ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดอสังหาฯฟื้น“กลุ่มเปรมสิตา” กัดฟันเปิดเฟส 2 บ้านเดี่ยวย่านสุวรรณภูมิ ปรับขนาดลงเหลือขาย 3 ล้านกว่า พร้อมทุ่ม 10 ล้านบาท อัดแคมเปญซื้อบ้านแถมรถ 6 คัน
นายวิทวัส เลาหพูนรังสี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เปรมสิตา จำกัด และบริษัท สุวรรณภูมิ แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ อารีน่า และทาวน์โฮม แบรนด์ เมอริท กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เริ่มฟื้นตัวขั้นมา ประกอบกับการที่รัฐบาลมีนโยบายปล่อยสินเชื่ออนุมัติด่วน(ฟาสต์แท็ค) และมาตรการลดภาษีอสังหาฯ
อีกทั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จะเข้าสู่ฤดูขายของธุรกิจอสังหาฯ ทำให้บริษัทเตรียมจัดแคมเปญใหญ่เพื่อกระตุ้นยอดขายในทุกโครงการของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทได้ตัดสินใจเปิดเฟส 2 ภายในโครงการ อารีน่า การ์เด้น บางนา ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป บนเนื้อที่ 55 ไร่ ตามแผนมีจำนวน 188 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,055 ล้านบาท โดยเปิดขายมาตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 90 ยูนิต ซึ่งถือว่าขายช้า
ดังนั้น เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาท และเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ ทางบริษัทจึงได้ปรับรูปแบบบ้านในเฟสสองให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถขายได้ในราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป โดยเฟสใหม่นี้มีจำนวน 30 ยูนิต
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขาย บริษัทจึงได้จัดแคมเปญซื้อบ้านแถมรถยนต์ 6 คันสำหรับบ้าน 6 หลังตามขนาดบ้าน สำหรับผู้ที่ซื้อภายในงาน “Happy Home Happy Money” วันที่ 19-20 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ เชิญลูกค้าเงินฝากตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไปในย่านดังกล่าวรวมกว่า 500 ราย เข้าร่วมงาน พร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ
“ในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เพื่อทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย 300-500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 200 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายโครงการอารีน่า การ์เด้น บางนา ไว้ที่ 100 ล้านบาท ”
นายวิทวัส กล่าวต่อว่า ปัจจุบันนอกจากโครงการอารีน่า การ์เด้น บางนาแล้วบริษัทยังอยู่ระหว่างเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยอีก 3 แห่ง ได้แก่ โครงการเมอริท แกรนด์ สุวรรณภูมิ บ้านแฝดจำนวน 150 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30 ยูนิต, 2. เมอริท เพลส ลาดพร้าว 87 จำนวน 260 ยูนิต เหลือขายเพียง 15 ยูนิตเท่านั้น และโครงการเมอริท แกรนด์ ดอนเมือง ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท จำนวน 230 ยูนิต เหลือขายประมาณ 50 ยูนิต.
นายวิทวัส เลาหพูนรังสี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เปรมสิตา จำกัด และบริษัท สุวรรณภูมิ แอสเสท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ อารีน่า และทาวน์โฮม แบรนด์ เมอริท กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เริ่มฟื้นตัวขั้นมา ประกอบกับการที่รัฐบาลมีนโยบายปล่อยสินเชื่ออนุมัติด่วน(ฟาสต์แท็ค) และมาตรการลดภาษีอสังหาฯ
อีกทั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จะเข้าสู่ฤดูขายของธุรกิจอสังหาฯ ทำให้บริษัทเตรียมจัดแคมเปญใหญ่เพื่อกระตุ้นยอดขายในทุกโครงการของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทได้ตัดสินใจเปิดเฟส 2 ภายในโครงการ อารีน่า การ์เด้น บางนา ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป บนเนื้อที่ 55 ไร่ ตามแผนมีจำนวน 188 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,055 ล้านบาท โดยเปิดขายมาตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 90 ยูนิต ซึ่งถือว่าขายช้า
ดังนั้น เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาท และเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ ทางบริษัทจึงได้ปรับรูปแบบบ้านในเฟสสองให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถขายได้ในราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป โดยเฟสใหม่นี้มีจำนวน 30 ยูนิต
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขาย บริษัทจึงได้จัดแคมเปญซื้อบ้านแถมรถยนต์ 6 คันสำหรับบ้าน 6 หลังตามขนาดบ้าน สำหรับผู้ที่ซื้อภายในงาน “Happy Home Happy Money” วันที่ 19-20 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ เชิญลูกค้าเงินฝากตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไปในย่านดังกล่าวรวมกว่า 500 ราย เข้าร่วมงาน พร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ
“ในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เพื่อทำยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย 300-500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 200 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายโครงการอารีน่า การ์เด้น บางนา ไว้ที่ 100 ล้านบาท ”
นายวิทวัส กล่าวต่อว่า ปัจจุบันนอกจากโครงการอารีน่า การ์เด้น บางนาแล้วบริษัทยังอยู่ระหว่างเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยอีก 3 แห่ง ได้แก่ โครงการเมอริท แกรนด์ สุวรรณภูมิ บ้านแฝดจำนวน 150 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30 ยูนิต, 2. เมอริท เพลส ลาดพร้าว 87 จำนวน 260 ยูนิต เหลือขายเพียง 15 ยูนิตเท่านั้น และโครงการเมอริท แกรนด์ ดอนเมือง ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท จำนวน 230 ยูนิต เหลือขายประมาณ 50 ยูนิต.