ที่กองบัญชาการกองทัพบก วานนี้ (15 ต.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมผู้แทนทุกเหล่าทัพ เพื่อหารือการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เขตดุสิต และเขตพระนคร ตามประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงความมั่นคงภายใน ระหว่างวันที่ 15- 25 ต.ค.นี้ โดยใช้เวลาหารือ 2 ชั่วโมง
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงว่า การประชุมเน้นเรื่องการักษาความปลอดภัยของประชาชนที่มาชุมนุม และประชาชนทั่วไป 2 ประเด็น คือ 1.ศอ.รส.พยายามสร้างบรรยากาศให้เกิดความปลอดภัยที่สุด โดยใช้ทหาร ตำรวจ พร้อมด้วยสุนัขทหาร ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการชุมนุม เพื่อไม่ให้มีใครมาสร้างสถานการณ์ได้ และสร้างความปลอดภัยที่สุด เราไม่มีมาตรการห้ามการชุมนุม แต่ต้องการให้ปลอดภัยที่สุด
2.หากเหตุส่อไปในทางรุนแรงเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติการระงับเหตุตามหลักสากลจากเบาไปหาหนัก ไล่ตั้งแต่การแสดงกำลัง ชี้แจง การใช้โล่ห์ผลักดัน การฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา กระบอง และกระสุนยางเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยไม่มีกระสุนจริงหรือ อาวุธรุนแรง ที่ประชุมลงรายละเอียดว่าแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร เช่น การใช้โล่ห์ ให้ดูว่าเป้าหมายเป็นใคร หากเป็นหญิง คนแก่ หรือเด็กต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ หรือการฉีดน้ำต้องฉีดไปที่พื้น หากระงับไม่ได้ ต้องฉีดไปที่ท่อนล่างของร่างกาย เพื่อไม่ให้กระทบอวัยวะสำคัญของร่างกาย
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายสุเทพ ได้สักถามในที่ประชุมเพื่อความมั่นใจว่า การลงไปปฏิบัติหน้าที่กำลังพลมีความเข้าใจทุกขั้นตอนหรือไม่ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 1 แสดงความมั่นใจว่าทหารตำรวจจะแจกแผนเอกสารชี้แจงการดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ชุมนุม หน้าที่คือป้องกันและยุติเหตุแต่ละจุด ซึ่งนายสุเทพ เป็นห่วงว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุที่ กทม. หรือที่การประชุมอาเซียน ก็จะจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ดังนั้น ต้องให้มีความมั่นใจในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ เราใช้กำลัง 41 กองร้อย น้อยกว่าครั้งที่แล้วที่ใช้ 63 กองร้อย ในเวลา 18.00 น.ของวันที่ 15 ต.ค.นี้จะมีการตั้งจุดตรวจ 8 จุด ในเขตดุสิต คือ ถนนโดยรอบ ที่มุ่งเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เช่น ถ.ราชดำเนิน ถ.ลูกหลวง และวันที่ 16 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.จะจัดชุดทหาร และสุนัขตำรวจตรวจสอบพื้นที่ปลอดภัยบริเวณที่มีการชุมนุม และในเวลา 16.00 น. จะวางกำลังตามจุดสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงการชุมนุม 17 ตุลาคมนี้จะบานปลายถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มองแง่ดีแกนนำระบุว่าจะชุมนุมวันเดียวแล้วจบ แต่ทหารและตำรวจจะไม่ประมาท ทั้งนี้ เราไม่ห่วงการชุมนุม แต่เป็นห่วงในเรื่องมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ เพราะที่ผ่านมามีการสร้าง สถานการณ์ เช่น วางระเบิดที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ สวนสันติไชยปราการ แม้ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลข่าวว่าจะเกิดเหตุ ทั้งนี้ ถึงเวลาพิสูจน์ว่าคนที่บอกรักชาติ แล้วจะได้เห็นว่าแต่ละคนมีความรักชาติมากน้อยเพียงใด
