เอเจนซี/เอเอฟพี - รัสเซียและสหรัฐฯ เพิ่มระดับความบาดหมางระหว่างกันเมื่อวานนี้ (9) เกี่ยวกับระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธที่อเมริกาวางแผนสร้างขึ้นในยุโรป และเพิ่งไปลงนามข้อตกลงกับสาธารณรัฐเช็กมาหมาดๆ ในเรื่องจะไปติดตั้งระบบเรดาร์ติดตามขึ้นที่นั่นซึ่งมีพรมแดนติดกับแดนหมีขาว โดยประธานาธิบดีดมิตริ เมดเวเดฟของมอสโกขู่ว่าจะมีมาตรการตอบโต้ ถ้าหากวอชิงตันยังเดินหน้าสร้างระบบซึ่งกำลังพิพาทกันอยู่นี้
รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และเช็ก ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อวันอังคาร (8) ที่จะสร้างระบบเรดาร์ติดตามขึ้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปราก โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบโล่ป้องกันการโจมตีขีปนาวุธ ซึ่งวอชิงตันบอกว่ามีความจำเป็นเพื่อปกป้องการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากประเทศอย่างเช่นอิหร่าน
แต่รัสเซียนั้นอ่อนไหวต่อการสร้างแสนยานุภาพไม่ว่าชนิดไหนของฝ่ายตะวันตก ในพื้นที่ใกล้พรมแดนของตน และกล่าวว่า แผนโล่ป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ นี้ เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของฝ่ายหมีขาว
"เรากำลังผิดหวังอย่างสุดๆ ต่อสถานการณ์นี้" เมดเวเดฟบอกกับที่ประชุมแถลงข่าว ณ เกาะฮอกไกโด ของญี่ปุ่น ที่ซึ่งเขากำลังเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำของกลุ่ม 8 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(จี 8)
"เราจะไม่ตีโพยตีพายอย่างไร้สติในเรื่องนี้ แต่เราจะขบคิดถึงขั้นตอนต่างๆ ในการตอบโต้" เขากล่าว แต่ขณะเดียวกัน เขาก็บอกด้วยว่า "เราไม่ได้คัดค้านที่จะมีการเจรจากันต่อไปอีก"
คำพูดของผู้นำหมีขาวเป็นการตอกย้ำคำแถลงแบบใช้ถ้อยคำอันชวนให้ย้อนรำลึกถึงยุคสงครามเย็นของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันอังคารที่กล่าวว่า "หากสหรัฐฯ ติดตั้งระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ใกล้กับบริเวณชายแดนของเราจริง เราก็จะถูกกดดันให้ตอบโต้ด้วยวิธีการเชิงเทคนิคด้วยกำลังทหาร ไม่ใช่ด้วยวิธีการทางการทูต"
ขณะที่สหรัฐฯ เองก็ไม่อยู่นิ่งเฉย และกล่าวหารัสเซียว่าพยายามทำให้ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ในยุโรปไม่สบายใจด้วยการพูดจาก้าวร้าว แต่สหรัฐฯ ก็จะยังเจรจากับรัสเซียเพื่ออธิบายว่าระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธไม่ได้มีเป้าหมายที่รัสเซีย
เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่วลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีของรัสเซียในปัจจุบัน ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซีย เขาเคยบอกว่ารัสเซียจะเล็งขีปนาวุธไปยังประเทศในยุโรป หากยังมีการติดตั้งระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธซึ่งมอสโกถือว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ แต่สหรัฐฯ ยืนกรานว่าระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธนั้นออกแบบไว้สำหรับตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธจากตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากรัสเซีย
ไบรอัน วิทแมน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในวันอังคารว่า "สหรัฐฯ ได้เคยเสนออย่างจริงจังมาหลายครั้งแล้วว่าจะร่วมมือกับรัสเซีย และจะหาทางให้เกิดความโปร่งใสให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบ หรือเจตนาในการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวขึ้นมา"
ทว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า ข้อเสนอของฝ่ายรัสเซียต่อสหรัฐฯ ในเรื่องระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธก็ถูกเพิกเฉยไปเช่นกัน หนำซ้ำสหรัฐฯ ยังต้องการจะติดตั้งจรวดสกัดกั้นขีปนาวุธจำนวน 10 ลำในโปแลนด์ แม้ว่าเรื่องดังกล่าวต้องชะลอออกไปเพราะโปแลนด์เรียกร้องเงินนับพันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงฐานติดตั้งขีปนาวุธก็ตาม
ทั้งนี้ ระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธดังกล่าว จะรวมทั้งเครื่องตรวจจับและเรดาร์ที่มีมูลค่าถึงราว 3,500 ล้านดอลลาร์ โดยจะมีศักยภาพในการตรวจจับขีปนาวุธที่ศัตรูยิงส่งมา และจะคอยนำทางจรวดสกัดกั้นขีปนาวุธบนภาคพื้นดินให้ทำลายขีปนาวุธโจมตีนั้นได้โดยไม่ต้องใช้วัตถุระเบิด
พาเวล เฟลเกนเฮาเออร์ นักวิเคราะห์ด้านการทหารของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียใช้สำนวนโวหารเหมือนในยุคสงครามเย็นก็เพื่อให้รัฐสภาของสาธารณรัฐเช็กรู้สึกหวั่นใจที่จะรับรองข้อตกลงดังกล่าว และการที่รัสเซียไม่ยอมระบุรายละเอียดใดๆ จึงดูน่ากลัว เพราะนี่คือการกดดันเชิงจิตวิทยาแบบเดียวกับที่สหภาพโซเวียตเคยใช้ในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อสหรัฐฯ ติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางในยุโรป