xs
xsm
sm
md
lg

วิบากกรรม “ภูมิใจไทย”ยังไม่จบ “เนวิน”พ้นคดี “ปู่จิ้น”เจอแจ้งผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางที่อื้อฉาวจบลงแล้วเมื่อ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 44 คน ซึ่งประกอบด้วยนักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจ บุคคลเหล่านี้พ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายของรัฐที่มีมากถึง 1,100 ล้านบาทเศษ อันเนื่องมาจากการทำโครงการนี้
ศาลฎีกาฯ ได้ใช้ดุลยพินิจด้วยความเที่ยงธรรม พิเคราะห์จากพยานหลักฐานโดยละเอียดถี่ถ้วน พิจารณาในทุกประเด็นข้อกล่าวหา ซึ่งศาลฎีกาได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาต่อเนื่องนานถึงเกือบ 3 ชั่วโมง จะสังเกตได้ว่า ศาลได้เน้นย้ำว่าการกระทำของจำเลยทั้งหมดไม่พบพยานหลักฐานที่เป็นการกระทำผิดตามฟ้อง จึงต้องยกฟ้องจำเลยทั้งหมด
หลังสิ้นสุดคำพิพากษา ทุกฝ่ายต้องยอมรับและเคารพ โดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ จำเลยคนสำคัญ ถึงกับหลังน้ำตากลางศาลด้วยความซาบซึ้งในคำพิพากษาครั้งนี้ และในระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อ เนวิน ประกาศว่าต้นยางพาราในโครงการนี้จำนวน 90 ล้านต้น อีกไม่เกิน 2 ปี จะมีน้ำยางออกมาสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และทำรายได้มหาศาลให้กับประเทศ
กลายเป็นเสือติดปีก ทั้ง “เนวินแอนด์เดอะแก๊ง” ซึ่งขุนพลคนใกล้ชิดของเนวิน คือนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ที่เป็นตัวจักรสำคัญในโครงการฉาว ถูกคาดว่าอาจจะต้องสังเวยชีวิตให้กับคดีกล้ายางแทนลูกพี่ ก็พ่วงหลุดมาได้ราวปาฏิหาริย์
ก่อนหน้านี้ เนวิน มีความมั่นใจว่าโครงการกล้ายางพาราเป็นนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที่มีประโยชน์ โดยออกมายืนยันว่า หากมีโอกาสได้เข้ามามีอำนาจก็จะทำโครงการแบบนี้อีก เช่นกันกับระหว่างรอคำพิพากษา เขาก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวที่จะถูกจำคุกด้วยคดีนี้
ออกอาการมั่นใจในความถูกต้อง ยังไงก็ไม่โดนเข้าซังเตแน่มาตั้งแต่แรก
แม้ได้อิสรภาพจากคดีนี้ เนวินยังไม่พ้นบ่วงกรรม ยังไม่อาจไว้ใจในเส้นทางอนาคตจะสะดวกราบรื่นนัก เนื่องจากยังมีเรื่องสอบสวนในความผิด คดีเซ็นทรัลแล็ป ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.รอชี้ผิดหรือไม่ผิดแน่ โดยบนการคาดการณ์ว่า เรื่องนี้มีความไม่โปร่งใสที่ส่อว่ามีรายการงาบกันอย่างมโหฬารอีกคดี
ส่วนที่โล่งอกไปกับเนวินที่หลุดข้อกล่าวหาคดีทุจริตกล้ายาง ก็เห็นจะเป็นพลพรรคใน “พรรคภูมิใจไทย” ที่ต้องลุ้นกันใจหายใจคว่ำ กันถึงสองครั้งสองคราว
หากไร้เนวินภูมิใจไทยแพแตกแน่
จึงไม่แปลกใจที่ในคืนวานนี้ หลังได้รู้คำพิพากษา คนจากภูมิใจไทยได้มีการจัดรับขวัญเนวินกันอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นงานที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าด้วยความเชื่อมั่นว่า เนวินได้กลับมาร่วมฉลองด้วยแน่
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า บารมีเนวินเบ่งบานอย่างมากหลังหลุดคดีกล้ายาง คงจะทำให้ได้ใจ ส.ส.ในคอกภูมิใจไทยมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีปัญหานักการเมืองจำนวนไม่น้อยในภูมิใจไทยออกอาการหวั่นไหว กลัวอนาคตเนวินจะไม่แน่ เพราะมีสิทธิ์ติดคุกได้ เลยทำให้ส.ส.หลายคนในกลุ่มที่แยกตัวออกมาจากอ้อมอก นช.ทักษิณ ชินวัตร ยังเหยียบเรือสองแคม
ตัวอยู่กับภูมิใจไทย แต่ใจยังปันให้เพื่อไทย อันพบว่าเมื่อเร็วๆนี้ มีส.ส.ภูมิใจไทยหลายคน เดินทางไปคารวะนช.ทักษิณ ถึงดูไบ
