xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้ว่าฯสุขุมพันธ์”โหดซ่อนนิ่ม หักเทือก-ชนมาร์ค ถ่างรอยร้าวปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เห็นบุคลิกนิ่มๆ ตามสไตล์"คุณชาย" ยามออกงานการเมืองและแวดวงไฮโซ หลายครั้งมีซีนที่หลุดๆ สุดเหวี่ยง ชนิดหลายคนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองโผล่ออกมาบ้าง ในยามปาร์ตี้กับเพื่อนสนิท จะต้องมีไวน์แดง พร้อมซิการ์คู่ใจ อันเป็นบุคลิกที่ดูจะลอกเลียนแบบมาจากอดีตเจ้านายเก่า พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เพลย์บอยรุ่นเดอะแห่งซอยราชครู
นี่คือตัวตนทั้งสองด้าน “คุณชายแห่งวังสวนผักกาด” ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากประชาธิปัตย์
เมื่อต้องเด็ดขาด ก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน ถ้าชนก็คือชน ปะทะ ก็ไม่ถอย
จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ ผู้ว่าฯกทม. “หัก” ทั้งผู้จัดการรัฐบาล-เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” และนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคตัวเอง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
เริ่มจาก “งัดข้อกับสุเทพ” ด้วยการปลด “ดร.ประกอบ จีรกิตติ” จากเก้าอี้รองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ฝ่ายโยธาธิการ
อันเป็นรองผู้ว่าฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องงบประมาณ โครงการก่อสร้างต่างๆ และมีภารกิจในการดูแลแก้ปัญหากรุงเทพมหานครที่สำคัญๆ เช่น งานก่อสร้างต่างๆ และปัญหาน้ำท่วม
ซึ่งแม้เรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวออกมาว่าดร.ประกอบ ถูกแรงบีบจากการเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับชาติในประชาธิปัตย์ จับมือกันสามัคคีรุมกินโต๊ะ ชนิดทำให้ ดร.ประกอบ หน้าเขียว และเสียความรู้สึกอย่างมาก
เพราะนอกจากสุขุมพันธ์ไม่ช่วยปกป้องแล้ว แกนนำพรรคก็ไม่เหลียวแล
ทำเอา ดร.ประกอบ ต้องพ้นเก้าอี้ไปโดยปริยาย แม้จะมีดีกรีแบ็กอัพระดับ สุเทพ เลขาธิการพรรค ผู้แนบแน่นกับ ดร.ประกอบ และพี่เขย “บุญชัย เบญจรงคกุล” ผู้ก่อตั้งบริษัทยูคอมฯ อดีตยักษ์ใหญ่อันดับสอง ของการโทรคมนาคมที่ต่อมาเปลี่ยนเป็นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
ที่เป็นถุงเงินให้ประชาธิปัตย์มาหลายปี
ยิ่งเมื่อ นช.(พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร จากเอไอเอส และชินคอร์ป ลงมาเล่นการเมืองเต็มตัว ก็ทำให้กลุ่มเบญจรงคกุล ต้องแทงหวยที่ สุเทพ และประชาธิปัตย์หนักขึ้น
แม้ต่อมากลุ่มเบญจรงคกุล ได้ขายหุ้นทั้งหมดให้กับ บริษัทเทเลเนอร์ แล้วกุมเงินสด 9 พันล้านบาท จนทำให้ยูคอม ในอดีตก็คือ ดีแทค ในปัจจุบัน แต่กลุ่มเบญจรงคกุล ก็ยังผูกปิ่นโต ส่งข้าวส่งน้ำ บำรุงพรรคประชาธิปัตย์ ผ่าน สุเทพ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ต่อให้มีแบ็กอัพตัวพ่อระดับ สุเทพ แต่การเมืองในประชาธิปัตย์ รุนแรงยิ่งนัก เพราะ สุเทพกับสุขุมพันธ์ ก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน ผนวกกับมีความไม่ชอบขี้หน้า “สะตอสุเทพ” เป็นทุนอยู่แล้ว
มีหรือที่คนอย่าง สุขุมพันธ์ จะต้องไปสนใจ สุเทพ เพราะถือว่าได้รับเลือกจากคนกรุงเทพฯ มาเป็นผู้ว่าฯกทม. ถ้ากลไกในมืออย่างตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ยังตั้ง หรือเปลี่ยนไม่ได้
คงเสียชื่อคุณชายสุขุมพันธ์ แล้วเรื่องอะไรต้องไปเกรงใจ เลขาพรรคให้เสียเวลา
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เลยทำให้ ดร.ประกอบ ทนแรงเสียดทานทุกรูปแบบไม่ไหว แม้จะพยายามเคลียร์กับทุกกลุ่มผลประโยชน์ในพรรคอย่างเต็มที่ โดยถึงขั้นขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคนอกจากสุเทพ ลงมาช่วยแก้ปัญหา แต่ก็ไม่มีเสียงใดทัดทานความต้องการของ สุขุมพันธ์ได้
ผู้ว่าฯ สุขุมพันธ์ ต้องการปลด ดร.ประกอบ มานานแล้วเพราะทำงานไม่เข้าขากันเท่าไร และยังเหม็นหน้าลูกพี่สุเทพ ด้วย ก็เลยเชือดนิ่มๆ เงียบๆ
ขนาดวันถูกปลดยังรู้ข่าวช้ากว่านักข่าว มันเลยทำให้ ดร.ประกอบ ต้องต้องจำใจทิ้งเก้าอี้รองผู้ว่าฯกทม. แบบเจ็บช้ำหัวใจ
โดยมีเก้าอี้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ อภิสิทธิ์-สุเทพ จัดรอไว้เป็นยาสมานแผลหน้าแหก ซึ่งทางการเมืองแล้ว เก้าอี้รองผู้ว่าฯ กทม. เหนือชั้นกว่ามาก แต่ ดร.ประกอบก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องกลืนเลือดเดินออกจากเสาชิงช้าไป
แบบรำพันในใจ ฝากไว้ก่อน แล้วจะมาเอาคืน !
