ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- เชียงใหม่จัดสัมมนานานาชาติธุรกิจบริการสุขภาพ หวังโชว์ศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ในการเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพ ขณะที่ ททท.ระบุพร้อมหนุนลุยทำการตลาดต่างประเทศเชื่อช่วยโกยรายได้เข้าประเทศ ด้านธุรกิจสปาเชียงใหม่ครวญปี 51 ลูกค้าต่างชาติหดหาย 20% เหตุวิกฤตเศรษฐกิจโลก-การเมืองไทย เผยเตรียมงัดกลยุทธ์ลดราคาดึงลูกค้าไทยเพิ่มเป็นการชดเชย
จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมบริการสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ จัดการสัมมนานานาชาติเรื่อง “Chiang Mai International Health Promotion Meeting” ระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ.52 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพิธีเปิดวันนี้ (4 ก.พ.52) มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 300 คน ประกอบด้วย ผู้ประกอบการธุรกิจบริการสุขภาพทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การแพทย์ ทันตกรรม สปา การนวด สมุนไพร และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, Tour Agent จากต่างประเทศที่นำนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้าสู่ประเทศไทย หน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านบริการสุขภาพ พร้อมทั้งมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานและผู้ประกอบการ
นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตลาดชิงรุกภายใต้ยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของจังหวัดเชียงใหม่ ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจบริการสุขภาพของเชียงใหม่ เพื่อผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพ ตลอดจนสร้างศักยภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพักผ่อนและใช้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่
ศาสตราจารย์แพทย์หญิงกรรณิการ์ พรพัฒน์กุล นายกสมาคมส่งเสริมบริการสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพในการที่จะเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพ ทั้งสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเป็นที่น่าเชื่อถือ มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่และทันสมัย ตลอดจนมีความพร้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งจับจ่ายสินค้า ซึ่งจากการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับทราบในวงกว้างยิ่งขึ้น
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า การจัดการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดเชียงใหม่ ในการเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพที่มีความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพราะมี Tour Agent จากต่างประเทศ เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ นายอักกพล กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.มีแผนที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยจะมีการมุ่งทำการตลาดอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นสินค้าที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี โดยจากข้อมูลในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยประมาณ 1.5 ล้านคน และใช้บริการสปา ประมาณ 4.6 ล้านคน ซึ่งมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีๆละ ประมาณ 15% ตลาดหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวเอเชีย รองลงมาเป็นยุโรป แต่กำลังเร่งทำตลาดใหม่ในตะวันออกกลาง
ด้านนายภาคิน พลอยภิชา นายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจสปาของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2551 ที่ผ่านมาว่า มีผู้เข้ามาใช้บริการลดลงประมาณ 20% จากปีก่อนหน้านั้น โดยเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาลดลง ซึ่งสัดส่วนผู้ที่เข้ามาใช้บริการนั้น เป็นชาวต่างชาติประมาณ 70%
ส่วนที่เหลือเป็นคนไทย โดยตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาใช้บริการลดลงไปมากที่สุดประมาณ 30% เพราะเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวมาก รองลงมาเป็นตลาดสหรัฐอเมริกา ที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ
สำหรับแนวโน้มในปี 2552 นายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวว่า คงจะไม่ดีไปกว่าในปี 2551 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจะพยายามประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ทั้งนี้ตามแผนที่วางไว้จะมุ่งเน้นการทำตลาดและเพิ่มการเข้ามาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น โดยการใช้กลยุทธในการลดราคาเป็นสิ่งจูงใจ
เบื้องต้นมีแนวความคิดในการทำโปรโมชั่นส่วนลดการใช้บริการสูงสุด 50% สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผู้เข้ามาใช้บริการคนไทยให้เป็น 40% ทดแทนส่วนของชาวต่างชาติที่ลดลงไป เชื่อว่าน่าจะได้ผลดีในระดับหนึ่ง
จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมบริการสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ จัดการสัมมนานานาชาติเรื่อง “Chiang Mai International Health Promotion Meeting” ระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ.52 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพิธีเปิดวันนี้ (4 ก.พ.52) มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 300 คน ประกอบด้วย ผู้ประกอบการธุรกิจบริการสุขภาพทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ การแพทย์ ทันตกรรม สปา การนวด สมุนไพร และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, Tour Agent จากต่างประเทศที่นำนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้าสู่ประเทศไทย หน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านบริการสุขภาพ พร้อมทั้งมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานและผู้ประกอบการ
นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตลาดชิงรุกภายใต้ยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของจังหวัดเชียงใหม่ ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจบริการสุขภาพของเชียงใหม่ เพื่อผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพ ตลอดจนสร้างศักยภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพักผ่อนและใช้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่
ศาสตราจารย์แพทย์หญิงกรรณิการ์ พรพัฒน์กุล นายกสมาคมส่งเสริมบริการสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพในการที่จะเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพ ทั้งสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเป็นที่น่าเชื่อถือ มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่และทันสมัย ตลอดจนมีความพร้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งจับจ่ายสินค้า ซึ่งจากการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับทราบในวงกว้างยิ่งขึ้น
นายอักกพล พฤกษะวัน รองผู้ว่าการด้านสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า การจัดการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดเชียงใหม่ ในการเป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพที่มีความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพราะมี Tour Agent จากต่างประเทศ เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ นายอักกพล กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.มีแผนที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยจะมีการมุ่งทำการตลาดอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นสินค้าที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี โดยจากข้อมูลในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทยประมาณ 1.5 ล้านคน และใช้บริการสปา ประมาณ 4.6 ล้านคน ซึ่งมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีๆละ ประมาณ 15% ตลาดหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวเอเชีย รองลงมาเป็นยุโรป แต่กำลังเร่งทำตลาดใหม่ในตะวันออกกลาง
ด้านนายภาคิน พลอยภิชา นายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจสปาของจังหวัดเชียงใหม่ในปี 2551 ที่ผ่านมาว่า มีผู้เข้ามาใช้บริการลดลงประมาณ 20% จากปีก่อนหน้านั้น โดยเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาลดลง ซึ่งสัดส่วนผู้ที่เข้ามาใช้บริการนั้น เป็นชาวต่างชาติประมาณ 70%
ส่วนที่เหลือเป็นคนไทย โดยตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาใช้บริการลดลงไปมากที่สุดประมาณ 30% เพราะเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวมาก รองลงมาเป็นตลาดสหรัฐอเมริกา ที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ
สำหรับแนวโน้มในปี 2552 นายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวว่า คงจะไม่ดีไปกว่าในปี 2551 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจะพยายามประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ทั้งนี้ตามแผนที่วางไว้จะมุ่งเน้นการทำตลาดและเพิ่มการเข้ามาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น โดยการใช้กลยุทธในการลดราคาเป็นสิ่งจูงใจ
เบื้องต้นมีแนวความคิดในการทำโปรโมชั่นส่วนลดการใช้บริการสูงสุด 50% สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผู้เข้ามาใช้บริการคนไทยให้เป็น 40% ทดแทนส่วนของชาวต่างชาติที่ลดลงไป เชื่อว่าน่าจะได้ผลดีในระดับหนึ่ง