ทั้งส่วนส.ส.นอกพรรค ที่ยังลังเลไม่กล้ากระโดดเข้าค่ายภูมิใจไทย ก็ยังมีอยู่มาก จะดูดมาก็ยาก เพราะยังมีคดีกล้ายางของเนวินเป็นปมปัญหา แต่ต่อนี้ไปการดูดส.ส.เพื่อสมทบให้ภูมิใจไทยเขื่องขึ้น ก็คงจะไม่ยากเหมือนเดิมแล้ว โดยเฉพาะส.ส.เพื่อไทยนับสิบคน ที่ตัวอยู่เพื่อไทย แต่ใจให้กับเนวิน ก็คงจะถึงคราวตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น
แต่เส้นทางของพรรคภูมิใจไทย ก็ยังไม่แจ่มใสไปเสียทั้งหมด แม้เนวินจะฝ่าทะลุวิกฤติกับคดีกล้ายางออกมาได้ก็ตาม เพราะ “คนสำคัญ” ในโครงสร้างของพรรคยังต้องเผชิญกับคดีความที่จะเป็นสิ่งเข้ามาชี้อนาคตทางการเมืองของเขาในเร็วๆ นี้
คือนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และรมว.มหาดไทย ที่แม้จะไม่โดนหางเลขความผิดคดีการออกมติครม. เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารโดยมิชอบ ที่ป.ป.ช. มีกำหนดประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในวันนี้ (22 ก.ย.)
หากป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด ก็จะเป็นส่งผลให้รัฐมนตรีชุดรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ที่กลายพันธุ์มาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอันต้องหล่นจากเก้าอี้ทันที ซึ่งมีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง
ซึ่งก่อนหน้านี้มีความสับสนว่า ชวรัตน์ จะโดนผิดด้วย แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ชวรัตน์ ยังไม่ได้มีตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัคร จึงรอดไปเส้นยาแดงผ่าแปด
แต่เรื่องที่น่าห่วงจะทำให้เส้นทางการเมืองของชวรัตน์ สะดุด ก็คือ เรื่องที่พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องขอให้ป.ป.ช. ตรวจสอบ ชวรัตน์ เนื่องจากกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 (2) ที่ระบุว่าห้ามรัฐมนตรี คู่สมรส และบุตรถือหุ้นในบริษัทคู่สัมปทานรัฐ ที่ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดเฉพาะตัวตาม มาตรา 182 (7)
และยังแจ้งความผิด ชวรัตน์ ร้ายแรง ในการกระทำระหว่างดำรงตำแหน่งรักษาการรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ร่วมประชุม ครม.เสนออนุมัติงบประมาณค่าก่อสร้างเพิ่มเติมจำนวน 408 ล้านบาทให้บริษัทซิโน-ไทย ซึ่งเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ ตามมาตรา 100 (4) พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2542
ซึ่งเรื่องนี้แม้ว่าถูกคัดค้านจนต้องถอนเรื่องออกไป แต่เมื่อมาถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ได้อนุมัติเพิ่มวงเงินโครงการแอร์พอร์ตลิ้ง เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
มีเค้าว่าเรื่องนี้จะไม่ธรรมดาสำหรับ รมว.ชวรัตน์ หรือปู่จิ้น เนื่องจากถ้าไม่มีหลักฐานในมือพรรคเพื่อไทยคงไม่ปล่อยให้ ส.ส.ออกมาปูดเรื่องนี้ให้ถูกตอกหน้ากลับแน่
ชวรัตน์ เป็นเสาหลักของภูมิใจไทย ที่เป็นทั้งนายทุนพรรค และหัวหน้าพรรค แม้จะถูกมองว่าเป็น “ตัวเชิด” คั่นเวลาหา “ตัวจริง” มาแทน แต่เมื่อปู่จิ้น ได้ออกลายในเก้าอี้เจ้าพ่อมหาดไทยไปเกือบปี ก็พอจะอ่านออกว่า คงไม่หยุดแค่เป็น “ตัวเชิด”แน่
ตอนนี้ ชวรัตน์น่าจะฝันไปไกลถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแล้ว
แต่ถ้าหากตก“หลุมดำ” คดีความผิดเนื่องจากตำแหน่งหน้าที่ ก็อาจส่งผลให้ ชวรัตน์ และพรรคภูมิใจไทย ที่แม้วันนี้เนวินจะโผบินได้อย่างอิสระแล้วก็ตาม ก้าวสะดุดบนถนนการเมืองได้
กำลังโหลดความคิดเห็น