ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1(เชียงใหม่) เผย 8 เดือน อนุมัติส่งเสริมการลงทุนภาคเหนือตอนบน 23 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1,300 ล้านบาท ขยับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกเล็กน้อย ขณะที่ภาวะการลงทุนช่วงที่เหลือของปียังเชื่อจะมีทิศทางที่ดี เหตุมีผู้ประกอบการและนักลงทุนแสดงความสนใจเข้ามามาก
นางศุภิสรา ชมพาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1(เชียงใหม่) เปิดเผยภาวะการลงทุนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนว่า ช่วง 8 เดือนของปี 2552 มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 23 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,344.6 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่มีจำนวนโครงการทั้งสิ้น 27 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1,146.4 ล้านบาท ซึ่งจะพบว่าในแง่จำนวนโครงการลดลงจากปีก่อน แต่มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น
ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน จำแนกตามประเภทกิจการในช่วง 8 เดือน ประกอบด้วย กิจการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 357.4 ล้านบาท กิจการเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุน 141.6 ล้านบาท กิจการเหมืองแร่ เซรามิกส์และโลหะมูลฐาน จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุน 370 ล้านบาท
กิจการอุตสาหกรรมเบา จำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 202 ล้านบาท กิจการโลหะหนัก เครื่องจักร อุปกรณ์ขนส่ง จำนวน 4 โครงการ มูลค่าการลงทุน 157.2 ล้านบาท กิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก จำนวน 1 โครงการ มูลค่าการลงทุน 26.4 ล้านบาท และกิจการบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 2 โครงการ มูลค่าการลงทุน 90 ล้านบาท
นางศุภิสรา ระบุอีกว่า โครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก ของภาคเหนือตอนบน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEs ซึ่งมีการลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเบา เช่น กิจการผลิตของชำร่วยของที่ระลึก เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น อุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร อุตสาหกรรมโลหะหนัก เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง
ส่วนการลงทุนของคนไทยในภาคเหนือตอนบน ช่วง 8 เดือน มีโครงการที่คนไทยถือหุ้นทั้งหมดได้รับการส่งเสริมจำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 221.7 ล้านบาท ขณะที่โครงการที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งหมดได้รับการส่งเสริมจำนวน 11 โครงการ มูลค่าการลงทุน 809.3 ล้านบาท และโครงการร่วมลงทุนได้รับการส่งเสริมจำนวน 5 โครงการ มูลค่าการลงทุน 313.6 ล้านบาท โดยการลงทุนของต่างชาติในภาคเหนือตอนบน อันดับ 1 เป็นญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุนกว่า 450 ล้านบาท รองลงมาเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอเมริกา
“8 เดือน มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 23 โครงการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่มีจำนวน 27 โครงการ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในแง่ของมูลค่าการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน เพิ่มขึ้นเป็น 1,344.6 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 1,146.4 ล้านบาท ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนหลังผ่านพ้น 8 เดือนไปแล้วถือว่า มีแนวโน้มที่ดีเล็กน้อยขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้” นางศุภิสรา กล่าวและว่า
ส่วนการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงปีการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และที่ผ่านมาก็มีผู้ประกอบการและนักลงทุน ได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการขอรับการส่งเสริมการลงทุนอยู่หลายราย ส่วนใหญ่เป็นกิจการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้น จึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่า การลงทุนน่าจะมีทิศทางที่ดี
นางศุภิสรา ชมพาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1(เชียงใหม่) เปิดเผยภาวะการลงทุนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนว่า ช่วง 8 เดือนของปี 2552 มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 23 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,344.6 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่มีจำนวนโครงการทั้งสิ้น 27 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1,146.4 ล้านบาท ซึ่งจะพบว่าในแง่จำนวนโครงการลดลงจากปีก่อน แต่มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น
ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน จำแนกตามประเภทกิจการในช่วง 8 เดือน ประกอบด้วย กิจการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 357.4 ล้านบาท กิจการเกษตรกรรมและผลิตผลทางการเกษตร จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุน 141.6 ล้านบาท กิจการเหมืองแร่ เซรามิกส์และโลหะมูลฐาน จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุน 370 ล้านบาท
กิจการอุตสาหกรรมเบา จำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 202 ล้านบาท กิจการโลหะหนัก เครื่องจักร อุปกรณ์ขนส่ง จำนวน 4 โครงการ มูลค่าการลงทุน 157.2 ล้านบาท กิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก จำนวน 1 โครงการ มูลค่าการลงทุน 26.4 ล้านบาท และกิจการบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 2 โครงการ มูลค่าการลงทุน 90 ล้านบาท
นางศุภิสรา ระบุอีกว่า โครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก ของภาคเหนือตอนบน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEs ซึ่งมีการลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเบา เช่น กิจการผลิตของชำร่วยของที่ระลึก เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น อุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร อุตสาหกรรมโลหะหนัก เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง
ส่วนการลงทุนของคนไทยในภาคเหนือตอนบน ช่วง 8 เดือน มีโครงการที่คนไทยถือหุ้นทั้งหมดได้รับการส่งเสริมจำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุน 221.7 ล้านบาท ขณะที่โครงการที่ต่างชาติถือหุ้นทั้งหมดได้รับการส่งเสริมจำนวน 11 โครงการ มูลค่าการลงทุน 809.3 ล้านบาท และโครงการร่วมลงทุนได้รับการส่งเสริมจำนวน 5 โครงการ มูลค่าการลงทุน 313.6 ล้านบาท โดยการลงทุนของต่างชาติในภาคเหนือตอนบน อันดับ 1 เป็นญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุนกว่า 450 ล้านบาท รองลงมาเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอเมริกา
“8 เดือน มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 23 โครงการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2551 ที่มีจำนวน 27 โครงการ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในแง่ของมูลค่าการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน เพิ่มขึ้นเป็น 1,344.6 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 1,146.4 ล้านบาท ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนหลังผ่านพ้น 8 เดือนไปแล้วถือว่า มีแนวโน้มที่ดีเล็กน้อยขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้” นางศุภิสรา กล่าวและว่า
ส่วนการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงปีการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และที่ผ่านมาก็มีผู้ประกอบการและนักลงทุน ได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการขอรับการส่งเสริมการลงทุนอยู่หลายราย ส่วนใหญ่เป็นกิจการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้น จึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่า การลงทุนน่าจะมีทิศทางที่ดี
