00 เห็นภาพบรรดานักการเมือง“เขี้ยวลากดิน” มาสุมหัวกันที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องของเรื่องก็ไม่มีอะไรมากนอกจากต้องการให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ได้มีโอกาสทำมาหากิน หาผลประโยชน์จากการเมือง จากงบประมาณของรัฐ เพราะคนพวกนี้ทำธุรกิจการเมืองมาตลอดชีวิต จนคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศ ถ้าขาดคนพวกนี้แล้วบ้านเมืองจะไม่เจริญ คงจะต้องฉิบหายวายป่วงเป็นแน่แท้
00 ไล่เรียงรายชื่อกันอีกทีก็ได้ ยกเว้น ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังหลบหนีคดีโกงอยู่นอกประเทศแล้ว ก็มี บรรหาร จากชาติไทยพัฒนา สุวัจน์ จากรวมใจไทยฯ เนวิน จากภูมิใจไทย ไพโรจน์ จากเพื่อแผ่นดิน คนเหล่านี้ล้วนถูกศาลรัฐธรรมนูญห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง เนื่องจากร่วมกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามกฎหมายที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องยุบพรรค แต่คนพวกนี้นอกจากไม่เคยสำเหนียกแล้วยังคิดจะมาแก้ไขกติกาให้ตัวเองพ้นความผิด แล้วให้ได้กลับเข้ามามีอำนาจอีกรอบ
00 นาทีนี้ไม่ต้องพูดกันมากแล้วว่า 6 ประเด็น ที่พยายามจะแก้ไขนั้นมีอะไรบ้าง เพราะสังคมรับรู้กันไปแล้ว แต่เอาเป็นว่าไม่ได้เกี่ยวกับประโยชน์ของชาวบ้านแม้แต่น้อย มีเรื่องของนักการเมือง แถมยังเป็นเรื่องของนักการเมือง “ขี้ฉ้อ” เสียอีก มันก็ยิ่งทุเรศ สะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของคนพวกนี้มากขึ้นทุกวัน จนสะอิดสะเอียดเหลือจะกล่าว
00 อ้อ เพิ่งได้ยินข่าวว่า “เหนาะไดโนเสาร์” เปรยว่าจะวางมือการเมือง ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นข่าวจริง เพราะแผ่นดินจะได้สูงขึ้นอีกหลายนิ้ว แต่เรื่อง ธรณีสงฆ์ รับรองจะเป็นบาปกรรมติดตัวไปตลอดแน่นอน
00 ยังพูดกันไม่จบว่า สาเหตุที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กลับมารับใช้ ทักษิณ อีกรอบมาจากเรื่องอะไรกันแน่ ทั้งเรื่อง“ค่าตัว” หรืออยู่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน ที่อาจจะต้องมาติดคุกตอนแก่หรือเปล่า ทำให้ต้องตัดสินใจแบบหน้ามืด ยอมเข้ามาเป็น “หุ่นเชิด” ในพรรคเพื่อไทยให้ทักษิณ หรือว่าต้องการเข้ามาเล่น “เกมใต้ดิน” ป่วนบ้านป่วนเมือง เพื่อกดดันต่อรองให้กับตัวเองและนักโทษหนีคุกที่อยู่ข้างนอก
00 ได้ยินคำสารภาพจากปากของคนที่เคยเป็นถึงรองนายกฯ รมว.มหาดไทย บอกว่าได้ส่งเทปคำพูดของ กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีบัวแก้ว เมื่อเมื่อครั้งขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ด่า “ฮุนเซน” ส่งไปให้เจ้าตัวฟังถึงพนมเปญ แล้วกล่าวด้วยความชื่นชมยินดีในความสามารถของตัวเอง ทำนองว่า นี่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำให้ผู้นำต่างประเทศโกรธรัฐบาลไทยได้เป็นฟืนเป็นไฟ ก็อยากจะเตือนด้วยความหวังดีว่า พฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่ต่างจาก “พระยาจักรี” ที่เปิดประตูให้ทหารพม่าเข้ามาเผากรุงศรีฯในอดีต หวังแต่ประโยชน์ส่วนตัวเฉพาะหน้า หรือเพื่อประจบประแจง เห็นแล้วทุเรศ ทุเรศ ทุเรศ สิ้นดี
00 ไม่นึกว่าคนอย่าง “เฉลิม” ที่อ้างว่าจบถึงดอกเตอร์ แต่เท่าที่เห็นวุฒิภาวะต่ำต้อยยิ่งกว่าคนที่ไม่มีการศึกษาเสียอีก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหากจะด่า กษิต ก็ด่าไปให้หนำใจ เพราะเป็นเรื่องภายใน แต่การที่นำเรื่องไปขายให้คนอื่นนั้น คนที่มีสติปกติเขาไม่ทำกัน !!
