เอเอฟพี/เอเจนซี - สหรัฐฯกำลังจะระงับแผนการติดตั้งระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธในโปแลนด์และสาธารณรัฐเชก หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (17) ทำให้ฝ่ายรัสเซียแสดงความยินดี ทว่าก่อให้เกิดความวิตกกังวลในยุโรปกลาง
วอลล์สตรีทเจอร์นัลอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯทั้งในปัจจุบันและในอดีตหลายรายกล่าวว่า การตัดสินใจคราวนี้เนื่องมาจากสหรัฐฯ "พิจารณาเห็นว่าโครงการขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่าน ไม่ได้คืบหน้าไปเร็วอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ และยุโรปน้อยลง ... แต่จะเผื่อช่องทางให้กลับมาเริ่มโครงการดังกล่าวใหม่ได้อีก หากอิหร่านพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลในอนาคต"
รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้บอกว่า สหรัฐฯได้ข้อสรุปเช่นนี้ซึ่งจะจัดทำเป็นรายงานสรุปเสร็จสิ้นในช่วงสัปดาห์หน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้มีคำสั่งให้ทบทวนโครงการดังกล่าวเป็นเวลา 60 วัน
รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นผู้ผลักดันโครงการดังกล่าวนี้ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อตอบโต้กับการที่อิหร่านกำลังพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์เพื่อติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกล โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนยืนกรานมาตลอดว่าโครงการของตนไม่ได้มีเป้าหมายต่อต้านรัสเซีย แม้ว่ามอสโกแสดงความวิตกอย่างแรงว่าระบบอาวุธเช่นนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อตนเอง ทั้งนี้ตามโครงการ จะมีการติดตั้งขีปนาวุธสกัดกั้นที่โปแลนด์ และตั้งสถานีเรดาร์ที่เชก
แม้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียจะแสดงท่าทีระมัดระวังต่อรายงานข่าวนี้ โดยบอกว่าต้องรอการยืนยันว่าข่าวนี้เป็นความจริงหรือไม่เสียก่อน แต่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัสเซียบอกว่า ถ้าหากเป็นเรื่องจริงก็ต้องถือว่าเป็นข่าวดี
ส่วนที่กรุงปราก โฆษกนายกรัฐมนตรี แจน ฟิชเชอร์ ของสาธารณรัฐเชก บอกว่าโอบามาได้โทรศัพท์ถึงนายกรัฐมนตรีฟิชเชอร์เมื่อคืนวันพุธ(16) เพื่อ "พูดคุยเรื่องนี้" และ เอลเลน ทาวเชอร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯฝ่ายการควบคุมอาวุธและกิจการความมั่นคงระหว่างประเทศ ก็มีกำหนดเดินทางไปกรุงปรากในวันพฤหัสบดี(17)
ส่วนที่โปแลนด์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี เลค คัซซินสกี กล่าวเตือนว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นความล้มเหลวในการดำเนินนโยบายของสหรัฐฯต่อยุโรปกลาง
อเลกซานเดอร์ ซชิกโล หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโปแลนด์ ชี้ว่า ระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้ ไม่ได้มีเพียงมิติทางทหาร แต่ยังมีมิติ "ทางการเมืองและยุทธศาสตร์" อีกด้วย
วอลล์สตรีทเจอร์นัลอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯทั้งในปัจจุบันและในอดีตหลายรายกล่าวว่า การตัดสินใจคราวนี้เนื่องมาจากสหรัฐฯ "พิจารณาเห็นว่าโครงการขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่าน ไม่ได้คืบหน้าไปเร็วอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ และยุโรปน้อยลง ... แต่จะเผื่อช่องทางให้กลับมาเริ่มโครงการดังกล่าวใหม่ได้อีก หากอิหร่านพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลในอนาคต"
รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้บอกว่า สหรัฐฯได้ข้อสรุปเช่นนี้ซึ่งจะจัดทำเป็นรายงานสรุปเสร็จสิ้นในช่วงสัปดาห์หน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้มีคำสั่งให้ทบทวนโครงการดังกล่าวเป็นเวลา 60 วัน
รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นผู้ผลักดันโครงการดังกล่าวนี้ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อตอบโต้กับการที่อิหร่านกำลังพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์เพื่อติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกล โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดก่อนยืนกรานมาตลอดว่าโครงการของตนไม่ได้มีเป้าหมายต่อต้านรัสเซีย แม้ว่ามอสโกแสดงความวิตกอย่างแรงว่าระบบอาวุธเช่นนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อตนเอง ทั้งนี้ตามโครงการ จะมีการติดตั้งขีปนาวุธสกัดกั้นที่โปแลนด์ และตั้งสถานีเรดาร์ที่เชก
แม้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียจะแสดงท่าทีระมัดระวังต่อรายงานข่าวนี้ โดยบอกว่าต้องรอการยืนยันว่าข่าวนี้เป็นความจริงหรือไม่เสียก่อน แต่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัสเซียบอกว่า ถ้าหากเป็นเรื่องจริงก็ต้องถือว่าเป็นข่าวดี
ส่วนที่กรุงปราก โฆษกนายกรัฐมนตรี แจน ฟิชเชอร์ ของสาธารณรัฐเชก บอกว่าโอบามาได้โทรศัพท์ถึงนายกรัฐมนตรีฟิชเชอร์เมื่อคืนวันพุธ(16) เพื่อ "พูดคุยเรื่องนี้" และ เอลเลน ทาวเชอร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯฝ่ายการควบคุมอาวุธและกิจการความมั่นคงระหว่างประเทศ ก็มีกำหนดเดินทางไปกรุงปรากในวันพฤหัสบดี(17)
ส่วนที่โปแลนด์ ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี เลค คัซซินสกี กล่าวเตือนว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นความล้มเหลวในการดำเนินนโยบายของสหรัฐฯต่อยุโรปกลาง
อเลกซานเดอร์ ซชิกโล หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโปแลนด์ ชี้ว่า ระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้ ไม่ได้มีเพียงมิติทางทหาร แต่ยังมีมิติ "ทางการเมืองและยุทธศาสตร์" อีกด้วย