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการประชุม นักวิจัยรุ่นใหม่ พบ เมธีวิจัยอาวุโส สกว. พร้อมปาฐกถาเรื่อง นโยบายและยุทธศาสตร์ในการสนับสนุนการวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยนายกรัฐมนตรี ได้ถือโอกาสนี้ตรวจเยี่ยมการจัดเตรียมความพร้อมสถานที่จัดประชุมอาเซี่ยน ซัมมิท ทั้งสถานที่จัดงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ และสถานที่จัดประชุม โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภวสุ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาทำหน้าที่รักษาการเลาธิการนายกฯครั้งแรก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย เสนาธิการกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย รายงานการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่าจากการตรวจดูความพร้อมของสถานที่เรียบร้อยดี มีการซักซ้อมขั้นตอนต่างๆ แม้ว่าที่นี่จะเคยจัดการประชุมอาเซี่ยนมาแล้วแต่ยังไม่เคยจัดในลักษณะบวกสามบวกหก ซึ่งมีกิจกรรมที่เพิ่มเข้ามา ส่วนการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตามแผนได้ติดตามอยู่ และแจ้งว่ายังไม่มีอะไร มั่นใจว่าจะดูแลให้เกิดความเรียบร้อยได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงก็เป็นห่วงอยากให้เขา ชุมนุมโดยไม่มีเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา ไม่อยากให้มีการเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน ไม่อยากให้มีเหตุการณ์รุนแรง ถ้าทุกคนอยู่ในกรอบไม่มีใครเข้ามาแทรกซ้อน หากผู้ชุมนุมโดยเฉพาะแกนนำจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแทรกซ้อนจะเป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่เสื้อแดงประกาศว่าจะชุมนุมเพื่อทวงถามเรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่คืบหน้านายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ติดขัดเลยทุกอย่างไปตามกระบวนการของการถวายฎีกาเหมือนกับกรณีอื่นๆ จะให้กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุแทรกซ้อนที่ห่วงจะเกิดมีอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเห็นว่าอาจจะมีบางฝ่ายอยากให้เกิดภาพความสับสนวุ่นวายขึ้นเราก็ต้องช่วยกันระมัดระวัง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่ากรณี ที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศการชุมนุมโดยสงบ แต่หากรัฐบาลขัดขวางก็จะเดินทางไปก่อกวนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่หัวหินว่า รัฐบาลยืนยันตลอดเวลาว่าการชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องทำด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ รัฐบาลก็ไม่เข้าไปกลั่นแกล้ง ไปขัดขวาง ที่รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศพื้นที่ความมั่นคง เพื่อเข้ามากำกับควบคุมสถานการณ์เพราะรัฐบาลกังวลใจว่าผู้ชุมนุมจะทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรักษากฎหมาย ประเด็นอยู่ตรงนี้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เสื้อแดงยื่นถวายฎีกาของพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจะมาขอรับทราบความคืบหน้า รัฐบาลจะมีคนมารับเรื่องหรือชี้แจง ทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงกันก่อนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า บัญชีการยื่นถวายฎีกา ที่เสนอมารัฐบาลก็ส่งให้กระทรวงยุติธรรมไปพิจารณาตรวจสอบ หากทุกอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายตามกติกา กระทรวงยุติธรรมก็จะเสนอกลับมา หากมีปัญหาอย่างไรกระทรวงยุติธรรม ก็คงรายงานให้ทราบ มันเป็นเรื่องที่มีเอกสารจำนวนมาก กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา และการที่กลุ่มเสื้อแดงใช้เงื่อนไขนี้มาเรียกร้องทวงถามรัฐบาลทำได้ แต่คงจะไปบังคับเขาไม่ได้ ในระบอบประชาธิปไตยการปกครองต้องไปเป็นตามตัวบทกฎหมายจะใช้กำลังบังคับเอาไม่ได้ การใช้กำลังข่มขู่บังคับไม่เหมาะสมทั้งนั้น และไม่สมควร
กลุ่มคนเสื้อแดงก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมือง พรรคการเมืองควรต่อสู้ตามกฎเกณฑ์ กติกาที่กำหนดในกฎหมายในรัฐธรรมนูญ ถ้าพรรคการเมืองคิดว่าตนเองต้องมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องคำนึงถึงถ้าพรรคการเมือง ไม่สร้างความสงบเรียบร้อยฝ่าฝืนกฎหมายทำลายกฎหมายทำลายกฎกติกาของบ้านเมือง พรรคการเมืองนั้นก็ไม่ควรจะดำรงอยู่