00 ไล่เรียงรายชื่อกันอีกทีก็ได้ ยกเว้น ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังหลบหนีคดีโกงอยู่นอกประเทศแล้ว ก็มี บรรหาร จากชาติไทยพัฒนา สุวัจน์ จากรวมใจไทยฯ เนวิน จากภูมิใจไทย ไพโรจน์ จากเพื่อแผ่นดิน คนเหล่านี้ล้วนถูกศาลรัฐธรรมนูญห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง เนื่องจากร่วมกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตามกฎหมายที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องยุบพรรค แต่คนพวกนี้นอกจากไม่เคยสำเหนียกแล้วยังคิดจะมาแก้ไขกติกาให้ตัวเองพ้นความผิด แล้วให้ได้กลับเข้ามามีอำนาจอีกรอบ
00 นาทีนี้ไม่ต้องพูดกันมากแล้วว่า 6 ประเด็น ที่พยายามจะแก้ไขนั้นมีอะไรบ้าง เพราะสังคมรับรู้กันไปแล้ว แต่เอาเป็นว่าไม่ได้เกี่ยวกับประโยชน์ของชาวบ้านแม้แต่น้อย มีเรื่องของนักการเมือง แถมยังเป็นเรื่องของนักการเมือง “ขี้ฉ้อ” เสียอีก มันก็ยิ่งทุเรศ สะท้อนให้เห็นธาตุแท้ของคนพวกนี้มากขึ้นทุกวัน จนสะอิดสะเอียดเหลือจะกล่าว
00 อ้อ เพิ่งได้ยินข่าวว่า “เหนาะไดโนเสาร์” เปรยว่าจะวางมือการเมือง ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นข่าวจริง เพราะแผ่นดินจะได้สูงขึ้นอีกหลายนิ้ว แต่เรื่อง ธรณีสงฆ์ รับรองจะเป็นบาปกรรมติดตัวไปตลอดแน่นอน
00 ยังพูดกันไม่จบว่า สาเหตุที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กลับมารับใช้ ทักษิณ อีกรอบมาจากเรื่องอะไรกันแน่ ทั้งเรื่อง“ค่าตัว” หรืออยู่ร่วมชะตากรรมเดียวกัน ที่อาจจะต้องมาติดคุกตอนแก่หรือเปล่า ทำให้ต้องตัดสินใจแบบหน้ามืด ยอมเข้ามาเป็น “หุ่นเชิด” ในพรรคเพื่อไทยให้ทักษิณ หรือว่าต้องการเข้ามาเล่น “เกมใต้ดิน” ป่วนบ้านป่วนเมือง เพื่อกดดันต่อรองให้กับตัวเองและนักโทษหนีคุกที่อยู่ข้างนอก
00 ได้ยินคำสารภาพจากปากของคนที่เคยเป็นถึงรองนายกฯ รมว.มหาดไทย บอกว่าได้ส่งเทปคำพูดของ กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีบัวแก้ว เมื่อเมื่อครั้งขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ด่า “ฮุนเซน” ส่งไปให้เจ้าตัวฟังถึงพนมเปญ แล้วกล่าวด้วยความชื่นชมยินดีในความสามารถของตัวเอง ทำนองว่า นี่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำให้ผู้นำต่างประเทศโกรธรัฐบาลไทยได้เป็นฟืนเป็นไฟ ก็อยากจะเตือนด้วยความหวังดีว่า พฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่ต่างจาก “พระยาจักรี” ที่เปิดประตูให้ทหารพม่าเข้ามาเผากรุงศรีฯในอดีต หวังแต่ประโยชน์ส่วนตัวเฉพาะหน้า หรือเพื่อประจบประแจง เห็นแล้วทุเรศ ทุเรศ ทุเรศ สิ้นดี
00 ไม่นึกว่าคนอย่าง “เฉลิม” ที่อ้างว่าจบถึงดอกเตอร์ แต่เท่าที่เห็นวุฒิภาวะต่ำต้อยยิ่งกว่าคนที่ไม่มีการศึกษาเสียอีก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหากจะด่า กษิต ก็ด่าไปให้หนำใจ เพราะเป็นเรื่องภายใน แต่การที่นำเรื่องไปขายให้คนอื่นนั้น คนที่มีสติปกติเขาไม่ทำกัน !!