เดกซ์ ยอมรับเศรษฐกิจซบทำตลาดลิขสิทธิ์ลำบาก แต่มั่นใจกระแสตอบรับมาสค์ไรเดอร์ยังแรง ล่าสุดเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ เดนโอ บุกตลาดไทย ทำตลาดของเล่นขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น หวังเพิ่มรายได้เติบโต 20%
นายวิเชียร หวังวีรวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด ผู้ดูแลลิขสิทธิ์ มาสค์ไรเดอร์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า การทำตลาดลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ในปัจจุบันนี้ยอมรับว่ามีความยากมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่อย่างไรก็ตาม ไม่หนักใจเท่าใด เพราะมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่ว่าเป็นที่ยอมรับในตลาดอย่างมาก อีกทั้งยังต้องทำการตลาดขึ้นด้วย เพื่อเป็นการเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด
“ในปัจจุบัน มาสค์ไรเดอร์ ถือเป็นคาแรกเตอร์ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ สำหรับเด็กผู้ชายวัย 4-12 ปี แม้ว่าจะมีคาแรกเตอร์ใหม่ๆ จำนวนมากเข้ามาในตลาดหนังฮีโร่แปลงร่าง ไม่ว่าจะมาจากเกาหลี หรือญี่ปุ่น ก็ตาม แต่ในแง่ของผู้บริโภคแล้วก็ยังคงให้การยอมรับในตัวของคาแรกเตอร์ฮีโร่ที่มาจากญี่ปุ่น ซึ่งตลาดรวมยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับในญี่ปุ่น”
ทั้งนี้ นายวิเชียร ยังได้กล่าวถึงคามสำเร็จของมาสค์ไรเดอร์ตัวเดิมที่ผ่านมาในตลาดญี่ปุ่นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ว่า ได้รับความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งทำให้มีความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในตลาดเมืองไทยเช่นเดียวกัน แม้ว่าจำนวนมูลค่าเม็ดเงินไม่มากเท่าก็ตาม เพราะตลาดมีขนาดความใหญ่ต่างกัน กล่าวคือ 1.มาสค์ไรเดอร์ เบลด มีรายได้เกือบ 8,000 ล้านเยน
2.มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ มีรายได้ประมาณ 6,200 ล้านเยน 3.มาสค์ไรเดอร์คาบูโตะ มีรายได้ประมาณ 7,500 ล้านเยน และล่าสุด 4.มาสค์ไรเดอร์เดนดโอ มีรายได้ประมาณ 11,800 ล้านเยน หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาประมาณ 60%
ล่าสุด บริษัทก็ได้เปิดตัวมาสค์ไรเดอร์เวอร์ชันใหม่ในตลาดเมืองไทยต่อจากญี่ปุ่นเพิ่มอีก คือ มาสค์ไรเดอร์เดนโอ ซึ่งจะมีการทำตลาดลิขสิทธิ์มาสค์ไรเดอร์เชิงรุกในทุกรูปแบบ รวมทั้งจะร่วมมือกับคู่ค้า หรือพาร์ทเนอร์ที่ได้รับสิทธิ์ในการผลิตสินค้าต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น แอพพาเรล เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า กลุ่มสเตชันเนอรี กลุ่มของเล่น เป็นต้น
ขณะที่บริษัทเองก็เตรียมที่จะทำตลาดของเล่น ลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช่ของกลุ่มบันไดญี่ปุ่น รวมทั้งวีซีดี ดีวีดี ซึ่งจะวางขายในช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นด้วยเป็นครั้งแรกของบริษัท จะมีการทำโรดโชว์ ร่วมมือกับทางห้างเซ็นทรัล รวมทั้งหนังฉายทีวีเป็นซีรีส์ เริ่มออกอากาศแล้ววันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางช่องโมเดิร์นไนน์ ทุกวันอาทิตย์เวลา 07.30-08.00 น. รวมทั้งหมด 49 ตอน ตอนละ 25 นาที ก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการฉายไปแล้วที่ทรูวิชั่นส์ ช่องสปาร์คในวันเด็กปี 2552 นอกจากนั้น ยังเตรียมทำตลาดกับสินค้ากลุ่มนมและกลุ่มสแน็ค ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการสินค้าดังกล่าว
“เราคาดว่า ผลตอบรับของมาสค์ไรเดอร์เดนโอ ในไทยจะมีมากและสามารถขยายตลาดโดยรวมของ Live Action ในรูปแบบต่างๆ สร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องของกลุ่มเด็กๆ ครอบคลุมถึงเด็กกลุ่มใหม่ที่เพิ่งรู้จัก และผู้ประกอบการสินค้าสำหรับเด็กด้วยเช่น อีกทั้งมั่นใจว่าจะสร้างยอดขายให้บริษัทเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
