xs
xsm
sm
md
lg

“สปา”ใกล้ม้วนเสื่อ8เดือนลูกค้าหาย 30%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาคิน พลอยภิชา
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – นายกสมาคมไทยล้านนาสปา เผย ภาวะธุรกิจสปาเชียงใหม่ซบเซาต่อเนื่องตลอดช่วง 8 เดือนของปีนี้ ผู้ใช้บริการหดหายกว่า 30% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ส่งผลผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องแต่ไม่ถึงขั้นเลย์ออฟพนักงาน ชี้สถานการณ์แย่สุดในรอบหลายปี แต่ยังเชื่อมั่นว่าเมื่อย่างเข้าสู่ช่วงไฮซีซันจะกระเตื้องขึ้น

นายภาคิน พลอยภิชา นายกสมาคมไทยล้านนาสปา และซีอีโอ The Oasis Spa เปิดเผยถึงภาวะของธุรกิจสปาของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตลอดช่วง 8 เดือนของปี 2552 ภาพรวมถือว่าซบเซาอย่างมากและมีตัวเลขติดลบต่อเนื่องทุกเดือน โดยที่ผ่านมาเพิ่งจะมีเพียงเดือนสิงหาคม 2552 เท่านั้น ที่ตัวเลขในธุรกิจสปาของเชียงใหม่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ดีเท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ตาม

ปัจจัยที่ทำให้ภาวะของธุรกิจสปาดีขึ้น เชื่อว่า น่าจะเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว ที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีทิศทางที่ดีขึ้น และความหวั่นวิตกในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ลดน้อยลง ทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขในเดือนสิงหาคมจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงว่าในช่วงเดือนกันยายน ตัวเลขอาจจะตกลงไปอีก เพราะตามปกติจะเป็นช่วงที่ธุรกิจสปา ต้องประสบภาวะที่ซบเซาที่สุดในรอบปีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีและเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว เชื่อ และมีความหวังว่าธุรกิจสปาในจังหวัดเชียงใหม่ น่าจะกลับมาคึกคักมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาสมาคมไทยล้านนาสปา และผู้ประกอบการได้ร่วมมือกันในการกระตุ้นตลาดเพื่อดึงดูดใจให้มีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติสัดส่วนสูงถึงประมาณร้อยละ 70 ของลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งหมด โดยตั้งเป้าหมายดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทย และไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ ด้วยการนำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้ในการลดค่าบริการ ซึ่งก็ได้ผลระดับหนึ่งและเป็นในระยะสั้นเท่านั้น

ขณะเดียวกัน นายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวถึงธุรกิจสปาที่สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดเชียงใหม่เฉลี่ยปีละประมาณ 600 ล้านบาท ว่า ในปี 2552 นับว่า เป็นช่วงที่ธุรกิจสปาของเชียงใหม่ตกอยู่ในภาวะซบเซาที่สุด หลังจากที่ในปี 2550 มีการขยายตัวประมาณร้อยละ 30 และปี 2551 มีการขยายตัวประมาณร้อยละ 10 แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมาของปี 2552 พบว่า จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการลดลงไปประมาณร้อยละ 30 ดังนั้น ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จึงเป็นช่วงสำคัญในการที่จะรักษาภาวะการขยายตัวของธุรกิจนี้เอาไว้ ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาก็เพียงพอแล้ว

สำหรับภาวะซบเซาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจสปานั้น นายภาคิน ยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจสปามากพอสมควร โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่จะประสบปัญหาในเรื่องของการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากรายได้ลดลงตามจำนวนผู้มาใช้บริการ แต่รายจ่ายยังคงมีอยู่เท่าเดิม อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่จะใช้วิธีการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นแทนการเลย์ออฟพนักงาน เนื่องจากพนักงานถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในธุรกิจสปา ซึ่งเป็นธุรกิจบริการและการฝึกฝนทักษะเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น