xs
xsm
sm
md
lg

พรบ.งบฯ53ถึงศาลรธน. รอลุ้น"รับ-ไม่รับ"ตีความ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรวบรวมรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว.1ใน 10 ยื่นต่อประธานรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคหนึ่ง ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่งหรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวตนได้ยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 15 ก.ย. แล้ว ซึ่งทางประธานรัฐสภาได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งกรณีนี้เป็นการส่งเรื่องตามช่องทางมาตรา 154 วรรคหนึ่ง ที่ระบุว่าร่าง พ.ร.บ.ใดที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบแล้ว ก่อนที่นายกฯ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย หากเห็นขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ซึ่งตนก็เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดต่อมาตรา 167 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า การนำเสนอร่าง พ.ร.บ.งบฯต้องมีเอกสารประกอบ รวมถึงประมาณการรายรับ และวัตถุประสงค์ กิจรรมแผนงาน โครงการในแต่ละรายการของการใช้จ่ายงบประมาณให้ชัดเจน แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯที่ผ่านรัฐสภาแล้ว กลับไม่มีรายละเอียดแผนงานที่ชัดเจนระบุไว้แต่อย่างใด
"เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 ซึ่งกรณีดังกล่าว ต่างจากที่เคยยื่นเรื่องตามช่องทาง มาตรา 168 วรรคหก แล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยในครั้งนี้ รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ว่า ร่างกฎหมายใดเมื่อผ่านความเห็นชอบของสภาแล้ว ก็สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ หากเห็นว่าไม่มีรายละเอียดการใช้จ่ายงบฯ ของโครงการที่ชัดเจน ซึ่งตัวแทนของพรรคเพื่อไทย 2 คน ที่เป็นกรรมาธิการวิสามัญร่วมพิจารณา จะเป็นพยานยืนยันต่อคณะตุลาการฯ ว่าในชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการไม่มีบอกรายละเอียดของงบฯที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางศาลยังไม่ได้มีหนังสือแจ้งให้ผมชี้แจงแต่อย่างใด ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไร อยู่ที่ดุลพินิจของศาล" นายสุรพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คำร้องดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาตรวจคำร้องของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะตุลาการฯให้พิจารณาว่า จะรับไว้เพื่อพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่

**งบฯออกช้ากระทบศก.
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ ก็เคยยื่นให้ศาลรธน. วินิจฉัยมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่นายสุรพงษ์ ก็ยังยื่นไปใหม่ ซึ่งการทำเช่นนี้ มีผกระทบต่อการประกาศใช้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 คือ รัฐบาลไม่สามารถที่จะประกาศใช้ ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 53 ได้ทัน
ดังนั้นในช่วงระยะเวลาที่ยังเบิกจ่ายไม่ทัน ก็จำเป็นที่จะต้องใช้งบปี 52 ไปก่อน แต่ก็มีข้อจำกัดเยอะมาก เช่น โครงการใหม่ไม่สามารถจ่ายเงินได้ และถ้าเป็นโครงการอื่น ก็ต้องดูตามแผนงานที่มีไว้แล้วในปี 52 ซึ่งถ้าตรงกันจึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ แต่ก็ใช้จ่ายได้ในจำนวนจำกัดตามที่กฎหมายระบุไว้
ดังนั้น ควรคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศด้วย เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยช้าออกไป การใช้จ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ก็จะมีผลกระทบมากด้วย
"รัฐบาลเคารพการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายค้านก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประเทศด้วย เพราะยื่นไป 2 ครั้งแล้ว ซึ่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (23 ก.ย.) ก็มีวาระแจ้งเพื่อทราบในเรื่องนี้ ก็อาจจะมีส.ส.ลุกขึ้นซักถามเรื่องดังกล่าวด้วย" นายสาทิตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะรับมือฝ่ายค้านอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประเด็นอยู่ที่การทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน เพราะสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้านนั้นเราคำนึงถึงประเทศชาติ ไม่ได้เล่นเกมการเมืองอย่างเดียว ตนดูแล้วว่าเกมการเมืองคงแรงขึ้นและต้องเตรียมรับมือกันอีกมาก ดูได้จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชันวัตร วีดีโอลิงก์ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ตรงนี้ ชัดเจนมาก และเป็นการพูดที่เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ความจริงแล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไม่ลืมว่า การบริหารราชการแผ่นดินของพ.ต.ท.ทักษิณ มีการทุจริตฉ้อฉล ในยุคนั้นคือต้นเหตุของการปฏิวัติรัฐประหาร นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยได้ประโยชน์จากการปฏิวัติมาแล้วในยุค รสช. เพียงแต่วันนี้ปฏิวัติเอา พ.ต.ท.ทักษิณออกจากตำแหน่ง เลยไปต่อต้านเขา ทำไมยุค รสช. จึงไม่เคยต่อต้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น