ยังไม่จบแค่นี้ กับการ “หัก” ของสุขุมพันธ์ เพราะเมื่อแกนนำพรรคไม่สามารถขอให้สุขุมพันธ์ รักษาหน้า ดร.ประกอบไว้ได้ อภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นคนสำคัญที่ออกแรงหนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง สุขุมพันธ์ ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. แถมยังเป็นหัวหน้าพรรค เลยคิดว่าสุขุมพันธ์ ต้องเกรงใจ
อภิสิทธิ์ ยื่นโนติสให้ตั้ง“เดอะโต้ง” ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.เบอร์หนึ่ง สัดส่วน กลุ่ม 5 ของปชป. เป็นรองผู้ว่าฯกทม.แทน หลังจากไกรศักดิ์ กินแห้วทั้งเก้าอี้รมว.ต่างประเทศ-รมว.พัฒนาสังคมฯ จึงต้องการปลอบใจ เพื่อหวังให้ไปโชว์ผลงานการบริหาร
โดยอภิสิทธิ์อาจเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะไกรศักดิ์ สนิทกับ สุขุมพันธ์มาหลายสิบปี รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ตามประสานักเรียนนอก ลูกหลานตระกูลดัง
จนไกรศักดิ์ ดึงตัวสุขุมพันธ์ มาช่วยงานพลเอกชาติชาย สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลก และถ้าไกรศักดิ์ไปรับตำแหน่งก็ไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม เพราะเป็นส.ส.สัดส่วน
แต่แล้วกลับไม่เป็นอย่างที่อภิสิทธิ์คาด เพราะสุขุมพันธ์ กลับไม่เอาไกรศักดิ์เกลอรัก มาช่วยงานที่เสาชิงช้า
แล้วดันไปเลือกเอาเพื่อนเลิฟ พรเทพ เตชะไพบูลย์ จากตำแหน่งประธานคณะกรรมการควบคุมการจัดตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (บอร์ดตลาดนัดจตุจักร) มาเสียบเก้าอี้รองผู้ว่าฯ ฝ่ายโยธาแทน
ทำให้ข้อเสนอของอภิสิทธิ์ กลายเป็นเสียงเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา สำหรับสุขุมพันธ์
ว่ากันว่า เหตุผลที่สุขุมพันธ์ เลือกพรเทพ ก็เพราะนอกจากทั้งสองคนจะสนิทกันมานานแล้ว จนสุขุมพันธ์ ตั้งพรเทพให้ดูแลงานตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นถุงเงินหลักของกรุงเทพมหานคร และพบว่าผลงานเข้าตา ผสมกับเห็นว่าพรเทพ มีประสบการณ์ด้านการบริหารมาโชกโชน ทั้งงานธุรกิจและงานการเมือง เป็นอดีต รมช.อุตสาหกรรม –วิทยาศาสตร์ น่าจะทำงานได้ดีกว่าไกรศักดิ์
และสุขุมพันธ์ ก็อาจคิดว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้เพื่อนรัก พรเทพ กลับเข้าประชาธิปัตย์อีกครั้งได้อย่างสง่าผ่าเผย หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง นับแต่เดินออกจากพรรค ทั้งกับพรรคมหาชน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา จนเคยคิดจะจะเข้าภูมิใจไทยไปอยู่กับเนวิน ชิดชอบ ด้วยซ้ำก่อนหน้านี้
แต่เหตุผลสำคัญที่อยู่เหนืออื่นใด สุขุมพันธ์ ต้องการเอาพรเทพ มาให้ สุเทพรู้ไปเลยว่า งานโยธาของกทม. ห้ามล้วง เพราะสุเทพ กับพรเทพ ชาตินี้ไม่มีวันรักกันได้ เนื่องจากมีเรื่องเก่าคาใจกันอยู่ ที่ยังไงก็ไม่สามารถเคลียร์กันได้
เลยทำให้ตอนนี้ เสาชิงช้า คู่ผัวเมียเตชะไพบูลย์ ทั้งพรเทพ และเมียรัก “กบ ปภัสรา” ล้วนมีตำแหน่งด้วยกันทั้งสิ้น คือ พรเทพ เป็นรองผู้ว่าฯ คุมสำนักการโยธาและสำนักการระบายน้ำ สองหน่วยงานใหญ่ในศาลาว่าการกทม. ส่วนหวานใจ ก็ใช่ย่อย เพราะ สุขุมพันธ์ก็เอาใจพรเทพ ด้วยการตั้งให้ กบ -ปภัสรา เป็นรองโฆษกกรุงเทพมหานคร เลยกลายเป็นว่า
สามีเป็นรองผู้ว่าฯ ภริยาเป็นรองโฆษกฯ ทั้งชีวิตเจอกันตลอด ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ช่างเป็นคู่บุราหงัน ที่น่าอิจฉาเสียจริงๆ
และคงทำให้บางคนที่มีอดีตกับ พรเทพ ตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด หลังเริ่มเห็นวี่แววว่ารองผู้ว่าฯกทม.คนนี้ กำลังจะเดินกลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง
เรื่องนี้ส่งให้เกิดรอยร้าวขึ้นเล็กๆ ในประชาธิปัตย์ ที่ทำให้ อภิสิทธิ์ ขุ่นเคืองผู้ยิ่งใหญ่แห่งเสาชิงช้า มาจนถึงทุกวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น