มนุษย์หน้าไหน..มีชีวิตเป็นอมตะบ้าง?
มนุษย์หน้าไหนในโลกนี้..หนีเงื้อมมือมัจจุราชพ้นบ้าง?
คำตอบ..คือ..ไม่มี ไม่มี..ใครหน้าไหนหลุดรอดเงื้อมมือมัจจุราชได้ครับ!
ทันทีที่เสียงปืนสงครามสารพัดชนิด ยิงกระหน่ำใส่รถของ สนธิ ลิ้มทองกุล กว่าร้อยนัดกลุ่มมือปืนในเครื่องแบบที่ปฏิบัติภารกิจลับตามคำสั่งนาย ล้วนเชื่อมั่นว่า..สนธิลิ้ม..สื่อมวลชนอาวุโสปากกล้า-ใจถึง ต้องม่องเท่งซี้แหง๋แก๋หรือตายแน่นอน
แต่ “แป๊ะลิ้ม” ที่ไม่ตายคารถ ยังดันทะลึ่งพาร่างโชกเลือดเดินลงจากรถ มาช่วย รปภ.และคนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวขึ้นรถพลเมืองดีไปรักษายังโรงพยาบาลวชิรโดยปลอดภัยด้วย
ผมมานั่งตรองเรื่องนี้ดูแล้ว น่าสงสารสนธิลิ้มจริงๆ โถ..เจ้าประคุณพ่อทูลหัว..ประกาศสู้ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ผู้มากทั้งอำนาจลับและเปิดเผยว่า เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย-ตลอดเวลา
แต่สุดท้าย..สนธิก็ต้องเผชิญชะตากรรมที่ฟ้าลิขิต นั่นคือ..ธุรกิจจะเจ๊ง..ก็เจ๊งไม่ได้ เพราะประชาชนคนไทยไม่ยอมให้เจ๊ง ถึงกับร่วมมือร่วมใจบริจาคเงินทอง และซื้อข้าวของทุกชนิดที่เอเอสทีวีขาย จนสินค้าเหล่านั้นขายดีราวเทน้ำเทท่า
ทั้งหมดที่ประชาชนคนไทยมีน้ำใจกรุณานั้น ประชาชนหวังเพียง..มิให้ทีวีผ่านดาวเทียมของประชาชนช่องนี้..จอดับครับ!
นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลก ที่ประชาชนได้เข้ามาโอบอุ้มคุ้มครองดูแล ทีวีที่เป็นปากเสียงของพวกเขาอย่างเต็มตัว
ส่วนความตายน่ะหรือ..สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ยังให้แป๊ะลิ้มตายตอนนี้ไม่ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงได้แสดงอภินิหาริย์อันเหลือเชื่อ ด้วยการปกป้องชีวิต “แป๊ะลิ้ม” ให้รอดพ้นจากคมกระสุนราวห่าฝนนับร้อยนัดของกลุ่มมือปืน ให้เห็นกับตาเป็นที่ประจักษ์กันจะจะไงล่ะครับ!
นั่นทำให้งานเลี้ยงฉลองสนธิลิ้มตายคารถ ที่ใครหลายคนเตรียมเลี้ยงฉลองใหญ่ ทั้งที่ดูไบและในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนั้น..แป๊กไปเลย โดยเฉพาะหญิงชราร้อยวิกกับหญิงสูงวัย เมียนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งทางภาคเหนือ ต้องนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ..มองหน้าเอ๋อๆ กันเองแก้เซ็งไปเลยครับ
ก็แหม..หน้าห้องรัฐมนตรีใหญ่ที่นัดฉลองสนธิตายนั้น ต๊กกะใจที่สนธิลิ้มไม่ตายดังหวัง..จึงไม่กล้ามาร่วมวงสังสรรค์สนทนาลับๆ ในครั้งนี้ไงล่ะครับ
ส่วนจอมบงการใหญ่ไม่กี่คนนั้น ก็เกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องหาคำแก้ต่างให้ตัวเองพัลวันไปหมด ที่สำคัญ..กลัวหลักฐานจะโยงใยพาดพิงมาถึงตน ก็แหม..งานสหบาทาฆ่าสนธิลิ้มครั้งนี้ มีการลงขันด้วยเงินทองมากมาย แถมขบวนคนทำงานลับๆ อีกเป็นสิบคน ก็ล้วนเป็นสายตรงของนายทหารใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มบางคนอีกด้วย งานนี้จึงพอเห็นเป้าหมายจอมบงการได้ชัดแจ้งแดงแจ๋พอสมควร ส่วนจะจับมือปืนและจอมบงการได้ครบทั้งแก๊งหรือไม่นั้น..เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่ง ก็คือ การใช้โทรศัพท์มือถือที่ซื้อใหม่เอี่ยม เพื่อใช้ในภารกิจเฉพาะกิจ กับงานล่าสังหารสนธิลิ้มนับสิบเครื่อง ก็กลายเป็นหลักฐานการติดต่อ และเป็นเบาะแสเจ๋งเป้งอีกด้วย
โทรศัพท์มือถือเหล่านั้นถูกใช้งานถี่ยิบ ด้วยการโทร.ถึงบุคคลสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่เป็นเอกชนและข้าราชการใหญ่กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและหลังการยิงสนธิลิ้นสิ้นสุดลง ก่อนที่โทรศัพท์เหล่านั้นจะถูกทำลาย!
