xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นเด่น:SVI คำสั่งซื้อกลับเข้ามากขึ้นใน 4Q09

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยอดคำสั่งซื้อเข้ามากขึ้นใน 4Q09 แนวโน้มรายได้และกำไรใน 2H09 จะสูงคว่าครึ่งปีแรก ถ้าคำสั่งซื้อเข้ามามากจนคุ้มกับ overhead cost ของโรงงานใหม่ที่ บางกระดี่ ก็จะเริ่มทำการผลิตที่โรงงานใหม่ ซึ่งจะทำให้ SVI มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 26,000 ตรม.เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

Investment Theme :

* อุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์เข้าสู่ High Season อุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์ฟื้นตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาคทั้งจาก Seasonal Effect และการจัดการด้าน Supply chain ของทั้งผู้ผลิตและบริษัทที่เป็นลูกค้าทำให้ลดผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการกับสินค้าคงคลังได้ดี ทำให้มั่นใจได้ว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเป็นไปตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง ตลาดของ SVI ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปประมาณ 50% สหรัฐ 16% และส่วนอื่นๆของโลกประมาณ 34% การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ SVI จะเข้าไปทำการตลาดในสหรัฐเพิ่มขึ้น สินค้าของ SVI เป็นสินค้า Industrial Product ในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ รถยนตร์ อุตสาหกรรมการผลิต และอากาศยาน โทรคมนาคม เครื่องเสียงและวีดีโอ เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2009 ยอดขายและกำไรของ SVI ไม่ได้ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก โดยยอดขายทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน แต่กำไรยังเติบโตได้ 15% YoY สาเหตุเนื่องจากสินค้าที่ผลิตเป็นสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรม และยอดขายของ SVI อยู่ในระดับประมาณ 200 ล้านUSD ต่อปี หรือ 1% ของมูลค่าตลาดสินค้า EMS 20 พันล้านUSD ต่อปี (เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และ ไทย) นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมต้นทุนสินค้าได้ดี ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดว่ากำไรจะสูงกว่าใน 1H09 เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของอุตสาหกรรม กำไรใน 1H09 คิดเป็น 47% ของกำไรทั้งปี เราคาดการณ์ไว้ที่ 625 ล้านบาท มี EPS เท่ากับ 0.42 บาท

* ยอดคำสั่งซื้อใน 4Q09 เข้ามามากขึ้น ยอดคำสั่งซื้อเข้ามากขึ้น โดยเฉพาะจากคลาดหลักในยุโรป นอกจากนี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรํบ ทำให้ SVI ต้องการขายสินค้าไปยังสหรัฐมากขึ้น SVI คาดว่าเมื่อมี Order เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ล้านUSD จะเปิดโรงงานใหม่ที่ บางกระดี่ ปทุมธานี ทั้งนี้เพื่อให้คุ้มกัย overhead cost ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเปิดใช้โรงงานใหม่

* SVI รายได้และกำไรไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ยอดขายใน 1H09 ทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 3,321 ล้านบาท มี GPM เท่ากับ 12.9% มีกำไรสุทธิเท่ากับ 291.5 ล้านบาท +15% YoY มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 147 ล้านบาท ลดลง 4.7% YoY ยอดขายของ SVI สามารถทรงตัวได้ เนื่องจากมีสัดส่วนลูกค้าในยุโรปประมาณ 50-60% ลูกค้าในสหรัฐมีไม่มาก และมีลูกค้ารายใหม่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นสินค้าอิเลคโทรนิคส์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม ทดแทนลูกค้าเดิมที่เป็นสินค้าประเภทอุปกรณ์สำนักงาน SVI มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากเดิม คือ Asia Pacific Electronics (BVI) Ltd. ซึ่งถือหุ้นอยู่ 58.48% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เป็น MFG Solution ซึ่งมีนายพงษศักดิ์ โลห์ทองคำ CEO ของ SVI ในปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 99.96% ทำให้ MFG Solution ต้องทำ Tender Offer หุ้น SVI ที่เหลืออีก 30.55% ในราคา 1.40 บาท การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ไม่มีผลในการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเดิมของ SVI เนื่องจากเป็นการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นสัญชาติสิงคโปร์ให้กับผู้บริหารคนไทย และนับว่าเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย ไม่ต้องกังวลว่าผู้ถือหุ้นสัญชาติสิงคโปร์จะลดสัดส่วนการถือหุ้นและทยอยขายออกมาในตลาดทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอีก เราคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 625 ล้านบาท มี EPS เท่ากับ 0.43 บาท และปี 2010 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 671 ล้านบาท มี EPS เท่ากับ 0.45 บาท เนื่องจาก SVI มีความสามารถบริหารจัดการได้ดี สามารถหาลูกค้ารายใหม่มาทดแทนลูกค้ารายเก่าได้ ลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจลงไปได้มาก คาดว่ายอดขายและกำไรจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ราคาเป้าหมาย 3.0 บาท ณ ระดับ P/E 7 เท่า แนะนำ ซื้อ

* สินค้าของ SVI เป็นการประกอบแผงวงจรไฟฟ้า (PCBA) จนกระทั่งเป็นอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์สำเร็จรูปติดแบรนด์ของลูกค้าส่งขายในตลาด สหรัฐ กลุ่มประเทศในสแกนดิเนเวีย ญี่ปุ่น และเอเชีย สินค้าหลักของ SVI ได้แก่

- Industrial Control System ได้แก่ ระบควบคุมความเย็นของเรือโดยสาร

- Hi-end Telecommunications ได้แก่ Marine VHF radio, High speed satellite receiver

- Hi-end Office Automation ได้แก่ Printer Server, Camera Server

- Professional Audio and Video ได้แก่ Audio Conference System

- Automotive Electronics ได้แก่ Electronic Power Steering

- Medical Laboratory Equipment ได้แก่ Geno-Analyzer, NMR Spectrometer

หมายเหตุ-บทวิเคราะห์ฉบับนี้ ฝ่ายวิจัยวิเคราะห์ในวันที่ 18 ก.ย. 52.

เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก และทีมงานฝ่ายวิจัย/บล.บีฟิท

- บล. บีฟิท ขอเรียนเชิญท่านร่วมงานสัมมนาประจำปี 2009 “สภาวะตลาดหุ้นและแนวโน้มการลงทุน” วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2552 เวลา 8:30 – 12:30 น, ณ หอประชุม ศ.สังเวียนอินทรวิชัย ชั้น 3 ตลท. (SET) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสํารองที่นั่ง : โปรดติดต่อได้ที่ โทร: 0-2200-2000 กด 0 หรือ 0-2200-2078-80
กำลังโหลดความคิดเห็น