xs
xsm
sm
md
lg

คลังโชว์เก็บรายได้เกินเป้า5หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – คลังโชว์ผลงานจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 51 ทั้งสิ้น 1.54 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 5.2 หมื่นล้านและสูงกว่าปีที่แล้ว กว่า 1 แสนล้านบาท ยอมรับ 6 มาตรการ 6 เดือนกระทบผลการจัดเก็บรายได้จากภาษีบุคคลธรรมดา นิติบุคคลและภาษีน้ำมัน

นายสมชัย สัจจพงษ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือนกันยายน 2551 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.26 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3.1 หมื่นล้านบาท หรือ 33.7% สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากการยื่นชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมรอบครึ่งปีบัญชี 2551 ที่เหลื่อมมาจากเดือนสิงหาคม 2551 ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ในเดือนนี้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.35 หมื่นล้านบาทและ 5.9 พันล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากนี้ ภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้ายังจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง ส่วนการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีน้ำมันต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน

ตลอดทั้งปีงบประมาณรัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.54 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5.22 หมื่นล้านบาท หรือ 3.5% และสูงกว่าปีงบประมาณที่แล้วจำนวน 1.02 แสนล้านบาท หรือ 7.1% และหากปีงบประมาณที่แล้วไม่รวมรายได้พิเศษจำนวน 4.8 หมื่นล้านบาท จากการยุบเลิกทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยน 3.6 หมื่นล้านบาท และส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร 1.1 หมื่นล้านบาท จะสูงกว่าปีที่แล้ว 10.9% ทั้งนี้การจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าประมาณการดังกล่าวเป็นผลจากการเก็บภาษีของกรมสรรพากรและกรมศุลกากร ตลอดจนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นสำคัญ

สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้ 1.กรมสรรพากรจัดเก็บได้รวม 1.27 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6.72 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5.6% โดยภาษีจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติ บุคคลสูงกว่าประมาณการ 6.27 หมื่นล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม สูงกว่าประมาณการ 2.24 หมื่นล้านบาท และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 7 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตามภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตามมติคณะรัฐมนตรี 4 มีนาคม 2551

2.กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 2.78 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1.44 หมื่นล้านบาท หรือ 5.0% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1.22 หมื่นล้านบาท ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 3.5 พันล้านบาท และภาษีเบียร์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1.8 พันล้านบาท

ส่วนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ถึงแม้ว่าในปีนี้รัฐบาลจะปรับอัตราภาษีรถยนต์นั่งทุกประเภทที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทเอทานอลเป็นส่วนผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 (E 20) ลดลง 5% และทำให้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์หายไปส่วนหนึ่ง แต่การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์โดยรวมยังสูงกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ 1.4% และสูงกว่าปีที่แล้ว 3.5%

3. กรมศุลกากรจัดเก็บได้รวม 9.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.18 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 13.4% เป็นผลจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องมาจากการขยายตัวของมูลค่าการนำเข้าในอัตราที่สูงถึง 30.0% ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐและ 20.8% ในรูปเงินบาท

4.รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 1 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2.7 พันล้านบาท หรือ 2.8% เนื่องจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)PTT ได้นำส่งรายได้ก่อนกำหนด 8.8 พันล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด ได้แก่ บมจ ปตท. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)

สำหรับหน่วยงานอื่นนำส่งรายได้ 8.42 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการ แต่ต่ำกว่าปีที่แล้ว 3.63 หมื่นล้านบาท หรือ 30.2% เนื่องจากปีที่แล้วได้รับรายได้พิเศษ 4.8 หมื่นล้านบาท ส่วนกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 1.33 พันล้านบาท เนื่องจากได้รับรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของค่าเช่าท่อก๊าซและที่ดินจากบริษัท ปตท.

ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีการจัดสรรรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมทั้งสิ้น 6.64 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.4 พันล้านบาท หรือ 2.2% และสูงกว่าปีที่แล้ว 8.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าประมาณการและสูงกว่าปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น