ผมลองทำตัวเป็นคน “หูทิพย์” ที่ได้ยินการสนทนาสั้นๆ ของกลุ่มมือสังหารพูดกับผู้ใหญ่บางคนให้ “Z” ว่า...
“..นาย..นาย..พวกผมยิงสุมใส่มันเป็นร้อยๆ นัดแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมสนธิลิ้ม..มันยังไม่ตาย..”
ฝ่ายบุคคลสำคัญทั้งในและต่างประเทศจะพูดสวนกลับมาสั้นๆ คล้ายกันว่า..
“..พวกมึงยิงภาษาอะไรว่ะ..สนธิลิ้ม..ไม่ตาย..เดี๋ยวเรื่องก็บานปลายมาถึงกูหรอก..”
สุดท้าย..กลุ่มมือสังหารและจอมบงการฆ่าสนธิลิ้ม ต่างก็โมโหโกรธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์..ที่ทำให้สนธิลิ้ม มีชีวิตรอดจากคมกระสุนราวห่าฝนมาจนทุกวันนี้!
การรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ของสนธิลิ้มในครั้งนั้น หลายคนบอกว่า เพราะสนธิลิ้มยังทำงานรับใช้ชาติบ้านเมืองไม่เรียบร้อย ก็ดูสิครับพ่อแม่พี่น้อง..นักการเมืองชั่วก็ยังลอยหน้าลอยตา เต็มทั้งในสภาและทำเนียบฯ
ที่สำคัญนักการเมืองประเภท “ตะกวดขึ้นวอ” ที่ชอบโกงกินบ้านเมืองและทำเรื่องผิดกฎหมาย ทางการไทยก็ยังเอาตัวมาลงโทษไม่ได้จนทุกวันนี้
แถมนักการเมืองชั่วคนนั้น ยังใช้ผืนดินของบางประเทศในโลก และใช้เงินที่โกงกินชาติมาเที่ยวจ้างคนชั่ว ให้ทำร้ายประเทศไทยในทางลับและเปิดเผย ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการตราบจนทุกวันนี้
ต้องยอมรับว่า..วันนี้ชาติไทย ได้ตกอยู่ในกำมือของพวกนักการเมืองชั่ว ที่แตกแขนงเป็นขั้วต่างๆ มากมายหลายก๊ก-หลายก๊วน-หลายแก๊ง-หลายพรรค ขั้วอำนาจเก่า-พรรคเพื่อไทยนั้น ทักษิณและญาติพี่น้องหนุนหลังอยู่เต็มตัว ขั้วอำนาจใหม่-พรรคภูมิใจไทย มี “ยี้ห้อย-ร้อยยี่สิบ” และทหารใหญ่บางคนสนับสนุนทั้งลับและเปิดเผยเต็มที่
ส่วนขั้วอำนาจอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำบริหารชาติบ้านเมืองในยามนี้ ก็ถูกพรรคร่วมรัฐบาลบีบบังคับสารพัด ที่สำคัญได้ทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์กลายเป็นรัฐบาลที่ถูกครหาว่ามีการฉ้อฉลโกงกินไม่ต่างไปจากรัฐบาลทักษิณ แถมการโยกย้ายข้าราชการในหน่วยงานของรัฐ ก็ไร้คุณธรรมจริยธรรมและเต็มไปด้วยความอยุติธรรม
เมื่อเกิดการบริหารชาติด้วยความฉ้อฉลไม่ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของส่วนรวม มีการโกงกินคอร์รัปชันราวดอกเห็ดเช่นนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานะพันธมิตรฯ และสื่อมวลชนอาวุโส รวมทั้งบุคลากรในสื่อเครือเอเอสทีวี-ผู้จัดการ ก็จำต้องลุกขึ้นมาเปิดโปงแฉโพยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และขั้วการเมืองชั่วร้ายทั้งหลายอย่างถึงลูกถึงคน โดยไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น
ด้วยจุดยืนดังกล่าวของสนธิลิ้ม ทำให้สื่อผ่านดาวเทียมอย่างเอเอสทีวี-ผู้จัดการที่ทรงพลัง กลายเป็น “ก้างขวางคอ” นักการเมืองชั่วโดยปริยาย
