ศูนย์ข่าวศรีราชา- กรรมการผู้จัดการ แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ระบุตลาดบ้านจัดสรรในชลบุรีไปได้ จากลังซื้อกลุ่มคนทำงานในพื้นที่ยังมีสูง โดยบ้านจัดสรรราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทยังคงเป็นที่นิยมและมีสัดส่วนการขายมากกว่าโครงการบ้านหรู ชี้ปี 53 ผู้ประกอบการจะใช้กลยุทธ์ด้านราคาเป็นจุดขายใหญ่ เช่นเดียวกับแปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ที่อาจปรับราคาขายโครงการใหม่ที่มีแผนเปิดตัวในอีก 2 ปีข้างหน้าให้ตรงความต้องการของตลาด
นายสมบูรณ์ วรปัญญาสกุล กรรมการผู้จัดการ แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ผู้บริหารบริษัท เมโทรลิงค์ จำกัด บริษัทลูกซึ่งดูแลโครงการหมู่บ้านแปซิฟิค โฮม 1-2 บริเวณหลังทางเลี่ยงตลาดหนองมนชลบุรี เผยถึงสถานการณ์ตลาดบ้านจัดสรรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีว่ายังคงมีทิศทางที่สดใสแม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะชะลอตัว แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน เห็นได้จากยอดขายโครงการหมู่บ้านแปซิฟิค โฮม เฟส 2 ที่เเปิดการขายไปเมื่อปีก่อน มียอดจองแล้วกว่า 70% ซึ่งโครงการนี้มีจุดขายแตกต่างจากโครงการแรกคือความทันสมัยของรูปทรงที่มีให้เลือก 2 สไตล์ คือสไตล์ PLUS EXPRESS และ PREMIUM EXPRESS
ขณะที่ราคาขายต่อยูนิตได้ปรับลดลงประมาณ 3 -3.5 แสนบาท หลังพบกำลังซื้อบ้านระดับบนที่มีราคาขายเกิน 3 ล้านบาทเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว โดยมีราคาขายเริ่มต้นที่ 2.5 - 2.85 ล้านบาท และยังเป็นราคาที่ปรับลดจากโครงการในเฟสแรกที่มีราคาเริ่มต้นที่ 2.85 ล้านบาทเรื่อยไปจนถึงกว่า 3 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจำนวนอยู่นิต ที่เหลืออีก 30% ในเฟสที่ 2 จะสามารถพัฒนาและปิดการขายได้ในอีก 1 ปี หลังจากนั้นก็จะเดินหน้าพัฒนาโครงการในเฟสที่ 3 ต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานเดิมที่วางไว้
“ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรียังคงมีอยู่สูงและไม่มีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยราคาบ้านจัดสรรที่ขายได้และเป็นที่ต้องการของตลาดจะมีราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อยูนิต ขณะที่ตลาดบ้านหรูซึ่งถือเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยตรงจะเริ่มขายได้น้อยลง สำหรับแนวโน้มการแข่งขันของผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี นับจากนี้ จะแข่งขันกันที่ทำเลที่ตั้งโครงการ คุณภาพงานและราคาเป็นสำคัญ”
นายสมบูรณ์ ยังเผยถึงแนวโน้มตลาดบ้านจัดสรรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีในปี 2553 ว่าราคาขายจะเป็นกลยุทธ์ใหญ่ที่แต่ละโครงการเลือกใช้ในการทำตลาด โดยความต้องการบ้านจัดสรรในปีหน้าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาทต้นๆ และหากแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเป็นเช่นนี้ก็คาดว่าแบบบ้านที่จะเกิดขึ้นในโครงการใหม่ ๆ รวมถึงราคาขายจะถูกลงตามความสามารถในการซื้อของกลุ่มลูกค้า
ส่วนการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนใหม่จะมีให้เห็นน้อยลง แต่การลงทุนในพื้นที่จะเป็นในลักษณะของการขยายโครงการเก่าของกลุ่มผู้ลงทุนเดิม เช่นเดียวกับแปซิฟิค ที่ยังจะคงเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในเฟสที่ 3 ที่มีแผนจะเปิดดำเนินการในอีก 2 ปีข้างหน้า
“หากภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังคงชะลอตัวอยู่เช่นนี้ ก็คาดว่าโครงการในเฟสที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าก็คงจะต้องปรับรูปแบบบ้าน รวมทั้งราคาขายเพื่อให้เหมาะสมกับกำลังซื้อที่มีอยู่ในตลาดด้วยเช่นกัน ” นายสมบูรณ์ กล่าว
