ASTVผู้จัดการรายวัน- ธปท.เปิดทาง บสก.ซื้อทรัพย์ขายทอดตลาดด้านบสก. วางงบประมาณ200ล้านบาทต่อเดือนเล็งไล่ประมูลทรัพย์ขายทอดตลาดกรมบังคับคดี แจง8เดือนยอดขาย NPA -NPL 8,000 ล้านบาทการไร1,300ล้านบาท จากเป้า1,800ล้านบาท คาดว่าสิ้นปียอดขายรวม 11,634 ล้านบาทกำไร 2,000 ล้านบาทโตกว่าเป้า 20%
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติให้ บสก.สามารถเข้าไปประมูลซื้อทรัพย์รอการขาย(NPA) และทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่กรมบังคับคดีนำออกประมูลขายทอดตลาดได้ในช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุด บสก. เตรียมจะเข้าไปประมูลทรัพย์คุนภาพ เพื่อนำมาปรับปรุงขายต่อประชาชนแล้ว
โดย บสก. ตั้งงบประมาณในการการเข้ามร่วมประมูลทรัพย์ที่กรมบังคับคดีนำออกมาขายต่อเดือนไว้ที่ 200ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มประมูลทรัพย์ดังกล่าวได้ในเดือนต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามทรัพย์ที่กรมบังคับคดีนำออกขายทอดตลาดนั้น บสก.ได้วาวงหลักเกณฑ์ว่า จะต้องพิจารณาสภาพของทรัพย์ให้รอบด้านก่อนซื้อเข้ามาในพอร์ต
ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาสภาพทรัพย์เบื้องต้นนั้นจะต้อง ไม่เป็นทรัพย์ที่สภาพคล่องต่ำ ติดปัญหาระหว่างเจ้าของเดิมกับเจ้าหนี้ ราคาขายต้องไม่สูงกว่าราคาตลาด และต้องไม่เป็นทรัพย์ที่ติดข้อพิพาท
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บสก.ยังมีแผนจะเข้าไปประมูลทรัพย์ NPA จากธนาคาร บริษัทบริหารสินทรัพย์เพทาย จำกัด (AMC) และธนาคาร ยูโอบีรัตนสิน จำกัด (มหาชน) และจะเข้าไปประมูลซื้อหนี้ NPL จาก บริษัทบริหารสินทรัพย์สตาร์ จำนวน1,000 ล้านบาท ธนาคารแลนด์เอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 200ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) 14,000 ล้านบาท โดยในส่วนของธนาคารนครหลวงไทยนั้นคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่ง บสก. คาดว่าจะสามารถประมูลหนี้ได้ประมาณ 50% และจะทำให้ บสก.มีพอร์ตหนี้NPL และNPA เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน บสก.มีพอร์ตหนี้ NPLอยู่ 230,000 ล้านบาท โดยเป็นหนี้มีหลักประกัน 89,000ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ส่วนทรัพย์ NPA ปัจจุบันมีอยู่ 40,0000 ล้านบาท โดยมาจะเป็นทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่ากว่า 62% ทั้งนี้ใน ณ เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา บสก.สามารถขายทรัพย์ NPA และหนี้ NPL ได้แล้วมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ทั้งปี 11,628 ล้านบาท โดยมีกำไร ณ สิ้นเดือน ส.ค.1,300 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น11,634 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 1,800 ล้านบาท 20%
นายบรรยง กล่าวว่า ทั้งนี้ บสก.มั่นใจว่าในสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมที่11,634 ล้านบาท ได้เนื่องจากขณะนี้มียอดขายทรัพย์ที่อยู่ระหว่างเจรจา และจะสรุปการซื้อขายได้ในสิ้นปีนี้ในมือแล้ว3,000 ล้านบาทเศษ วึ่งเมื่อรวมกับยอดขายที่มีอยู่ขณะนี้ทำให้ยังเหลือยอดขายอีกนิดหน่อยก็จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้แล้ว
“เดิมทีในปี52นี้ บสก.ตั้งเป้าว่าจะซื้อทรัพย์เข้ามาเพิ่มในพอร์ตอีก 15,000 ล้านบาท แต่ในช่วง ครึ่งปีที่ผ่านมา บสก.ซื้อทรัพย์ NPA และหนี้ NPL เข้ามาแล้ว 20,000 ล้านบาท และหากสามารถประมูลทรัพย์เข้ามาเพิ่มได้จากสถาบันการเงินและบบส. ต่างๆ แล้วคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีทรัพย์และหนี้ที่ซื้อเข้ามาใหม่มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท”
สำหรับในไตรมาสที่3-4นี้ บสก.ได้จัดกิจกรรมด้านการตลาด มหกรรมคอนโด บสก.ราคาพิเศษ ซึ่งเป็นแปมเปญใหญ่ทิ้งท้ายของปี โดยงานมหกรรมดังกล่าวจะเป้ฯการนำทรัพย์ คอนโดมิเนียมคุณภาพที่มีการปรับปรุงพร้อมอยู่แล้วออกมาขายให้ลูกค้าทั้งสิ้น 800 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะเป็นคอนโดที่ปรับปรุงพร้อมตกแต่งภายใตคอนเซ็ปต์ “Smart Condo” จำนวน 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น240,000 -310,000 บาท ซึ่งลูกค้าที่ซื้อห้องชุดดังกล่าวภายในเดือน ต.ค.นี้จะได้รับของแถมเป็นแอร์ติดตั้งฟรี1 เครื่อง