แผนการลงขัน-ลงเรี่ยว-ลงแรง-ลงมือมุ่งทำลายล้าง “ก้างขวางคอ” จึงบังเกิดขึ้นอีกคำรบหนึ่ง เป้าหมายของแผนการล่าสังหาร มีทั้ง สนธิ ลิ้มทองกุล กับแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งทนายประชาชนอย่าง สุวัตร อภัยภักดิ์ ก็ล้วนตกอยู่ในข่ายของแผนลอบสังหารในคราครั้งนี้ด้วย
ทำไมต้องฆ่าสนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ น่ะหรือ? จอมบงการต่างหลงผิดคิดว่า หากสนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ ตาย เอเอสทีวี-ผู้จัดการและพันธมิตรฯ จะอ่อนแอลง
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่สนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ เหล่านี้ จะตกเป็นเป้าล่าสังหารของคนชั่วอยู่เนืองๆ ครับ
สำหรับ สุวัตร อภัยภักดิ์ นั้น เขาและเพื่อนๆ ทนายความผู้กล้าหาญ ได้ยืนหยัดว่าความให้กับคนดีในนามพันธมิตรฯ ที่ถูกนักการเมืองและตำรวจบางคนกลั่นแกล้ง ด้วยคดีความสารพัดที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมเสมอมา
คณะทนายของประชาชนอย่างสุวัตรและเพื่อน มิได้ต่อสู้ปกป้องคนดีในเชิงรับเท่านั้น หากแต่พวกเขาและเพื่อนยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ในการใช้กฎหมายเชิงรุกกับคนชั่วอย่างมีประสิทธิภาพสูงอีกต่างหาก
หลายคำฟ้อง-หลายคดีความที่สุวัตรกับเพื่อนทนายความ ได้ยื่นคัดค้านหรือฟ้องร้องต่อรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลนอมินี ทำให้การฉ้อฉลที่ดำเนินอยู่ต้องชะงักงัน บางเรื่องต้องยุติการขายชาติโกงชาติไปเลย รวมทั้งรัฐมนตรีบางคนยังโดนลงโทษ โดยองค์กรอิสระและสถาบันศาลอีกต่างหาก
ด้วยความมั่นคงในอุดมการณ์ที่ยืนเคียงข้างประชาชน และด้วยความสามารถของทนายสุวัตรและเพื่อนๆ ได้ทำให้คดีความที่สนธิลิ้มและชาวพันธมิตรฯ โดนฟ้อง ประสบชัยชนะไปแล้วไม่น้อย
แผนล่าสังหารทนายสุวัตรเกิดขึ้น เพราะนักการเมืองชั่วบางคนได้เสนอเงิน 20ล้านบาทให้ทนายสุวัตรยุติการว่าความให้กับสนธิลิ้ม รวมทั้งเสนอเงิน 2,500 ล้านบาท ให้ทนายสุวัตรช่วยว่าความให้กับนักการเมืองคนหนึ่ง ที่ถูกอายัดทรัพย์และเงินก้อนโตที่ได้มาอย่างไม่โปร่งใสอีกด้วย
แต่ทนายประชาชนที่ชื่อ สุวัตร อภัยภักดิ์ ได้ปฏิเสธการรับงานจากเครือข่ายนักการเมืองผู้ฉ้อฉลโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้นทนายสุวัตรก็ถูกสะกดรอย มีคนแอบถ่ายรูปและส่งรูปที่แอบถ่าย ให้กับทนายสุวัตรทางโทรศัพท์ เพื่อเป็นการข่มขู่..อีกทั้งมีการคุกคามถึงขั้นหมายชีวิตทนายสุวัตรอย่างต่อเนื่อง
แต่ทนายประชาชนอย่างสุวัตรและเพื่อนผู้กล้าหาญมิได้หวาดหวั่น ทุกคนยังคงยืนหยัดที่จะว่าความให้กับชาวพันธมิตรฯ ต่อไป อย่างไม่ระย่อครับ
เจ้าข้าเอ้ย..พ่อเจ้าประคุณตำรวจจ๋า จงรู้ไว้ ณ ที่นี้เลยนะว่า กลุ่มคนที่วางแผนจะยิงบุคคลสำคัญของพันธมิตรฯ และทนายสุวัตรนั้น เป็นกลุ่มคนที่มีส่วนในการรุมยิง สนธิ ลิ้มทองกุล คราครั้งที่แล้วขอรับกระผม!
