xs
xsm
sm
md
lg

ธอส.หัวหมุนเป้าแสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – คลังบีบเป้าปล่อยกู้แสนล้าน ธอส.หืดขึ้นคอ อีก 2 สัปดาห์เร่งคลอดแคมเปญดูดลูกค้าสวัสดิการ – ข้าราชการกู้ เหตุความเสี่ยงต่ำ พร้อมระดมเงินฝากเผื่อสำรองปล่อยกู้ ส่วนขอคลังชดเชยบัญชีพีเอสเอโครงการบ้านเอื้ออาทร-บ้านมั่นคง หลังยอดเอ็นพีแอลสูงถึง 10% ผลประกอบการครึ่งปีแรกกำไรทะลุ 2,089 ล้านบาท

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาล เร่งปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายทั้งหมด  3 แสนล้านบาท โดยในส่วนของธอส. ได้ปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท จากเดิมเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อทั้งปี 73,000 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของธอส.ในช่วง 6 เดือนแรก สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 46,195 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปล่อยสินเชื่อใหม่เดือนละ 7,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากต้องปล่อยสินเชื่อตามเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท จะต้องปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยเดือนละ 9,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเรื่องยากในภาวะปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ธอส.จะพยายามออกแคมเปญกระตุ้นลูกค้าให้มาใช้บริการธอส.ให้ได้ โดยภายใน 2 สัปดาห์นี้จะออกแคมเปญใหม่ แต่จะไม่ลดคุณสมบัติผู้กู้ลงเพื่อรักษาความเสี่ยง โดยจะเน้นไปที่ลูกค้าสินเชื่อสวัสดิการ และข้าราชการ ที่ใช้ระบบหักเงินกู้ผ่านบัญชีเงินเดือน โดยคาดว่ากลุ่มลูกค้าดังกล่าวจะมีกว่า 60%
 
“ขณะนี้ธนาคารอยู่ระห่างการทำโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อให้ได้ตามเป้า   นอกจากนี้ยังจะมีแพคเกจที่ทำร่วมกันระหว่างธนาคารรัฐ ซึ่งจะต้องรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ยังได้มีการปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มในวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อระดมเงินฝากมาใช้ในการปล่อยสินเชื่อใหม่ดังกล่าว”

ส่วนการขอแยกบัญชีบริการสาธารณะหรือ พีเอฟเอ ในส่วนของวงเงินการปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 25,000 ล้านบาทดังกล่าว จะไม่ขอชดเชยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เกิดจากการปล่อยสินเชื่อตามนโยบายของรัฐ เพราะการปล่อยสินเชื่อใหม่นี้จะใช้มาตรฐานเดียวกับการปล่อยสินเชื่อทั่วไป จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอชดเชย
 
อย่างไรก็ตาม ธอส. ได้ขอชดเชยบัญชี พีเอสเอ ในส่วนของโครงการบ้านมั่นคงและโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติจากกระทรวงการคลัง โดยในส่วนของบ้านมั่นคงนั้นแต่ละปีมีการปล่อยกู้ประมาณ 100 ล้านบาท และยังมีส่วนที่ต้องปล่อยกู้กับสหกรณ์ใหม่เพิ่มเติม หลังจากที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอีก 5,000 ล้านบาทระยะเวลา 5 ปี โดยปีแรกจะได้เงินกู้ 1,000 ล้านบาท
  
***จี้กคช.ค้ำประกันหนี้ซื้อคืนอีกพันล. 
นายขรรค์ กล่าวว่า ในส่วนของโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น ในช่วง 5 ปีแรก การเคหะแห่งชาติ (กคช.) จะเป็นผู้รับความเสียงด้วยการซื้อหนี้เสียคืนในช่วง 5 ปีแรก ดังนั้น ควรให้เป็นหน้าที่ของกคช.ในการขอชดเชยดังกล่าวแทน ขณะที่ปัจจุบัน ธอส. ปล่อยกู้บ้านเอื้ออาทรครึ่งปีแรกไปแล้ว  4,000 ล้านบาท และหลังจากนี้คาดว่าจะมียอดปล่อยสินเชื่อในโครงการนี้เดือนละประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าทั้งปีที่ปล่อยกู้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพราะมีบ้านเสร็จใหม่ที่ขอกู้ในปีนี้จำนวนมาก

สำหรับหนี้เสียในโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้นประมาณ 10% และที่ผ่านมาวงเงินค้ำประกันที่กคช.ใช้สำหรับซื้อคืนกรณีที่เกิดหนี้เสียจำนวน 780 ล้านบาทนั้นใช้เกือบหมดวงเงินแล้ว ซึ่งทางธอส.เห็นว่า กคช. ควรขอเพิ่มวงเงินสำหรับซื้อคืน อีก 1,000 ล้านบาท  โดยที่รัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันและจ่ายดอกเบี้ยให้
 
“เราขอชดเชยเฉพาะในส่วนบ้านมั่นคงและบ้านเอื้ออาทร ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการยื่นเรื่องไปยังกระทรวงการคลังแล้ว เพราะเห็นว่าบ้านเอื้ออาทรมีเอ็นพีแอลสูง เนื่องจากมีบางรายที่ไม่เข้าข่ายคุณสมบัติที่จะให้กู้ เพราะมีอาชีพอิสระรายได้ไม่แน่นอน แต่ได้แนะนำให้กคช. ให้มีการเช่าซื้อก่อนประมาณ 2 ปี และหากมีวินัยดีก็อยู่ในวิสัยที่ให้กู้ได้ "
 
**ครึ่งปีกำไรพุ่ง2,089ล้าน**
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2552 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีผลกำไรสุทธิจำนวน 2,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 727 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกธนาคารได้กันสำรองฯ ไปแล้วจำนวน 3,012 ล้านบาท
 
ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 631,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.55% โดยครึ่งปีแรก ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 46,195 ล้านบาท จำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 69,993 ราย ด้านเงินฝากธนาคารมียอดเงินฝากรวม 515,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.06% สินทรัพย์รวม 662,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.01% โดยมีหนี้สงสัยจะสูญ ไม่รวมลูกหนี้ดำเนินคดีรอรับคืน (NPL) จำนวน 64,460 ล้านบาท คิดเป็น 10.58% ของยอดสินเชื่อรวม(ไม่รวมลูกหนี้ดำเนินคดีรอรับคืน) และทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) คงเหลือ 7,544 ล้านบาท
 
ในครึ่งปีแรกนี้ ธนาคารสามารถจำหน่ายทรัพย์ NPA ได้ทั้งสิ้น 878 ล้านบาท โดยในปีนี้ธอส.ได้บริหารจัดการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้ได้มากที่สุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเสริมสภาพคล่องให้แก่ธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดทำแผนประมูลขายทรัพย์เป็นประจำทุก ปีๆละ 3 ครั้ง และในวันที่ 15 ส.ค.นี้ จะจัดประมูลขายทรัพย์มือสองทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 ประจำปี52 มีทรัพย์สินกว่า 3,000 รายการ มอบส่วนลดสูงสุด 30% จูงใจด้วยเงื่อนไขผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ส่วนที่เหลืออีก 90% สามารถขอสินเชื่อได้เต็มจำนวนผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น