นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ในฐานะอดีตคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ(รธน. ) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เห็นด้วยกับแก้ไขรธน.ใน 6 ประเด็น แต่เสนอให้นำ รธน.ปี 40 กลับมาใช้แทนฉบับปี 50 ว่า การจะนำรธน.40 กลับมาได้ ต้องผ่านกระบวนการของการแก้รธน.ตามขั้นตอน ไม่ใช่อยู่ๆ จะนำกลับมาได้ ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง และผู้เกี่ยวข้องต้องพิจารณากัน
อย่างไรก็ตาม อยากให้พิจารณาให้ดีว่ารธน.50 ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน มีปัญหาจริงๆ ตรงไหน เพราะเพิ่งบังคับใช้มาได้เพียง 2 ปีกว่าเท่านั้น โดยรธน.ปี 50 ได้ผ่านการทำประชามติของประชาชน ซึ่งถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยทางตรง ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อมของ ส.ส. และ ส.ว. ที่เป็นเพียงตัวแทนประชาชน
ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่า การนำรธน.ปี 40 กลับมาใช้ จะไม่มีผลในทางกฎหมายต่อคดี ที่มีผลทางกฎหมายไปแล้ว
เมื่อถามว่าการนำรธน.40 กลับมาใช้ จะเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นช่องทางในการต่อสู้คดี โดยอ้างว่า รธน.50 ไม่ใช้แล้วหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า อยู่ที่การตีความ ถ้านำ รธน.40 มาใช้ ในส่วนสิ่งที่ทำไปแล้วก็คงไม่มีผลกระทบ เช่น การตัดสินคดี แต่เรื่องที่จะเกิดต่อไป อยู่ที่การตีความ เช่น การสอบสวนของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ( คตส. ) ที่กระบวนการยังไม่จบ และอยู่ระหว่างการพิจารณา จะมีผลต่อไปหรือไม่ เพราะกระบวนการของ คตส. สืบทอดไปที่ ป.ป.ช. ตรงนี้อยู่ที่การตีความตามกฎหมาย แต่อะไรที่ทำจบแล้วคงไม่มีผล
**รัฐบาลยังเดินหน้าแก้6ประเด็น
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาล ยังยืนยันในการแก้ไขรธน. ซึ่งขณะนี้นายกฯ ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อให้มีคำสั่งให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักกฎหมายของทั้ง 2 สภา ยกร่างแก้ไขรธน.แล้ว โดยมีทั้งหมด 9 ท่าน ดำเนินการร่างเค้าโครงกฎหมายรธน.ใน 6 ประเด็น ตลอดจนการจัดทำเหตุผลประกอบขอแก้ไข ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ และคาดว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้ในวันที่ 22 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดเงื่อนไขเวลาไว้ชัดเจนตามพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90-120 วัน
"เมื่อทุกฝ่ายยอมรับเป้าหมายที่ตรงกัน ก็คิดว่าพรรคเพื่อไทย จะใช้เวลาในการทบทวนแนวความคิดให้ตกผลึก เพื่อให้ความเห็นพ้องต้องกันเดินหน้าไปได้"
นายชินวรณ์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้เอารธน.40 กลับมานั้น มีเป้าหมายชัดเจนอยู่ที่ไม่เอา มาตรา 237 และมาตรา 309 เท่ากับว่า การแก้ไขรธน.ตามข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือเพื่อจะปกป้องประโยชน์ตนเอง และให้ตนเองพ้นผิดเท่านั้น " ผมจำคำพูดนายวิทยา บูรณศิริประธานวิปฝ่ายค้านได้ ที่พูดว่า ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติไม่ดำเนินการ แล้วจะรอให้สีเขียวมาแก้หรืออย่างไร และคิดว่านายวิทยา คงไม่ทิ้งจุดยืนที่เคยกล่าวไว้" นายชินวรณ์กล่าว และว่า เสียงสนับสนุนในการเสนอญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมี 311 เสียง แต่รัฐบาลมีเพียง 245 เสียง จำเป็นต้องได้เสียงจากฝ่ายค้านและวุฒิสภา จึงจะทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ยังไม่ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งกก.ยกร่างแก้ไขรธน. ตามที่นายกฯร้องขอ เนื่องจาก อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องทางกฎหมายของสำนักประธานอยู่
**บิ๊กบังให้เอารธน.40 และ50 มายำใหม่
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. กล่าวว่าหากจะแก้รธน.ก็น่าจะเอาทั้งฉบับปี40 และปี 50 มาปรับแก้ให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยเอาข้อเสียทั้ง 2 ฉบับมาปรับแก้ เอาสิ่งที่ดีที่สุดของ 2 ฉบับมารวมกัน เอาสิ่งที่ไม่ดีออกไป และหากจะแก้ก็ควรต้องทำประชามติด้วย
**“จิ๋ว”เผยปัญหาขัดแย้งพท.จบ
สำหรับปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยที่จากความขัดแย้งในการแก้ไขรธน.ระหว่างผู้ที่เห็นด้วยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ที่คัดค้านแก้ไขรธน. 6 ประเด็น และทำประชามติ กับกลุ่มของนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรธน. 6 ประเด็น จน ร.ต.อ.เฉลิม ลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.ของพรรค
วานนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขรธน. โดยมีแกนนำ ส.ส.บางส่วนและฝ่ายกฎหมาย เข้าร่วมประชุม โดยเชิญ นายวิทยา บุรณศิริ เข้าร่วม และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้เข้าร่วมฟังการประชุมด้วย
พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า ตนมาใหม่ นั่งฟังเฉยๆ ให้ทุกคนพูดหมด คุยกันหมดแล้ว เข้าใจกันแล้ว ทุกอย่างจบ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กมาก เกิดจากความไม่เข้าใจนิดเดียว ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะหารือกันว่าทำอย่างไรให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด
"ขัดแย้งกันเล็กน้อย ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย เพราะไม่ได้คุย เมื่อคุยกันก็จบ" เมื่อถามสรุปแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเป็นอย่างไร พล.อ.ชวลิต ตอบว่า ไม่อยากพูด เอาไว้ไปถามนายวิทยา
เมื่อถามว่าส.ส.อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับมานั่งเป็นประธาน ส.ส.เหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า "ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว"
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่าได้รับใบลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.ของร.ต.อ.เฉลิม แล้ว แต่ตนไม่ได้เซ็นรับรองการลาออก เพราะ ส.ส.ทุกคนในพรรคต้องการให้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับมาเป็นประธาน ส.ส.ตามเดิม อย่างไรก็ตามได้ทำหนังสือ และเซ็นรับรองส่งไปยังสภา แจ้งว่าร.ต.อ.เฉลิม ยังทำหน้าที่ประธาน ส.ส.ในสภา ตรงนี้ถือว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงทำหน้าที่ประธานส.ส.ต่อไป และจะได้แจ้งให้กับ ส.ส.ทุกคนได้ทราบในการประชุม ส.ส.ของพรรคในวันนี้
อย่างไรก็ตาม อยากให้พิจารณาให้ดีว่ารธน.50 ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน มีปัญหาจริงๆ ตรงไหน เพราะเพิ่งบังคับใช้มาได้เพียง 2 ปีกว่าเท่านั้น โดยรธน.ปี 50 ได้ผ่านการทำประชามติของประชาชน ซึ่งถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยทางตรง ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยทางอ้อมของ ส.ส. และ ส.ว. ที่เป็นเพียงตัวแทนประชาชน
ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่า การนำรธน.ปี 40 กลับมาใช้ จะไม่มีผลในทางกฎหมายต่อคดี ที่มีผลทางกฎหมายไปแล้ว
เมื่อถามว่าการนำรธน.40 กลับมาใช้ จะเป็นเหตุให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นช่องทางในการต่อสู้คดี โดยอ้างว่า รธน.50 ไม่ใช้แล้วหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า อยู่ที่การตีความ ถ้านำ รธน.40 มาใช้ ในส่วนสิ่งที่ทำไปแล้วก็คงไม่มีผลกระทบ เช่น การตัดสินคดี แต่เรื่องที่จะเกิดต่อไป อยู่ที่การตีความ เช่น การสอบสวนของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ( คตส. ) ที่กระบวนการยังไม่จบ และอยู่ระหว่างการพิจารณา จะมีผลต่อไปหรือไม่ เพราะกระบวนการของ คตส. สืบทอดไปที่ ป.ป.ช. ตรงนี้อยู่ที่การตีความตามกฎหมาย แต่อะไรที่ทำจบแล้วคงไม่มีผล
**รัฐบาลยังเดินหน้าแก้6ประเด็น
นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาล ยังยืนยันในการแก้ไขรธน. ซึ่งขณะนี้นายกฯ ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยัง นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อให้มีคำสั่งให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักกฎหมายของทั้ง 2 สภา ยกร่างแก้ไขรธน.แล้ว โดยมีทั้งหมด 9 ท่าน ดำเนินการร่างเค้าโครงกฎหมายรธน.ใน 6 ประเด็น ตลอดจนการจัดทำเหตุผลประกอบขอแก้ไข ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ และคาดว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้ในวันที่ 22 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดเงื่อนไขเวลาไว้ชัดเจนตามพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90-120 วัน