มนุษย์ทุกคน..เลือกเกิดไม่ได้ มนุษย์ทุกคน..หนีความตายไม่พ้น แต่มนุษย์ทุกคน..มีสิทธิที่จะเลือกตายได้ จะเลือกตายอย่างไร้ค่าหรือจะเลือกตายอย่างมีค่า ตายเพื่อชาติและประชาชนนั้น ถือเป็นความตายที่ทรงคุณค่าและหนักกว่าขุนเขาครับ
นักร้องลูกทุ่งอย่าง สมัย อ่อนวงศ์ เคยร้องเพลงว่า “..ปืน บ่ มีลูก..ยิงถูก..ก็ บ่ ตาย..”
แต่สำหรับสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น ปืนมีลูก-ยิงถูกก็ยัง บ่ ตาย และถึงตาย..มือปืนและจอมบงการจงรู้ไว้ ณ ที่นี้เลยนะว่า
สนธิลิ้ม..ตายหนึ่งจะเกิดสนธิลิ้มเป็นพัน เป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน..เป็นล้านๆๆๆ..ฯลฯ ตามที่ หงา-คาราวาน ศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นเก๋ากึ๋กชอบร้องเพลงบนเวทีว่า
..ตายสิบเกิดแสน..เพื่อทดแทนผู้สูญดับ..ไงล่ะครับ!!!
มนุษย์หน้าไหนในโลกนี้..หนีเงื้อมมือมัจจุราชพ้นบ้าง?
คำตอบ..คือ..ไม่มี ไม่มี..ใครหน้าไหนหลุดรอดเงื้อมมือมัจจุราชได้ครับ!
ทันทีที่เสียงปืนสงครามสารพัดชนิด ยิงกระหน่ำใส่รถของ สนธิ ลิ้มทองกุล กว่าร้อยนัดกลุ่มมือปืนในเครื่องแบบที่ปฏิบัติภารกิจลับตามคำสั่งนาย ล้วนเชื่อมั่นว่า..สนธิลิ้ม..สื่อมวลชนอาวุโสปากกล้า-ใจถึง ต้องม่องเท่งซี้แหง๋แก๋หรือตายแน่นอน
แต่ “แป๊ะลิ้ม” ที่ไม่ตายคารถ ยังดันทะลึ่งพาร่างโชกเลือดเดินลงจากรถ มาช่วย รปภ.และคนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวขึ้นรถพลเมืองดีไปรักษายังโรงพยาบาลวชิรโดยปลอดภัยด้วย
ผมมานั่งตรองเรื่องนี้ดูแล้ว น่าสงสารสนธิลิ้มจริงๆ โถ..เจ้าประคุณพ่อทูลหัว..ประกาศสู้ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ผู้มากทั้งอำนาจลับและเปิดเผยว่า เจ๊งเป็นเจ๊ง-ตายเป็นตาย-ตลอดเวลา
แต่สุดท้าย..สนธิก็ต้องเผชิญชะตากรรมที่ฟ้าลิขิต นั่นคือ..ธุรกิจจะเจ๊ง..ก็เจ๊งไม่ได้ เพราะประชาชนคนไทยไม่ยอมให้เจ๊ง ถึงกับร่วมมือร่วมใจบริจาคเงินทอง และซื้อข้าวของทุกชนิดที่เอเอสทีวีขาย จนสินค้าเหล่านั้นขายดีราวเทน้ำเทท่า
ทั้งหมดที่ประชาชนคนไทยมีน้ำใจกรุณานั้น ประชาชนหวังเพียง..มิให้ทีวีผ่านดาวเทียมของประชาชนช่องนี้..จอดับครับ!
นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลก ที่ประชาชนได้เข้ามาโอบอุ้มคุ้มครองดูแล ทีวีที่เป็นปากเสียงของพวกเขาอย่างเต็มตัว
ส่วนความตายน่ะหรือ..สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ยังให้แป๊ะลิ้มตายตอนนี้ไม่ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงได้แสดงอภินิหาริย์อันเหลือเชื่อ ด้วยการปกป้องชีวิต “แป๊ะลิ้ม” ให้รอดพ้นจากคมกระสุนราวห่าฝนนับร้อยนัดของกลุ่มมือปืน ให้เห็นกับตาเป็นที่ประจักษ์กันจะจะไงล่ะครับ!
นั่นทำให้งานเลี้ยงฉลองสนธิลิ้มตายคารถ ที่ใครหลายคนเตรียมเลี้ยงฉลองใหญ่ ทั้งที่ดูไบและในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนั้น..แป๊กไปเลย โดยเฉพาะหญิงชราร้อยวิกกับหญิงสูงวัย เมียนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งทางภาคเหนือ ต้องนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ..มองหน้าเอ๋อๆ กันเองแก้เซ็งไปเลยครับ
ก็แหม..หน้าห้องรัฐมนตรีใหญ่ที่นัดฉลองสนธิตายนั้น ต๊กกะใจที่สนธิลิ้มไม่ตายดังหวัง..จึงไม่กล้ามาร่วมวงสังสรรค์สนทนาลับๆ ในครั้งนี้ไงล่ะครับ
ส่วนจอมบงการใหญ่ไม่กี่คนนั้น ก็เกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องหาคำแก้ต่างให้ตัวเองพัลวันไปหมด ที่สำคัญ..กลัวหลักฐานจะโยงใยพาดพิงมาถึงตน ก็แหม..งานสหบาทาฆ่าสนธิลิ้มครั้งนี้ มีการลงขันด้วยเงินทองมากมาย แถมขบวนคนทำงานลับๆ อีกเป็นสิบคน ก็ล้วนเป็นสายตรงของนายทหารใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มบางคนอีกด้วย งานนี้จึงพอเห็นเป้าหมายจอมบงการได้ชัดแจ้งแดงแจ๋พอสมควร ส่วนจะจับมือปืนและจอมบงการได้ครบทั้งแก๊งหรือไม่นั้น..เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่ง ก็คือ การใช้โทรศัพท์มือถือที่ซื้อใหม่เอี่ยม เพื่อใช้ในภารกิจเฉพาะกิจ กับงานล่าสังหารสนธิลิ้มนับสิบเครื่อง ก็กลายเป็นหลักฐานการติดต่อ และเป็นเบาะแสเจ๋งเป้งอีกด้วย
โทรศัพท์มือถือเหล่านั้นถูกใช้งานถี่ยิบ ด้วยการโทร.ถึงบุคคลสำคัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่เป็นเอกชนและข้าราชการใหญ่กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและหลังการยิงสนธิลิ้นสิ้นสุดลง ก่อนที่โทรศัพท์เหล่านั้นจะถูกทำลาย!
ผมลองทำตัวเป็นคน “หูทิพย์” ที่ได้ยินการสนทนาสั้นๆ ของกลุ่มมือสังหารพูดกับผู้ใหญ่บางคนให้ “Z” ว่า...
“..นาย..นาย..พวกผมยิงสุมใส่มันเป็นร้อยๆ นัดแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมสนธิลิ้ม..มันยังไม่ตาย..”
ฝ่ายบุคคลสำคัญทั้งในและต่างประเทศจะพูดสวนกลับมาสั้นๆ คล้ายกันว่า..
“..พวกมึงยิงภาษาอะไรว่ะ..สนธิลิ้ม..ไม่ตาย..เดี๋ยวเรื่องก็บานปลายมาถึงกูหรอก..”
สุดท้าย..กลุ่มมือสังหารและจอมบงการฆ่าสนธิลิ้ม ต่างก็โมโหโกรธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์..ที่ทำให้สนธิลิ้ม มีชีวิตรอดจากคมกระสุนราวห่าฝนมาจนทุกวันนี้!
การรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ของสนธิลิ้มในครั้งนั้น หลายคนบอกว่า เพราะสนธิลิ้มยังทำงานรับใช้ชาติบ้านเมืองไม่เรียบร้อย ก็ดูสิครับพ่อแม่พี่น้อง..นักการเมืองชั่วก็ยังลอยหน้าลอยตา เต็มทั้งในสภาและทำเนียบฯ
ที่สำคัญนักการเมืองประเภท “ตะกวดขึ้นวอ” ที่ชอบโกงกินบ้านเมืองและทำเรื่องผิดกฎหมาย ทางการไทยก็ยังเอาตัวมาลงโทษไม่ได้จนทุกวันนี้
แถมนักการเมืองชั่วคนนั้น ยังใช้ผืนดินของบางประเทศในโลก และใช้เงินที่โกงกินชาติมาเที่ยวจ้างคนชั่ว ให้ทำร้ายประเทศไทยในทางลับและเปิดเผย ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการตราบจนทุกวันนี้
ต้องยอมรับว่า..วันนี้ชาติไทย ได้ตกอยู่ในกำมือของพวกนักการเมืองชั่ว ที่แตกแขนงเป็นขั้วต่างๆ มากมายหลายก๊ก-หลายก๊วน-หลายแก๊ง-หลายพรรค ขั้วอำนาจเก่า-พรรคเพื่อไทยนั้น ทักษิณและญาติพี่น้องหนุนหลังอยู่เต็มตัว ขั้วอำนาจใหม่-พรรคภูมิใจไทย มี “ยี้ห้อย-ร้อยยี่สิบ” และทหารใหญ่บางคนสนับสนุนทั้งลับและเปิดเผยเต็มที่
ส่วนขั้วอำนาจอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำบริหารชาติบ้านเมืองในยามนี้ ก็ถูกพรรคร่วมรัฐบาลบีบบังคับสารพัด ที่สำคัญได้ทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์กลายเป็นรัฐบาลที่ถูกครหาว่ามีการฉ้อฉลโกงกินไม่ต่างไปจากรัฐบาลทักษิณ แถมการโยกย้ายข้าราชการในหน่วยงานของรัฐ ก็ไร้คุณธรรมจริยธรรมและเต็มไปด้วยความอยุติธรรม
เมื่อเกิดการบริหารชาติด้วยความฉ้อฉลไม่ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของส่วนรวม มีการโกงกินคอร์รัปชันราวดอกเห็ดเช่นนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ในฐานะพันธมิตรฯ และสื่อมวลชนอาวุโส รวมทั้งบุคลากรในสื่อเครือเอเอสทีวี-ผู้จัดการ ก็จำต้องลุกขึ้นมาเปิดโปงแฉโพยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และขั้วการเมืองชั่วร้ายทั้งหลายอย่างถึงลูกถึงคน โดยไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น
ด้วยจุดยืนดังกล่าวของสนธิลิ้ม ทำให้สื่อผ่านดาวเทียมอย่างเอเอสทีวี-ผู้จัดการที่ทรงพลัง กลายเป็น “ก้างขวางคอ” นักการเมืองชั่วโดยปริยาย
แผนการลงขัน-ลงเรี่ยว-ลงแรง-ลงมือมุ่งทำลายล้าง “ก้างขวางคอ” จึงบังเกิดขึ้นอีกคำรบหนึ่ง เป้าหมายของแผนการล่าสังหาร มีทั้ง สนธิ ลิ้มทองกุล กับแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งทนายประชาชนอย่าง สุวัตร อภัยภักดิ์ ก็ล้วนตกอยู่ในข่ายของแผนลอบสังหารในคราครั้งนี้ด้วย
ทำไมต้องฆ่าสนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ น่ะหรือ? จอมบงการต่างหลงผิดคิดว่า หากสนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ ตาย เอเอสทีวี-ผู้จัดการและพันธมิตรฯ จะอ่อนแอลง
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่สนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ เหล่านี้ จะตกเป็นเป้าล่าสังหารของคนชั่วอยู่เนืองๆ ครับ