อนึ่ง การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มแปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ที่มีทั้งศูนย์ การค้า คอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารพาณิชย์และบ้านจัดสรรนับตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 8 พันล้านบาท โดยทางกลุ่มยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีที่ดินซึ่งอยู่ในแลนด์แบงก์โดยเฉพาะที่ดินในจังหวัดชลบุรีอีกเป็นจำนวนมาก
นายสมบูรณ์ วรปัญญาสกุล กรรมการผู้จัดการ แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ผู้บริหารบริษัท เมโทรลิงค์ จำกัด บริษัทลูกซึ่งดูแลโครงการหมู่บ้านแปซิฟิค โฮม 1-2 บริเวณหลังทางเลี่ยงตลาดหนองมนชลบุรี เผยถึงสถานการณ์ตลาดบ้านจัดสรรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีว่ายังคงมีทิศทางที่สดใสแม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะชะลอตัว แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน เห็นได้จากยอดขายโครงการหมู่บ้านแปซิฟิค โฮม เฟส 2 ที่เเปิดการขายไปเมื่อปีก่อน มียอดจองแล้วกว่า 70% ซึ่งโครงการนี้มีจุดขายแตกต่างจากโครงการแรกคือความทันสมัยของรูปทรงที่มีให้เลือก 2 สไตล์ คือสไตล์ PLUS EXPRESS และ PREMIUM EXPRESS
ขณะที่ราคาขายต่อยูนิตได้ปรับลดลงประมาณ 3 -3.5 แสนบาท หลังพบกำลังซื้อบ้านระดับบนที่มีราคาขายเกิน 3 ล้านบาทเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว โดยมีราคาขายเริ่มต้นที่ 2.5 - 2.85 ล้านบาท และยังเป็นราคาที่ปรับลดจากโครงการในเฟสแรกที่มีราคาเริ่มต้นที่ 2.85 ล้านบาทเรื่อยไปจนถึงกว่า 3 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจำนวนอยู่นิต ที่เหลืออีก 30% ในเฟสที่ 2 จะสามารถพัฒนาและปิดการขายได้ในอีก 1 ปี หลังจากนั้นก็จะเดินหน้าพัฒนาโครงการในเฟสที่ 3 ต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานเดิมที่วางไว้
“ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรียังคงมีอยู่สูงและไม่มีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยราคาบ้านจัดสรรที่ขายได้และเป็นที่ต้องการของตลาดจะมีราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อยูนิต ขณะที่ตลาดบ้านหรูซึ่งถือเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยตรงจะเริ่มขายได้น้อยลง สำหรับแนวโน้มการแข่งขันของผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี นับจากนี้ จะแข่งขันกันที่ทำเลที่ตั้งโครงการ คุณภาพงานและราคาเป็นสำคัญ”
นายสมบูรณ์ ยังเผยถึงแนวโน้มตลาดบ้านจัดสรรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีในปี 2553 ว่าราคาขายจะเป็นกลยุทธ์ใหญ่ที่แต่ละโครงการเลือกใช้ในการทำตลาด โดยความต้องการบ้านจัดสรรในปีหน้าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาทต้นๆ และหากแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเป็นเช่นนี้ก็คาดว่าแบบบ้านที่จะเกิดขึ้นในโครงการใหม่ ๆ รวมถึงราคาขายจะถูกลงตามความสามารถในการซื้อของกลุ่มลูกค้า
ส่วนการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนใหม่จะมีให้เห็นน้อยลง แต่การลงทุนในพื้นที่จะเป็นในลักษณะของการขยายโครงการเก่าของกลุ่มผู้ลงทุนเดิม เช่นเดียวกับแปซิฟิค ที่ยังจะคงเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในเฟสที่ 3 ที่มีแผนจะเปิดดำเนินการในอีก 2 ปีข้างหน้า
“หากภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังคงชะลอตัวอยู่เช่นนี้ ก็คาดว่าโครงการในเฟสที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าก็คงจะต้องปรับรูปแบบบ้าน รวมทั้งราคาขายเพื่อให้เหมาะสมกับกำลังซื้อที่มีอยู่ในตลาดด้วยเช่นกัน ” นายสมบูรณ์ กล่าว
อนึ่ง การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มแปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ที่มีทั้งศูนย์ การค้า คอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารพาณิชย์และบ้านจัดสรรนับตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 8 พันล้านบาท โดยทางกลุ่มยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีที่ดินซึ่งอยู่ในแลนด์แบงก์โดยเฉพาะที่ดินในจังหวัดชลบุรีอีกเป็นจำนวนมาก
