xs
xsm
sm
md
lg

ยอดขาดดุลพุ่ง2.4แสนล้าน สนองรัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังเผย 11 เดือนรัฐบาลโหมอัดฉีดเงินเข้าระบบ ยอดขาดดุลการคลังพุ่ง 2.4 แสนล้าน คิดเป็น 2.8%ของจีดีพี ระบุสอดคล้องกับนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ด้านการจัดเก็บรายได้ยังไม่กระเตื้อง จากการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมหลักที่ยังลดลง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 11 เดือนแรก (ตุลาคม 2551-สิงหาคม 2552) ของปีงบประมาณ 2552 ภาครัฐบาลได้อัดฉีดเงินสุทธิเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหรือขาดดุลการคลังทั้งสิ้น 243,384 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.8 ของ GDP ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเป็นไปตามเป้าหมายการดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 รายได้ภาครัฐบาล มีจำนวนทั้งสิ้น 2,007,461 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.7 ของ GDP จากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 22.9 ของ GDP และลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว 79,685ล้านบาท หรือร้อยละ 3.8 โดยเป็นผลมาจากการลดลงทั้งในส่วนของรายได้รัฐบาล และและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

ส่วนบัญชีเงินนอกงบประมาณสูงกว่าระยะเดียวกันปีที่แล้ว โดยรัฐบาลมีรายได้ 1,363,315 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.4 ของ GDP จากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 16.0 ของ GDP และลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว 97,780 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.7 ทั้งนี้ เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ 3 กรมหลัก ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และอากรขาเข้า นอกจากนี้การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงเช่นกัน ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ 300,500 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.4 ของ GDP จากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 3.3 ของ GDP และลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว 3,840 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 ทั้งนี้ เนื่องจากเงินอุดหนุนและเงินที่รัฐบาลเก็บให้อปท.ลดลง

ด้านรายจ่ายของภาครัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 2,250,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีที่แล้ว 198,680 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.7 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายรัฐบาลเป็นสาเหตุหลัก และรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลมีการเบิกจ่ายงบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,697,843 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ19.2 ของ GDP จากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 16.2 ของ GDP และสูงกว่าระยะเดียวกันปีที่แล้ว 222,482 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.1 ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้น 281,449 ล้านบาท ส่วนเงินกู้ต่างประเทศ มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 6,862 ล้านบาท และบัญชีเงินนอกงบประมาณ จำนวน 264,691 ล้านบาท

จากสภาวะดังกล่าวงทำให้ ดุลการคลังภาครัฐบาล ขาดดุลการคลังจำนวน 243,384 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.8 ของ GDP ขณะที่ระยะเดียวกันปีที่แล้วที่เกินดุลจำนวน 31,688 ล้านบาท สำหรับดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาล (Primary Balance) ในช่วง11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 ได้สะท้อนถึงทิศทางนโยบายการคลังของรัฐบาลโดยขาดดุลรวมทั้งสิ้น 167,169 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.9 ของ GDP ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 127,167 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.4 ของ GDP
กำลังโหลดความคิดเห็น