่องในปีหน้า
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่พรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2551 ที่ผ่านมา โดยมีข้อกฏหมายที่อนุญาตให้เคเบิลทีวีสามารถมีโฆษณาได้ ชม.ละ 6 นาทีนั้น ในส่วนของทรูวิชั่นส์ก็ได้เริ่มทำการโฆษณาไปบ้างแล้ว โดยไม่ได้เจรจาตกลงกับทางอสมทก่อนซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทาน
ดังนั้นทางอสมทจึงได้ติดตามประเด็นและเจรจากับทางทรูวิชั่นส์มาตลอด เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ว่าทาง ทรูวิชั่นส์ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนในส่วนที่โฆษณาได้นี้ให้กับทางอสมทในอัตราที่เท่าไร รวมถึงทางอสมทยังได้ตรวจสอบในกรณีปัญหาอื่นๆที่ทางทรูวิชั่นส์ได้ทำผิดสัญญาไว้ด้วย
ล่าสุดวานนี้ (8 ต.ค.) ทางอสมท และทางทรูวิชั่นส์ ได้เจรจาหาข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว พร้อมด้วยการทำพิธีลงนามแก้ไขเพิ่มเติมในสัญญาร่วมดำเนินกิจการโทรทัศน์ ระบบบอกรับสมาชิก โดยอสมท อนุญาตให้บ.ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการรับทำโฆษณาได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ที่ทรูวั่นส์สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
โดยในรายละเอียดเพิ่มเติมในสัญญานั้น ทางทรูวิชั่นส์ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนจากการที่สามารถโฆษณาได้ให้กับอสมทในอัตรา 6.5% ต่อปี จากรายได้โฆษณา โดยคิดในอัตราเดียวกับค่าตอบแทนรายได้ปกติที่ทรูวิชั่นส์จ่ายให้ต่อปีที่ 6.5% จากรายได้ทรูวิชั่นส์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ ยังได้บทสรุปในส่วนที่ทางทรูวิชั่นส์ ได้ทำผิดสัญญาในส่วนอื่นๆก่อนหน้านี้ด้วย โดยทรูวิชั่นส์ยอมจ่ายค่าชดเชยให้ทั้งหมดรวมแล้วเป็นเม็ดเงินกว่า 110.86 ล้านบาท มาจาก 3 ส่วน คือ 1.กรณีที่ทางทรูวิชั่นส์ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยในส่วนนี้ทางทรูวิชั่นส์ ตกลงจ่ายค่าชดเชยให้เป็นจำนวน 89 ล้านบาท แบ่งจ่ายออกมาเป็นเช็คทั้งหมด 12 ใบ
ในระยะเวลาจำนวน 12 เดือน พร้อมดอกเบี้ย3% 2.กรณีที่ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้มีการแจ้งรายการการสั่งซื้ออุปกรณ์ วัสดุต่างๆในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าทำผิดสัญญา ในส่วนนี้ทรูวิชั่นส์ยอมจ่ายค่าปรับเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
และ3. กรณีการที่ทางทรูวิชั่นส์ มีการลงโฆษณาก่อนที่จะมีการเจรจาตั้งแต่ปีก่อน ส่วนนี้ทางทรูวิชั่นส์ ได้จ่ายค่าชดเชยให้เป็นเงินที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาทด้วย โดยรายได้ 110.86 ล้านบาทนี้ จัดเป็นรายรับของอสมท ที่จะปรากฎในบัญชีรายรับในช่วงเดือนต.ค นี้ทันที
อย่างไรก็ตามยังมีบางเรื่องที่ทางอสมทต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของค่าตอบแทนปกติ จากรายได้จากระบบบอกรับสมาชิกที่ทรูวิชั่นส์ จ่ายให้อสมท ในอัตรา 6.5% นั้น มองว่าน้อยเกินไป จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันใหม่อีกครั้งต่อไป
นายสุรพลกล่าวถึงสัญญาสัมทปานของ่อง 3 ด้วยว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถเจรจาตกลงกันได้ภายในเดือนต.ค.นี้แน่นอน โดยหวังว่าแนวทางข้อตกลงจะเป็นไปในลักษณะเดียวกับทรูวิชั่นส์
ด้านนายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และนายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวร่วมกันว่า ในส่วนของทรูวิชั่นส์ พร้อมเดินหน้าเรื่องการขายโฆษณาเต็มที่ หลังจากที่ได้มีการแก้สัญญาโฆษณาได้แล้ว โดยหวังในส่วนของการดึงพันธมิตร หรือผู้ผลิตรายการต่างๆ
เข้ามาร่วมธุรกิจกันมากกว่าเรื่องของเวลาลงโฆษณา ซึ่งมองในส่วนของการผลิตคอนเท้นท์หรือผลิตช่องเพิ่ม คาดว่าในปีหน้า อย่างน้อยน่าจะเห็นช่องโลคอลคอนเท้นท์ใหม่เพิ่มอีกอย่างน้อย 7 ช่อง ขณะที่อสมท ยังได้ช่องเพิ่มอีก 3 ช่อง จากการแก้สัญญาครั้งนี้ด้วย
สำหรับตัวเลขรายได้จากการโฆษณานั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลขไว้ชัดเจนว่าควรจะอยู่ที่เท่าไรต่อปี แต่ในต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไม่เกิน 5% ของรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวี สำหรับทรูวิชั่นส์ ที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการเรื่องโฆษณาไปเพียงช่องเดียว คือ ช่องข่าวTNN โดยตัวเลขรายได้จากโฆษณาก็ไม่ได้สูงมากนัก
ซึ่งปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีช่องคอนเท้นท์ที่ผลิตเองอยู่ราว 20 กว่าช่อง โดยทั้งหมดสามารถลงโฆษณาได้ ส่วนช่องต่างประเทศนั้น มีโอกาสที่จะลงโฆษณาได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์ทำรายได้รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีสมาชิกที่รับชมอยู่กว่า 1.6 ล้านครัวเรือน ในสิ้นปีนี้เชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 2 ล้านครัวเรือนหรือในตัวเลขที่ใกล้เคียง โดยมาจากฐานลูกค้าระดับแมสเป็นหลัก
ทั้งนี้หลังจากที่ทางทรูวิชั่นส์สามารถโฆษณาได้แล้วนั้น บริษัทเตรียมพร้อมที่จะมีการประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกให้รับทราบ โดยสมาชิกจะได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทมุ่งหาคอนเท้นท์ต่างๆมาให้ได้รับชมกันมากขึ้น ส่วนแนวทางในการลดค่าบริการนั้น มองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก หรืออาจจะไม่ใช่แนวทางในระยะอันใกล้นี้เพราะเป็นตัวเลขที่เป็นไปตามกลไกของตลาดอยู่แล้ว.
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่พรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2551 ที่ผ่านมา โดยมีข้อกฏหมายที่อนุญาตให้เคเบิลทีวีสามารถมีโฆษณาได้ ชม.ละ 6 นาทีนั้น ในส่วนของทรูวิชั่นส์ก็ได้เริ่มทำการโฆษณาไปบ้างแล้ว โดยไม่ได้เจรจาตกลงกับทางอสมทก่อนซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทาน
ดังนั้นทางอสมทจึงได้ติดตามประเด็นและเจรจากับทางทรูวิชั่นส์มาตลอด เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ว่าทาง ทรูวิชั่นส์ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนในส่วนที่โฆษณาได้นี้ให้กับทางอสมทในอัตราที่เท่าไร รวมถึงทางอสมทยังได้ตรวจสอบในกรณีปัญหาอื่นๆที่ทางทรูวิชั่นส์ได้ทำผิดสัญญาไว้ด้วย
ล่าสุดวานนี้ (8 ต.ค.) ทางอสมท และทางทรูวิชั่นส์ ได้เจรจาหาข้อตกลงร่วมกันได้แล้ว พร้อมด้วยการทำพิธีลงนามแก้ไขเพิ่มเติมในสัญญาร่วมดำเนินกิจการโทรทัศน์ ระบบบอกรับสมาชิก โดยอสมท อนุญาตให้บ.ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการรับทำโฆษณาได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ที่ทรูวั่นส์สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
โดยในรายละเอียดเพิ่มเติมในสัญญานั้น ทางทรูวิชั่นส์ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนจากการที่สามารถโฆษณาได้ให้กับอสมทในอัตรา 6.5% ต่อปี จากรายได้โฆษณา โดยคิดในอัตราเดียวกับค่าตอบแทนรายได้ปกติที่ทรูวิชั่นส์จ่ายให้ต่อปีที่ 6.5% จากรายได้ทรูวิชั่นส์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ ยังได้บทสรุปในส่วนที่ทางทรูวิชั่นส์ ได้ทำผิดสัญญาในส่วนอื่นๆก่อนหน้านี้ด้วย โดยทรูวิชั่นส์ยอมจ่ายค่าชดเชยให้ทั้งหมดรวมแล้วเป็นเม็ดเงินกว่า 110.86 ล้านบาท มาจาก 3 ส่วน คือ 1.กรณีที่ทางทรูวิชั่นส์ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยในส่วนนี้ทางทรูวิชั่นส์ ตกลงจ่ายค่าชดเชยให้เป็นจำนวน 89 ล้านบาท แบ่งจ่ายออกมาเป็นเช็คทั้งหมด 12 ใบ