ส่วนการใช้กำลังดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ประกาศถึง 18,000 นาย นายสุเทพยอมรับว่า ต้องใช้กำลังมากเพื่อให้สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยได้
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า จะใช้กำลังดูแลการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตามพ.ร.บ.มั่นคง โดยแบ่งกำลัง ทหารตำรวจ 18,000 นายไปที่ชะอำ หัวหินในการประชุมผู้นำอาเซียน และอีก 18,000 นายไปที่กรุงเทพฯ ดูแลการชุมนุมคนเสื้อแดง อยากถามว่า กองกำลังดังกล่าวอยู่ที่ไหน ขอให้เอาออกมาแสดงชัดๆ อย่าเอามาแอบอ้างเพื่ออมเบี้ยเลี้ยงทหาร
ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้ตกลงกับตำรวจนครบาลว่า เวลา 18.00 น. ของวันที่ 16 ต.ค. จะตั้งเวทีบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ และในวันที่ 17 ต.ค. จะชุมนุมจุดเดียวที่ บริเวณถนนพิษณุโลก จนถึงเที่ยงคืน โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวิดีโอลิงค์มายังเวทีในเวลา 20.30 น.
นายจตุพร ขู่ว่า หากเกิดอะไรขึ้น จะไม่รับรองว่าการประชุมผู้นำอาเซียนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนกรณีกระทรวงยุติธรรม จะมอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ ทำการตรวจสอบใบฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้เรื่อง เพราะกรมราชทัณฑ์ ไม่มีประวัติของพ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้นมองเป็นอื่นไม่ได้เลย นอกจากการแตะถ่วง ดองใบฎีกา ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ใบฎีกาไปถึงมือสำนักราชเลขาธิการก่อนวันที่ 4 ธ.ค.เพราะเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ และหลังจากงานระดมทุน แสดงคอนเสิร์ต ที่เขาใหญ่ในเดือน พ.ย.กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมยืดเยื้อยาวนานเพื่อขับไล่ รัฐบาล
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงว่า การประชุมเน้นเรื่องการักษาความปลอดภัยของประชาชนที่มาชุมนุม และประชาชนทั่วไป 2 ประเด็น คือ 1.ศอ.รส.พยายามสร้างบรรยากาศให้เกิดความปลอดภัยที่สุด โดยใช้ทหาร ตำรวจ พร้อมด้วยสุนัขทหาร ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการชุมนุม เพื่อไม่ให้มีใครมาสร้างสถานการณ์ได้ และสร้างความปลอดภัยที่สุด เราไม่มีมาตรการห้ามการชุมนุม แต่ต้องการให้ปลอดภัยที่สุด
2.หากเหตุส่อไปในทางรุนแรงเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติการระงับเหตุตามหลักสากลจากเบาไปหาหนัก ไล่ตั้งแต่การแสดงกำลัง ชี้แจง การใช้โล่ห์ผลักดัน การฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา กระบอง และกระสุนยางเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยไม่มีกระสุนจริงหรือ อาวุธรุนแรง ที่ประชุมลงรายละเอียดว่าแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร เช่น การใช้โล่ห์ ให้ดูว่าเป้าหมายเป็นใคร หากเป็นหญิง คนแก่ หรือเด็กต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ หรือการฉีดน้ำต้องฉีดไปที่พื้น หากระงับไม่ได้ ต้องฉีดไปที่ท่อนล่างของร่างกาย เพื่อไม่ให้กระทบอวัยวะสำคัญของร่างกาย
