ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เล็งเปิดตัวโครงการครีเอทีฟ คิง เชิดชูองค์ในหลวงต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หวังกระตุ้นคนไทยตื่นตัว และใช้เป็นแนวทางผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เผยล่าสุดมี 68 โครงการ วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านเกณฑ์ เตรียมผลักดันรัฐบาลอนุมัติงบดำเนินการต่อไป ส่วนสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประชุมบอร์ดชุดใหญ่ครั้งหน้าได้ข้อสรุปแน่
นายสัญญา สถิรบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการจัดทำโครงการครีเอทีฟ คิง เพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์อย่างเป็นทางการ โดยนำผลงานสร้างสรรค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และสิ่งประดิษฐ์ มาจัดแสดง เพื่อเป็นแบบอย่างและแนวทางให้กับประชาชนคนไทยในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ได้เห็นชอบในหลักการให้กันเม็ดเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท จากยอดเงินตามพ.ร.ก.กู้เงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสำหรับการขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่มีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการและเบิกจ่ายเงินลงทุนได้ในปี 2553
“เงินก้อนดังกล่าวบางส่วน กระทรวงพาณิชย์ จะนำมาใช้ในการเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยจะกระตุ้นให้คนไทยมีความรู้ มีความเข้าใจว่าอะไรคือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเรามองแล้ว น่าจะเริ่มจากอะไรที่ใกล้ตัวเรา และคนไทยส่วนใหญ่รับรู้ จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการครีเอทีฟ คิง เพราะในหลวงของเรามีผลงานสร้างสรรค์มากมาย ทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรม ดนตรี งานประดิษฐ์คิดค้น ซึ่งสามารถใช้เป็นต้นแบบในการกระตุ้นให้คนไทยพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้”นายสัญญากล่าว
นายสัญญากล่าวว่า สำหรับวงเงินที่ได้รับอนุมัติ 1,000 ล้านบาท นอกจากจะใช้บางส่วนทำโครงการครีเอทีฟ คิง จะใช้ในการจัดทำโครงการเร่งด่วน ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดใหญ่แล้ว
ล่าสุดมีการเสนอโครงการผ่านคณะอนุกรรมการฯ สูงถึง 181 โครงการ วงเงิน 74,390.35 ล้านบาท แต่คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ามีโครงการที่เข้าข่ายเศรษฐกิจสร้างสรรค์จำนวน 68 โครงการ วงเงินประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน พิจารณาความเหมาะสมในการจัดสรรเงินต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะต้องเป็นไปตามพันธสัญญา 12 ข้อที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ในการขับเคลื่อน ผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต้องเป็นโครงการที่สร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2553 และเป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพิ่มการจ้างงาน
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย (Thailand Creative Economy Agency : TCEA) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาลนั้น ขณะนี้สำนักงานพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) อยู่ระหว่างการเสนอรูปแบบการจัดตั้ง กฎหมายที่รองรับ โครงสร้างการบริหาร อัตรากำลังคน และจะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติครั้งต่อไปพิจารณา
นายสัญญา สถิรบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการจัดทำโครงการครีเอทีฟ คิง เพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์อย่างเป็นทางการ โดยนำผลงานสร้างสรรค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และสิ่งประดิษฐ์ มาจัดแสดง เพื่อเป็นแบบอย่างและแนวทางให้กับประชาชนคนไทยในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ได้เห็นชอบในหลักการให้กันเม็ดเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท จากยอดเงินตามพ.ร.ก.กู้เงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสำหรับการขับเคลื่อนโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่มีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการและเบิกจ่ายเงินลงทุนได้ในปี 2553
“เงินก้อนดังกล่าวบางส่วน กระทรวงพาณิชย์ จะนำมาใช้ในการเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยจะกระตุ้นให้คนไทยมีความรู้ มีความเข้าใจว่าอะไรคือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเรามองแล้ว น่าจะเริ่มจากอะไรที่ใกล้ตัวเรา และคนไทยส่วนใหญ่รับรู้ จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการครีเอทีฟ คิง เพราะในหลวงของเรามีผลงานสร้างสรรค์มากมาย ทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรม ดนตรี งานประดิษฐ์คิดค้น ซึ่งสามารถใช้เป็นต้นแบบในการกระตุ้นให้คนไทยพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้”นายสัญญากล่าว
นายสัญญากล่าวว่า สำหรับวงเงินที่ได้รับอนุมัติ 1,000 ล้านบาท นอกจากจะใช้บางส่วนทำโครงการครีเอทีฟ คิง จะใช้ในการจัดทำโครงการเร่งด่วน ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดใหญ่แล้ว
ล่าสุดมีการเสนอโครงการผ่านคณะอนุกรรมการฯ สูงถึง 181 โครงการ วงเงิน 74,390.35 ล้านบาท แต่คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ามีโครงการที่เข้าข่ายเศรษฐกิจสร้างสรรค์จำนวน 68 โครงการ วงเงินประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน พิจารณาความเหมาะสมในการจัดสรรเงินต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะต้องเป็นไปตามพันธสัญญา 12 ข้อที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ในการขับเคลื่อน ผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต้องเป็นโครงการที่สร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2553 และเป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพิ่มการจ้างงาน
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย (Thailand Creative Economy Agency : TCEA) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาลนั้น ขณะนี้สำนักงานพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) อยู่ระหว่างการเสนอรูปแบบการจัดตั้ง กฎหมายที่รองรับ โครงสร้างการบริหาร อัตรากำลังคน และจะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติครั้งต่อไปพิจารณา