ในระยะเวลาจำนวน 12 เดือน พร้อมดอกเบี้ย3% 2.กรณีที่ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้มีการแจ้งรายการการสั่งซื้ออุปกรณ์ วัสดุต่างๆในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าทำผิดสัญญา ในส่วนนี้ทรูวิชั่นส์ยอมจ่ายค่าปรับเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
และ3. กรณีการที่ทางทรูวิชั่นส์ มีการลงโฆษณาก่อนที่จะมีการเจรจาตั้งแต่ปีก่อน ส่วนนี้ทางทรูวิชั่นส์ ได้จ่ายค่าชดเชยให้เป็นเงินที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาทด้วย โดยรายได้ 110.86 ล้านบาทนี้ จัดเป็นรายรับของอสมท ที่จะปรากฎในบัญชีรายรับในช่วงเดือนต.ค นี้ทันที
อย่างไรก็ตามยังมีบางเรื่องที่ทางอสมทต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของค่าตอบแทนปกติ จากรายได้จากระบบบอกรับสมาชิกที่ทรูวิชั่นส์ จ่ายให้อสมท ในอัตรา 6.5% นั้น มองว่าน้อยเกินไป จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันใหม่อีกครั้งต่อไป
นายสุรพลกล่าวถึงสัญญาสัมทปานของ่อง 3 ด้วยว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถเจรจาตกลงกันได้ภายในเดือนต.ค.นี้แน่นอน โดยหวังว่าแนวทางข้อตกลงจะเป็นไปในลักษณะเดียวกับทรูวิชั่นส์
ด้านนายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และนายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวร่วมกันว่า ในส่วนของทรูวิชั่นส์ พร้อมเดินหน้าเรื่องการขายโฆษณาเต็มที่ หลังจากที่ได้มีการแก้สัญญาโฆษณาได้แล้ว โดยหวังในส่วนของการดึงพันธมิตร หรือผู้ผลิตรายการต่างๆ
เข้ามาร่วมธุรกิจกันมากกว่าเรื่องของเวลาลงโฆษณา ซึ่งมองในส่วนของการผลิตคอนเท้นท์หรือผลิตช่องเพิ่ม คาดว่าในปีหน้า อย่างน้อยน่าจะเห็นช่องโลคอลคอนเท้นท์ใหม่เพิ่มอีกอย่างน้อย 7 ช่อง ขณะที่อสมท ยังได้ช่องเพิ่มอีก 3 ช่อง จากการแก้สัญญาครั้งนี้ด้วย
สำหรับตัวเลขรายได้จากการโฆษณานั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลขไว้ชัดเจนว่าควรจะอยู่ที่เท่าไรต่อปี แต่ในต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไม่เกิน 5% ของรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวี สำหรับทรูวิชั่นส์ ที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการเรื่องโฆษณาไปเพียงช่องเดียว คือ ช่องข่าวTNN โดยตัวเลขรายได้จากโฆษณาก็ไม่ได้สูงมากนัก
ซึ่งปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีช่องคอนเท้นท์ที่ผลิตเองอยู่ราว 20 กว่าช่อง โดยทั้งหมดสามารถลงโฆษณาได้ ส่วนช่องต่างประเทศนั้น มีโอกาสที่จะลงโฆษณาได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาทรูวิชั่นส์ทำรายได้รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีสมาชิกที่รับชมอยู่กว่า 1.6 ล้านครัวเรือน ในสิ้นปีนี้เชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 2 ล้านครัวเรือนหรือในตัวเลขที่ใกล้เคียง โดยมาจากฐานลูกค้าระดับแมสเป็นหลัก
ทั้งนี้หลังจากที่ทางทรูวิชั่นส์สามารถโฆษณาได้แล้วนั้น บริษัทเตรียมพร้อมที่จะมีการประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกให้รับทราบ โดยสมาชิกจะได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทมุ่งหาคอนเท้นท์ต่างๆมาให้ได้รับชมกันมากขึ้น ส่วนแนวทางในการลดค่าบริการนั้น มองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก หรืออาจจะไม่ใช่แนวทางในระยะอันใกล้นี้เพราะเป็นตัวเลขที่เป็นไปตามกลไกของตลาดอยู่แล้ว.