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายสุเทพ ได้สักถามในที่ประชุมเพื่อความมั่นใจว่า การลงไปปฏิบัติหน้าที่กำลังพลมีความเข้าใจทุกขั้นตอนหรือไม่ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 1 แสดงความมั่นใจว่าทหารตำรวจจะแจกแผนเอกสารชี้แจงการดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ชุมนุม หน้าที่คือป้องกันและยุติเหตุแต่ละจุด ซึ่งนายสุเทพ เป็นห่วงว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุที่ กทม. หรือที่การประชุมอาเซียน ก็จะจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ดังนั้น ต้องให้มีความมั่นใจในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ เราใช้กำลัง 41 กองร้อย น้อยกว่าครั้งที่แล้วที่ใช้ 63 กองร้อย ในเวลา 18.00 น.ของวันที่ 15 ต.ค.นี้จะมีการตั้งจุดตรวจ 8 จุด ในเขตดุสิต คือ ถนนโดยรอบ ที่มุ่งเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เช่น ถ.ราชดำเนิน ถ.ลูกหลวง และวันที่ 16 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.จะจัดชุดทหาร และสุนัขตำรวจตรวจสอบพื้นที่ปลอดภัยบริเวณที่มีการชุมนุม และในเวลา 16.00 น. จะวางกำลังตามจุดสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงการชุมนุม 17 ตุลาคมนี้จะบานปลายถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มองแง่ดีแกนนำระบุว่าจะชุมนุมวันเดียวแล้วจบ แต่ทหารและตำรวจจะไม่ประมาท ทั้งนี้ เราไม่ห่วงการชุมนุม แต่เป็นห่วงในเรื่องมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ เพราะที่ผ่านมามีการสร้าง สถานการณ์ เช่น วางระเบิดที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ สวนสันติไชยปราการ แม้ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลข่าวว่าจะเกิดเหตุ ทั้งนี้ ถึงเวลาพิสูจน์ว่าคนที่บอกรักชาติ แล้วจะได้เห็นว่าแต่ละคนมีความรักชาติมากน้อยเพียงใด
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการประชุม นักวิจัยรุ่นใหม่ พบ เมธีวิจัยอาวุโส สกว. พร้อมปาฐกถาเรื่อง นโยบายและยุทธศาสตร์ในการสนับสนุนการวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยนายกรัฐมนตรี ได้ถือโอกาสนี้ตรวจเยี่ยมการจัดเตรียมความพร้อมสถานที่จัดประชุมอาเซี่ยน ซัมมิท ทั้งสถานที่จัดงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ รีสอร์ท รีเจนท์ บีช ชะอำ และสถานที่จัดประชุม โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภวสุ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมาทำหน้าที่รักษาการเลาธิการนายกฯครั้งแรก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย เสนาธิการกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย รายงานการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่าจากการตรวจดูความพร้อมของสถานที่เรียบร้อยดี มีการซักซ้อมขั้นตอนต่างๆ แม้ว่าที่นี่จะเคยจัดการประชุมอาเซี่ยนมาแล้วแต่ยังไม่เคยจัดในลักษณะบวกสามบวกหก ซึ่งมีกิจกรรมที่เพิ่มเข้ามา ส่วนการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตามแผนได้ติดตามอยู่ และแจ้งว่ายังไม่มีอะไร มั่นใจว่าจะดูแลให้เกิดความเรียบร้อยได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงก็เป็นห่วงอยากให้เขา ชุมนุมโดยไม่มีเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา ไม่อยากให้มีการเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน ไม่อยากให้มีเหตุการณ์รุนแรง ถ้าทุกคนอยู่ในกรอบไม่มีใครเข้ามาแทรกซ้อน หากผู้ชุมนุมโดยเฉพาะแกนนำจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแทรกซ้อนจะเป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่เสื้อแดงประกาศว่าจะชุมนุมเพื่อทวงถามเรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่คืบหน้านายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ติดขัดเลยทุกอย่างไปตามกระบวนการของการถวายฎีกาเหมือนกับกรณีอื่นๆ จะให้กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุแทรกซ้อนที่ห่วงจะเกิดมีอะไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเห็นว่าอาจจะมีบางฝ่ายอยากให้เกิดภาพความสับสนวุ่นวายขึ้นเราก็ต้องช่วยกันระมัดระวัง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่ากรณี ที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศการชุมนุมโดยสงบ แต่หากรัฐบาลขัดขวางก็จะเดินทางไปก่อกวนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่หัวหินว่า รัฐบาลยืนยันตลอดเวลาว่าการชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องทำด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ รัฐบาลก็ไม่เข้าไปกลั่นแกล้ง ไปขัดขวาง ที่รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศพื้นที่ความมั่นคง เพื่อเข้ามากำกับควบคุมสถานการณ์เพราะรัฐบาลกังวลใจว่าผู้ชุมนุมจะทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรักษากฎหมาย ประเด็นอยู่ตรงนี้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เสื้อแดงยื่นถวายฎีกาของพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจะมาขอรับทราบความคืบหน้า รัฐบาลจะมีคนมารับเรื่องหรือชี้แจง ทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงกันก่อนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า บัญชีการยื่นถวายฎีกา ที่เสนอมารัฐบาลก็ส่งให้กระทรวงยุติธรรมไปพิจารณาตรวจสอบ หากทุกอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายตามกติกา กระทรวงยุติธรรมก็จะเสนอกลับมา หากมีปัญหาอย่างไรกระทรวงยุติธรรม ก็คงรายงานให้ทราบ มันเป็นเรื่องที่มีเอกสารจำนวนมาก กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งเวลานี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา และการที่กลุ่มเสื้อแดงใช้เงื่อนไขนี้มาเรียกร้องทวงถามรัฐบาลทำได้ แต่คงจะไปบังคับเขาไม่ได้ ในระบอบประชาธิปไตยการปกครองต้องไปเป็นตามตัวบทกฎหมายจะใช้กำลังบังคับเอาไม่ได้ การใช้กำลังข่มขู่บังคับไม่เหมาะสมทั้งนั้น และไม่สมควร
กลุ่มคนเสื้อแดงก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมือง พรรคการเมืองควรต่อสู้ตามกฎเกณฑ์ กติกาที่กำหนดในกฎหมายในรัฐธรรมนูญ ถ้าพรรคการเมืองคิดว่าตนเองต้องมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องคำนึงถึงถ้าพรรคการเมือง ไม่สร้างความสงบเรียบร้อยฝ่าฝืนกฎหมายทำลายกฎหมายทำลายกฎกติกาของบ้านเมือง พรรคการเมืองนั้นก็ไม่ควรจะดำรงอยู่
ส่วนการใช้กำลังดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ประกาศถึง 18,000 นาย นายสุเทพยอมรับว่า ต้องใช้กำลังมากเพื่อให้สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยได้
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า จะใช้กำลังดูแลการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตามพ.ร.บ.มั่นคง โดยแบ่งกำลัง ทหารตำรวจ 18,000 นายไปที่ชะอำ หัวหินในการประชุมผู้นำอาเซียน และอีก 18,000 นายไปที่กรุงเทพฯ ดูแลการชุมนุมคนเสื้อแดง อยากถามว่า กองกำลังดังกล่าวอยู่ที่ไหน ขอให้เอาออกมาแสดงชัดๆ อย่าเอามาแอบอ้างเพื่ออมเบี้ยเลี้ยงทหาร
ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้ตกลงกับตำรวจนครบาลว่า เวลา 18.00 น. ของวันที่ 16 ต.ค. จะตั้งเวทีบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ และในวันที่ 17 ต.ค. จะชุมนุมจุดเดียวที่ บริเวณถนนพิษณุโลก จนถึงเที่ยงคืน โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวิดีโอลิงค์มายังเวทีในเวลา 20.30 น.
นายจตุพร ขู่ว่า หากเกิดอะไรขึ้น จะไม่รับรองว่าการประชุมผู้นำอาเซียนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนกรณีกระทรวงยุติธรรม จะมอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ ทำการตรวจสอบใบฎีกา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้เรื่อง เพราะกรมราชทัณฑ์ ไม่มีประวัติของพ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้นมองเป็นอื่นไม่ได้เลย นอกจากการแตะถ่วง ดองใบฎีกา ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ใบฎีกาไปถึงมือสำนักราชเลขาธิการก่อนวันที่ 4 ธ.ค.เพราะเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ และหลังจากงานระดมทุน แสดงคอนเสิร์ต ที่เขาใหญ่ในเดือน พ.ย.กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมยืดเยื้อยาวนานเพื่อขับไล่ รัฐบาล