"เมื่อทุกฝ่ายยอมรับเป้าหมายที่ตรงกัน ก็คิดว่าพรรคเพื่อไทย จะใช้เวลาในการทบทวนแนวความคิดให้ตกผลึก เพื่อให้ความเห็นพ้องต้องกันเดินหน้าไปได้"
นายชินวรณ์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้เอารธน.40 กลับมานั้น มีเป้าหมายชัดเจนอยู่ที่ไม่เอา มาตรา 237 และมาตรา 309 เท่ากับว่า การแก้ไขรธน.ตามข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ คือเพื่อจะปกป้องประโยชน์ตนเอง และให้ตนเองพ้นผิดเท่านั้น " ผมจำคำพูดนายวิทยา บูรณศิริประธานวิปฝ่ายค้านได้ ที่พูดว่า ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติไม่ดำเนินการ แล้วจะรอให้สีเขียวมาแก้หรืออย่างไร และคิดว่านายวิทยา คงไม่ทิ้งจุดยืนที่เคยกล่าวไว้" นายชินวรณ์กล่าว และว่า เสียงสนับสนุนในการเสนอญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมี 311 เสียง แต่รัฐบาลมีเพียง 245 เสียง จำเป็นต้องได้เสียงจากฝ่ายค้านและวุฒิสภา จึงจะทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ยังไม่ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งกก.ยกร่างแก้ไขรธน. ตามที่นายกฯร้องขอ เนื่องจาก อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องทางกฎหมายของสำนักประธานอยู่
**บิ๊กบังให้เอารธน.40 และ50 มายำใหม่
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. กล่าวว่าหากจะแก้รธน.ก็น่าจะเอาทั้งฉบับปี40 และปี 50 มาปรับแก้ให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยเอาข้อเสียทั้ง 2 ฉบับมาปรับแก้ เอาสิ่งที่ดีที่สุดของ 2 ฉบับมารวมกัน เอาสิ่งที่ไม่ดีออกไป และหากจะแก้ก็ควรต้องทำประชามติด้วย
**“จิ๋ว”เผยปัญหาขัดแย้งพท.จบ
สำหรับปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยที่จากความขัดแย้งในการแก้ไขรธน.ระหว่างผู้ที่เห็นด้วยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ที่คัดค้านแก้ไขรธน. 6 ประเด็น และทำประชามติ กับกลุ่มของนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรธน. 6 ประเด็น จน ร.ต.อ.เฉลิม ลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.ของพรรค
วานนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขรธน. โดยมีแกนนำ ส.ส.บางส่วนและฝ่ายกฎหมาย เข้าร่วมประชุม โดยเชิญ นายวิทยา บุรณศิริ เข้าร่วม และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้เข้าร่วมฟังการประชุมด้วย
พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า ตนมาใหม่ นั่งฟังเฉยๆ ให้ทุกคนพูดหมด คุยกันหมดแล้ว เข้าใจกันแล้ว ทุกอย่างจบ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กมาก เกิดจากความไม่เข้าใจนิดเดียว ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะหารือกันว่าทำอย่างไรให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด
"ขัดแย้งกันเล็กน้อย ไม่เข้าใจกันนิดหน่อย เพราะไม่ได้คุย เมื่อคุยกันก็จบ" เมื่อถามสรุปแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเป็นอย่างไร พล.อ.ชวลิต ตอบว่า ไม่อยากพูด เอาไว้ไปถามนายวิทยา
เมื่อถามว่าส.ส.อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับมานั่งเป็นประธาน ส.ส.เหมือนเดิมหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า "ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว"
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่าได้รับใบลาออกจากตำแหน่งประธาน ส.ส.ของร.ต.อ.เฉลิม แล้ว แต่ตนไม่ได้เซ็นรับรองการลาออก เพราะ ส.ส.ทุกคนในพรรคต้องการให้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับมาเป็นประธาน ส.ส.ตามเดิม อย่างไรก็ตามได้ทำหนังสือ และเซ็นรับรองส่งไปยังสภา แจ้งว่าร.ต.อ.เฉลิม ยังทำหน้าที่ประธาน ส.ส.ในสภา ตรงนี้ถือว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงทำหน้าที่ประธานส.ส.ต่อไป และจะได้แจ้งให้กับ ส.ส.ทุกคนได้ทราบในการประชุม ส.ส.ของพรรคในวันนี้