โดยลูกค้าที่ซื้อห้องชุดกับ บสก.จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ MLR-3 ตลอดอายุสัญญา 30ปี โดยงานนี้ บสก. ตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ยูนิต
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติให้ บสก.สามารถเข้าไปประมูลซื้อทรัพย์รอการขาย(NPA) และทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่กรมบังคับคดีนำออกประมูลขายทอดตลาดได้ในช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุด บสก. เตรียมจะเข้าไปประมูลทรัพย์คุนภาพ เพื่อนำมาปรับปรุงขายต่อประชาชนแล้ว
โดย บสก. ตั้งงบประมาณในการการเข้ามร่วมประมูลทรัพย์ที่กรมบังคับคดีนำออกมาขายต่อเดือนไว้ที่ 200ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มประมูลทรัพย์ดังกล่าวได้ในเดือนต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามทรัพย์ที่กรมบังคับคดีนำออกขายทอดตลาดนั้น บสก.ได้วาวงหลักเกณฑ์ว่า จะต้องพิจารณาสภาพของทรัพย์ให้รอบด้านก่อนซื้อเข้ามาในพอร์ต
ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาสภาพทรัพย์เบื้องต้นนั้นจะต้อง ไม่เป็นทรัพย์ที่สภาพคล่องต่ำ ติดปัญหาระหว่างเจ้าของเดิมกับเจ้าหนี้ ราคาขายต้องไม่สูงกว่าราคาตลาด และต้องไม่เป็นทรัพย์ที่ติดข้อพิพาท
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บสก.ยังมีแผนจะเข้าไปประมูลทรัพย์ NPA จากธนาคาร บริษัทบริหารสินทรัพย์เพทาย จำกัด (AMC) และธนาคาร ยูโอบีรัตนสิน จำกัด (มหาชน) และจะเข้าไปประมูลซื้อหนี้ NPL จาก บริษัทบริหารสินทรัพย์สตาร์ จำนวน1,000 ล้านบาท ธนาคารแลนด์เอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 200ล้านบาท และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) 14,000 ล้านบาท โดยในส่วนของธนาคารนครหลวงไทยนั้นคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่ง บสก. คาดว่าจะสามารถประมูลหนี้ได้ประมาณ 50% และจะทำให้ บสก.มีพอร์ตหนี้NPL และNPA เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน บสก.มีพอร์ตหนี้ NPLอยู่ 230,000 ล้านบาท โดยเป็นหนี้มีหลักประกัน 89,000ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ส่วนทรัพย์ NPA ปัจจุบันมีอยู่ 40,0000 ล้านบาท โดยมาจะเป็นทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่ากว่า 62% ทั้งนี้ใน ณ เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา บสก.สามารถขายทรัพย์ NPA และหนี้ NPL ได้แล้วมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ทั้งปี 11,628 ล้านบาท โดยมีกำไร ณ สิ้นเดือน ส.ค.1,300 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น11,634 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 1,800 ล้านบาท 20%
นายบรรยง กล่าวว่า ทั้งนี้ บสก.มั่นใจว่าในสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมที่11,634 ล้านบาท ได้เนื่องจากขณะนี้มียอดขายทรัพย์ที่อยู่ระหว่างเจรจา และจะสรุปการซื้อขายได้ในสิ้นปีนี้ในมือแล้ว3,000 ล้านบาทเศษ วึ่งเมื่อรวมกับยอดขายที่มีอยู่ขณะนี้ทำให้ยังเหลือยอดขายอีกนิดหน่อยก็จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้แล้ว
“เดิมทีในปี52นี้ บสก.ตั้งเป้าว่าจะซื้อทรัพย์เข้ามาเพิ่มในพอร์ตอีก 15,000 ล้านบาท แต่ในช่วง ครึ่งปีที่ผ่านมา บสก.ซื้อทรัพย์ NPA และหนี้ NPL เข้ามาแล้ว 20,000 ล้านบาท และหากสามารถประมูลทรัพย์เข้ามาเพิ่มได้จากสถาบันการเงินและบบส. ต่างๆ แล้วคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีทรัพย์และหนี้ที่ซื้อเข้ามาใหม่มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท”
สำหรับในไตรมาสที่3-4นี้ บสก.ได้จัดกิจกรรมด้านการตลาด มหกรรมคอนโด บสก.ราคาพิเศษ ซึ่งเป็นแปมเปญใหญ่ทิ้งท้ายของปี โดยงานมหกรรมดังกล่าวจะเป้ฯการนำทรัพย์ คอนโดมิเนียมคุณภาพที่มีการปรับปรุงพร้อมอยู่แล้วออกมาขายให้ลูกค้าทั้งสิ้น 800 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะเป็นคอนโดที่ปรับปรุงพร้อมตกแต่งภายใตคอนเซ็ปต์ “Smart Condo” จำนวน 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น240,000 -310,000 บาท ซึ่งลูกค้าที่ซื้อห้องชุดดังกล่าวภายในเดือน ต.ค.นี้จะได้รับของแถมเป็นแอร์ติดตั้งฟรี1 เครื่อง
โดยลูกค้าที่ซื้อห้องชุดกับ บสก.จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ MLR-3 ตลอดอายุสัญญา 30ปี โดยงานนี้ บสก. ตั้งเป้าว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ยูนิต