สำหรับ สุวัตร อภัยภักดิ์ นั้น เขาและเพื่อนๆ ทนายความผู้กล้าหาญ ได้ยืนหยัดว่าความให้กับคนดีในนามพันธมิตรฯ ที่ถูกนักการเมืองและตำรวจบางคนกลั่นแกล้ง ด้วยคดีความสารพัดที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมเสมอมา
คณะทนายของประชาชนอย่างสุวัตรและเพื่อน มิได้ต่อสู้ปกป้องคนดีในเชิงรับเท่านั้น หากแต่พวกเขาและเพื่อนยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ในการใช้กฎหมายเชิงรุกกับคนชั่วอย่างมีประสิทธิภาพสูงอีกต่างหาก
หลายคำฟ้อง-หลายคดีความที่สุวัตรกับเพื่อนทนายความ ได้ยื่นคัดค้านหรือฟ้องร้องต่อรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลนอมินี ทำให้การฉ้อฉลที่ดำเนินอยู่ต้องชะงักงัน บางเรื่องต้องยุติการขายชาติโกงชาติไปเลย รวมทั้งรัฐมนตรีบางคนยังโดนลงโทษ โดยองค์กรอิสระและสถาบันศาลอีกต่างหาก
ด้วยความมั่นคงในอุดมการณ์ที่ยืนเคียงข้างประชาชน และด้วยความสามารถของทนายสุวัตรและเพื่อนๆ ได้ทำให้คดีความที่สนธิลิ้มและชาวพันธมิตรฯ โดนฟ้อง ประสบชัยชนะไปแล้วไม่น้อย
แผนล่าสังหารทนายสุวัตรเกิดขึ้น เพราะนักการเมืองชั่วบางคนได้เสนอเงิน 20ล้านบาทให้ทนายสุวัตรยุติการว่าความให้กับสนธิลิ้ม รวมทั้งเสนอเงิน 2,500 ล้านบาท ให้ทนายสุวัตรช่วยว่าความให้กับนักการเมืองคนหนึ่ง ที่ถูกอายัดทรัพย์และเงินก้อนโตที่ได้มาอย่างไม่โปร่งใสอีกด้วย
แต่ทนายประชาชนที่ชื่อ สุวัตร อภัยภักดิ์ ได้ปฏิเสธการรับงานจากเครือข่ายนักการเมืองผู้ฉ้อฉลโดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้นทนายสุวัตรก็ถูกสะกดรอย มีคนแอบถ่ายรูปและส่งรูปที่แอบถ่าย ให้กับทนายสุวัตรทางโทรศัพท์ เพื่อเป็นการข่มขู่..อีกทั้งมีการคุกคามถึงขั้นหมายชีวิตทนายสุวัตรอย่างต่อเนื่อง
แต่ทนายประชาชนอย่างสุวัตรและเพื่อนผู้กล้าหาญมิได้หวาดหวั่น ทุกคนยังคงยืนหยัดที่จะว่าความให้กับชาวพันธมิตรฯ ต่อไป อย่างไม่ระย่อครับ
เจ้าข้าเอ้ย..พ่อเจ้าประคุณตำรวจจ๋า จงรู้ไว้ ณ ที่นี้เลยนะว่า กลุ่มคนที่วางแผนจะยิงบุคคลสำคัญของพันธมิตรฯ และทนายสุวัตรนั้น เป็นกลุ่มคนที่มีส่วนในการรุมยิง สนธิ ลิ้มทองกุล คราครั้งที่แล้วขอรับกระผม!
มนุษย์ทุกคน..เลือกเกิดไม่ได้ มนุษย์ทุกคน..หนีความตายไม่พ้น แต่มนุษย์ทุกคน..มีสิทธิที่จะเลือกตายได้ จะเลือกตายอย่างไร้ค่าหรือจะเลือกตายอย่างมีค่า ตายเพื่อชาติและประชาชนนั้น ถือเป็นความตายที่ทรงคุณค่าและหนักกว่าขุนเขาครับ
นักร้องลูกทุ่งอย่าง สมัย อ่อนวงศ์ เคยร้องเพลงว่า “..ปืน บ่ มีลูก..ยิงถูก..ก็ บ่ ตาย..”
แต่สำหรับสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น ปืนมีลูก-ยิงถูกก็ยัง บ่ ตาย และถึงตาย..มือปืนและจอมบงการจงรู้ไว้ ณ ที่นี้เลยนะว่า
สนธิลิ้ม..ตายหนึ่งจะเกิดสนธิลิ้มเป็นพัน เป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน..เป็นล้านๆๆๆ..ฯลฯ ตามที่ หงา-คาราวาน ศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นเก๋ากึ๋กชอบร้องเพลงบนเวทีว่า
..ตายสิบเกิดแสน..เพื่อทดแทนผู้สูญดับ..ไงล่ะครับ!!!