นายวิเชียร หวังวีรวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด ผู้ดูแลลิขสิทธิ์ มาสค์ไรเดอร์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า การทำตลาดลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ในปัจจุบันนี้ยอมรับว่ามีความยากมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่อย่างไรก็ตาม ไม่หนักใจเท่าใด เพราะมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่ว่าเป็นที่ยอมรับในตลาดอย่างมาก อีกทั้งยังต้องทำการตลาดขึ้นด้วย เพื่อเป็นการเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด
“ในปัจจุบัน มาสค์ไรเดอร์ ถือเป็นคาแรกเตอร์ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ สำหรับเด็กผู้ชายวัย 4-12 ปี แม้ว่าจะมีคาแรกเตอร์ใหม่ๆ จำนวนมากเข้ามาในตลาดหนังฮีโร่แปลงร่าง ไม่ว่าจะมาจากเกาหลี หรือญี่ปุ่น ก็ตาม แต่ในแง่ของผู้บริโภคแล้วก็ยังคงให้การยอมรับในตัวของคาแรกเตอร์ฮีโร่ที่มาจากญี่ปุ่น ซึ่งตลาดรวมยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับในญี่ปุ่น”
ทั้งนี้ นายวิเชียร ยังได้กล่าวถึงคามสำเร็จของมาสค์ไรเดอร์ตัวเดิมที่ผ่านมาในตลาดญี่ปุ่นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ว่า ได้รับความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งทำให้มีความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในตลาดเมืองไทยเช่นเดียวกัน แม้ว่าจำนวนมูลค่าเม็ดเงินไม่มากเท่าก็ตาม เพราะตลาดมีขนาดความใหญ่ต่างกัน กล่าวคือ 1.มาสค์ไรเดอร์ เบลด มีรายได้เกือบ 8,000 ล้านเยน
2.มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ มีรายได้ประมาณ 6,200 ล้านเยน 3.มาสค์ไรเดอร์คาบูโตะ มีรายได้ประมาณ 7,500 ล้านเยน และล่าสุด 4.มาสค์ไรเดอร์เดนดโอ มีรายได้ประมาณ 11,800 ล้านเยน หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาประมาณ 60%
ล่าสุด บริษัทก็ได้เปิดตัวมาสค์ไรเดอร์เวอร์ชันใหม่ในตลาดเมืองไทยต่อจากญี่ปุ่นเพิ่มอีก คือ มาสค์ไรเดอร์เดนโอ ซึ่งจะมีการทำตลาดลิขสิทธิ์มาสค์ไรเดอร์เชิงรุกในทุกรูปแบบ รวมทั้งจะร่วมมือกับคู่ค้า หรือพาร์ทเนอร์ที่ได้รับสิทธิ์ในการผลิตสินค้าต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น แอพพาเรล เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า กลุ่มสเตชันเนอรี กลุ่มของเล่น เป็นต้น
ขณะที่บริษัทเองก็เตรียมที่จะทำตลาดของเล่น ลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช่ของกลุ่มบันไดญี่ปุ่น รวมทั้งวีซีดี ดีวีดี ซึ่งจะวางขายในช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นด้วยเป็นครั้งแรกของบริษัท จะมีการทำโรดโชว์ ร่วมมือกับทางห้างเซ็นทรัล รวมทั้งหนังฉายทีวีเป็นซีรีส์ เริ่มออกอากาศแล้ววันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางช่องโมเดิร์นไนน์ ทุกวันอาทิตย์เวลา 07.30-08.00 น. รวมทั้งหมด 49 ตอน ตอนละ 25 นาที ก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการฉายไปแล้วที่ทรูวิชั่นส์ ช่องสปาร์คในวันเด็กปี 2552 นอกจากนั้น ยังเตรียมทำตลาดกับสินค้ากลุ่มนมและกลุ่มสแน็ค ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการสินค้าดังกล่าว
“เราคาดว่า ผลตอบรับของมาสค์ไรเดอร์เดนโอ ในไทยจะมีมากและสามารถขยายตลาดโดยรวมของ Live Action ในรูปแบบต่างๆ สร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องของกลุ่มเด็กๆ ครอบคลุมถึงเด็กกลุ่มใหม่ที่เพิ่งรู้จัก และผู้ประกอบการสินค้าสำหรับเด็กด้วยเช่น อีกทั้งมั่นใจว่าจะสร้างยอดขายให้บริษัทเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว