ศูนย์ข่าวภูมิภาค - สภา ปชช.4 ภาคอีสานลุกฮือแสดงพลัง บวงสรวงขอพร "ย่าโม" ระดมพลเกษตรกรร่วมทวงคืนแผ่นดินไทย "เขาพระวิหาร" ลั่นปักหลักยาวจนกว่าได้คำตอบชัดเจน ขู่หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยพร้อมนำทัพเกษตรกรไร้ที่ทำกินบุกเข้ายึดพื้นที่ 4.6 ตร.กม.จัดสรรทำกิน-อยู่อาศัย และผลักดันชาวเขมรพ้นผืนแผ่นดินไทยเอง "พธม.เหนือ-ใต้" นัดล้อหมุนพร้อมกัน 18 ก.ย.นี้ "สุเทพ" อ้างรัฐบาลทำหน้าที่เจรจาพูดคุยระหว่างสองประเทศอยู่ "พันธมิตรฯ"จะไปเพื่ออะไร พร้อมเตือนระวังจะเป็นการซ้ำเติมชาติ
วานนี้ (15 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มเกษตรกรและประชาชนจากศูนย์อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ของสภาประชาชน 4 ภาคกว่า 500 คน นำโดยนายวีระพล โสภา ที่ปรึกษาสภาประชาชน 4 ภาค และนายประพาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) ได้รวมตัวกันชุมนุมพร้อมธงชาติไทยและป้ายผ้าข้อความต่างๆ เพื่อแสดงพลังเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทย รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยผู้ชุมนุมทั้งหมดได้จับมือประสานยืนเป็นวงกลมล้อมรอบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมทำพิธีบวงสรวงขอพรจากย่าโม ก่อนร่วมกันตะโกนว่า "ไชโย ๆๆ ย่าโมออกศึก"
จากนั้นนายวีระพล ได้อ่านแถลงการณ์ใจความสำคัญสรุปได้ว่า "รัฐบาลชุดที่ผ่านมาโดยกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยนายนพดล ปัทมะ เป็น รมว.ต่างประเทศ ได้ตกลงยินยอมให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว และหากรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.ต่างประเทศ ตกลงยินยอมให้มีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,800 ไร่ ภายในเดือน ก.พ.2553 นี้จะทำให้ประเทศกัมพูชาสามารถเข้าครอบครองพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างชอบธรรม และยังอาจหมายรวมถึงดินแดนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชากว่า 700 กิโลเมตรจาก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ถึง อ.เกาะกรูด จ.ตราด ตามหลักปักปันเขตแดนปริศนา 73 หลัก ที่ปรากฏรุกล้ำพื้นที่เขตแดนประเทศไทยเข้ามา รวมพื้นที่ที่ประเทศไทยต้องสูญเสียไปเฉพาะการณ์นี้ประมาณ 1.8 ล้านไร่
หากเป็นเช่นนี้จริง พวกเราในนามผู้อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรที่ดินดังกล่าวยกให้กับพวกเราเกษตรกรไทยก่อน ที่เหลือจึงค่อยยกให้เขมรไปตามที่รัฐบาลต้องการไม่เป็นการณ์ดีกว่าหรือ รวมทั้งขอเชิญชวนเกษตรกรประชาชนคนไทยที่ไม่มีที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยเข้าไปจับจองพื้นที่ดังกล่าวตลอดแนวชายแดน เริ่มตั้งแต่ อ.น้ำยืน-น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, อ.กันทรลักษณ์-ขุนหาญ-ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ, อ.บัวเชด-กาบเชิง-พนมดงรัก จ.สุรินทร์, อ.บ้านกรวด-ละหานทราย-โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์, อ.ตาพระยา-โคกสูง-อรัญประเทศ-คลองหาด จ.สระแก้ว, อ.วังสมบูรณ์-สอยดาว -โป่งน้ำร้อน-มะขาม-บ่อไร่ จ.จันทบุรี และ อ.เมือง -คลองใหญ่ -เกาะกรูด จ.ตราด
นายวีระพล เผยอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาคนั้นได้แบ่งการรณรงค์ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่เพื่อลงพื้นที่เชิญชวนชาวอีสานทั้ง 19 จังหวัดให้ออกมาร่วมกันทวงคืนแผ่นดินไทย โดยสายแรกจะเริ่มจาก จ.ชัยภูมิ ไปต่อที่ จ.ขอนแก่น และจังหวัดในแถบอีสานเหนือ สายที่ 2 เริ่มจาก จ.มุกดาหาร ไล่ลงมายัง จ.ศรีสะเกษ และสายที่ 3 ซึ่งเป็นขบวนใหญ่เริ่มจาก จ.นครราชสีมา ต่อไปยัง จ.บุรีรัมย์, สุรินทร์ และศรีสะเกษ ก่อนไปสมทบกับขบวน "รวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสาน" ที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารวันที่ 17 ก.ย.เพื่อรอการมาสมทบของประชาชนจากทั่วประเทศในวันที่ 19 ก.ย.
จากนั้นประชาชนและเกษตรกรไทยทั้งหมดจะชุมนุมปักหลักอยู่ที่เขาพระวิหารจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการผลักดันทหาร และราษฎรชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ของประเทศไทย
"หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยทางกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาคได้เตรียมกำลังเกษตรกรประชาชนคนไทยไร้ที่ทำกินพร้อมที่จะบุกขึ้นไปยึดครองผืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทเขาพระวิหารทั้ง 4.6 ตร.กม.เพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินและอยู่อาศัย พร้อมผลักดันราษฎรกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่รอการปฏิบัติการของรัฐบาลอีกต่อไป " นายวีรพล กล่าว
**บุกทัพภาค2ถามเรื่องเสียดินแดน
ขณะที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายแพทย์ศุภพล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน และเครือข่ายสมัชชา จ.นครราชสีมา กว่า 20 คนได้เข้าพบ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อขอรับฟังรายละเอียดและสถานการณ์ที่ชัดเจนบนปราสาทเขาพระวิหาร โดยเฉพาะพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่มีกระแสข่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวประเทศไทยได้สูญเสียดินแดนให้กับฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว
ทั้งนี้ พล.ท.วิบูลศักดิ์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองอำนวยการความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กองทัพภาคที่ 2 โดยมี พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือน ทภ.2 และคณะ ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง โดยใช้เวลากว่า 2 ชม.เนื่องจากติดภารกิจ
โดยทางกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรบนเขาพระวิหาร ไม่ได้เป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ แต่ในส่วนสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยนั้นเชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของประเทศไทยฝ่ายกัมพูชาเองไม่มีสิทธิ์ในการอ้างสิทธิ์บนพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากศาลโลกได้ตัดสินเพียงว่าตัวปราสาทเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลกของฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น ส่วนบริเวณโดยรอบยังเป็นของไทย
**ทัพหน้าปลุกประแสคนเมืองช้าง
วันเดียวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ถ.กรุงศรีนอก ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ประธานโครงรณรงค์ รวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสาน และคณะ ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ผู้ก่อตั้งเมืองสุรินทร์ และปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยตั้งแต่โบราณมาสู่ลูกหลานไทยและชาวสุรินทร์จวบจนปัจจุบัน
จากนั้นได้เคลื่อนขบวนรณรงค์ทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารไปตามถนนสายสำคัญในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ โดยมีประชาชนให้ความสนใจตลอดเส้นทางที่ขบวนรณรงค์ผ่าน
นายเจริญ กล่าวย้ำว่า "หากรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาการบุกรุกยึดครองแผ่นดินไทยบริเวณเขาพระวิหารดังกล่าวพวกเราจะนำประชาชนและพลังมวลชนขบวนรวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสานรวมทั้งชาวไทยทั่วประเทศ ขึ้นไปปักหลักอยู่อาศัยที่บริเวณพื้นที่บนเขาพระวิหารอย่างแน่นอน"
**"พธม.ใต้-เหนือ"นัดล้อหมุน18ก.ย.
ที่ จ.สงขลา พันธมิตรฯสงขลาได้รวมพลจัดขบวนพาหนะทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่หน้าลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟหาดใหญ่สู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ เพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมเดินทางทวงคืนผืนแผ่นดินเขาพระวิหาร โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนบริจาคเงินสมทบทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำหรับขบวนพันธมิตรฯสงขลา ได้นัดรวมตัวกันในวันที่ 17 ก.ย.นี้เวลา 13.00 น.ที่ลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนขบวนสู่จุดนัดรวมพลพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ที่อุทยานเขาพาง จ.ชุมพร และเคลื่อนขบวนสู่เขาพระวิหารในเวลา 24.00 น.วันที่ 18 ก.ย.ถึงจุดนัดหมายอุทยานปราสาทเขาพระวิหารในเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน
ในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯเชียงราย ต่างตื่นตัวในเรื่องนี้อย่างคึกคักเช่นกัน โดยนายสมาน ท่อทิพย์ ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯเชียงราย เผยว่า พวกเรามีแนวคิดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศด้วยเช่นกัน และมีกำหนดการเดินทางไป จ.ศรีษะเกษ เย็นวันที่ 18 ก.ย.นี้ เพื่อจะได้ทวงคืนดินแดนซึ่งเป็นของเราร่วมกับประชาชนทั่วประเทศ
**"สุเทพ"เตือน"พธม."ระวังซ้ำเติมชาติ
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะชุมนุมประท้วงที่เขาพระวิหารในวันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า ตนไม่แน่ใจว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะไปเพื่ออะไร ถ้าไปเพียงเพื่อแสดงออกถึงความรัก ความหวงแหนในแผ่นดินก็แสดงได้ แต่ต้องระมัดระวังอย่าไปกระทบกระทั่งกับฝ่ายเขมร ส่วนเรื่องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่เอามาพูดวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น ทั้ง 2 ประเทศตกลงกันแล้วว่าให้มีคณะกรรมการไปศึกษา ซึ่งเขาก็กำลังดำเนินการอยู่ เราไม่ควรเข้าไปวุ่นวายกับเขา ตนรู้ว่าทุกคนก็รักชาติบ้านเมือง ก็ช่วยกันดูแล อย่าไปซ้ำเติมชาติบ้านเมืองก็แล้วกัน
"พี่น้องประชาชนไม่ต้องออกแรงมาแสดงเอง เพราะรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศหาทางแก้ไขปัญหากันอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างจะไปทำตามอารมณ์ ทำตามหัวใจไม่ได้ เพราะใจคนมันวูบวาบเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้าของไทยกับกัมพูชานั้น ขณะนี้ลดลงไปเยอะแล้ว ดีขึ้นเยอะแล้ว"
วานนี้ (15 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มเกษตรกรและประชาชนจากศูนย์อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ของสภาประชาชน 4 ภาคกว่า 500 คน นำโดยนายวีระพล โสภา ที่ปรึกษาสภาประชาชน 4 ภาค และนายประพาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) ได้รวมตัวกันชุมนุมพร้อมธงชาติไทยและป้ายผ้าข้อความต่างๆ เพื่อแสดงพลังเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทย รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยผู้ชุมนุมทั้งหมดได้จับมือประสานยืนเป็นวงกลมล้อมรอบอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมทำพิธีบวงสรวงขอพรจากย่าโม ก่อนร่วมกันตะโกนว่า "ไชโย ๆๆ ย่าโมออกศึก"
จากนั้นนายวีระพล ได้อ่านแถลงการณ์ใจความสำคัญสรุปได้ว่า "รัฐบาลชุดที่ผ่านมาโดยกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยนายนพดล ปัทมะ เป็น รมว.ต่างประเทศ ได้ตกลงยินยอมให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว และหากรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.ต่างประเทศ ตกลงยินยอมให้มีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,800 ไร่ ภายในเดือน ก.พ.2553 นี้จะทำให้ประเทศกัมพูชาสามารถเข้าครอบครองพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างชอบธรรม และยังอาจหมายรวมถึงดินแดนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชากว่า 700 กิโลเมตรจาก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ถึง อ.เกาะกรูด จ.ตราด ตามหลักปักปันเขตแดนปริศนา 73 หลัก ที่ปรากฏรุกล้ำพื้นที่เขตแดนประเทศไทยเข้ามา รวมพื้นที่ที่ประเทศไทยต้องสูญเสียไปเฉพาะการณ์นี้ประมาณ 1.8 ล้านไร่
หากเป็นเช่นนี้จริง พวกเราในนามผู้อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรที่ดินดังกล่าวยกให้กับพวกเราเกษตรกรไทยก่อน ที่เหลือจึงค่อยยกให้เขมรไปตามที่รัฐบาลต้องการไม่เป็นการณ์ดีกว่าหรือ รวมทั้งขอเชิญชวนเกษตรกรประชาชนคนไทยที่ไม่มีที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยเข้าไปจับจองพื้นที่ดังกล่าวตลอดแนวชายแดน เริ่มตั้งแต่ อ.น้ำยืน-น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, อ.กันทรลักษณ์-ขุนหาญ-ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ, อ.บัวเชด-กาบเชิง-พนมดงรัก จ.สุรินทร์, อ.บ้านกรวด-ละหานทราย-โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์, อ.ตาพระยา-โคกสูง-อรัญประเทศ-คลองหาด จ.สระแก้ว, อ.วังสมบูรณ์-สอยดาว -โป่งน้ำร้อน-มะขาม-บ่อไร่ จ.จันทบุรี และ อ.เมือง -คลองใหญ่ -เกาะกรูด จ.ตราด
นายวีระพล เผยอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาคนั้นได้แบ่งการรณรงค์ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่เพื่อลงพื้นที่เชิญชวนชาวอีสานทั้ง 19 จังหวัดให้ออกมาร่วมกันทวงคืนแผ่นดินไทย โดยสายแรกจะเริ่มจาก จ.ชัยภูมิ ไปต่อที่ จ.ขอนแก่น และจังหวัดในแถบอีสานเหนือ สายที่ 2 เริ่มจาก จ.มุกดาหาร ไล่ลงมายัง จ.ศรีสะเกษ และสายที่ 3 ซึ่งเป็นขบวนใหญ่เริ่มจาก จ.นครราชสีมา ต่อไปยัง จ.บุรีรัมย์, สุรินทร์ และศรีสะเกษ ก่อนไปสมทบกับขบวน "รวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสาน" ที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารวันที่ 17 ก.ย.เพื่อรอการมาสมทบของประชาชนจากทั่วประเทศในวันที่ 19 ก.ย.
จากนั้นประชาชนและเกษตรกรไทยทั้งหมดจะชุมนุมปักหลักอยู่ที่เขาพระวิหารจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการผลักดันทหาร และราษฎรชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ของประเทศไทย
"หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยทางกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาคได้เตรียมกำลังเกษตรกรประชาชนคนไทยไร้ที่ทำกินพร้อมที่จะบุกขึ้นไปยึดครองผืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทเขาพระวิหารทั้ง 4.6 ตร.กม.เพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินและอยู่อาศัย พร้อมผลักดันราษฎรกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่รอการปฏิบัติการของรัฐบาลอีกต่อไป " นายวีรพล กล่าว
**บุกทัพภาค2ถามเรื่องเสียดินแดน
ขณะที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายแพทย์ศุภพล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน และเครือข่ายสมัชชา จ.นครราชสีมา กว่า 20 คนได้เข้าพบ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อขอรับฟังรายละเอียดและสถานการณ์ที่ชัดเจนบนปราสาทเขาพระวิหาร โดยเฉพาะพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่มีกระแสข่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวประเทศไทยได้สูญเสียดินแดนให้กับฝ่ายกัมพูชาไปแล้ว
ทั้งนี้ พล.ท.วิบูลศักดิ์ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองอำนวยการความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กองทัพภาคที่ 2 โดยมี พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือน ทภ.2 และคณะ ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง โดยใช้เวลากว่า 2 ชม.เนื่องจากติดภารกิจ
โดยทางกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรบนเขาพระวิหาร ไม่ได้เป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ แต่ในส่วนสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยนั้นเชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของประเทศไทยฝ่ายกัมพูชาเองไม่มีสิทธิ์ในการอ้างสิทธิ์บนพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากศาลโลกได้ตัดสินเพียงว่าตัวปราสาทเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลกของฝ่ายกัมพูชาเท่านั้น ส่วนบริเวณโดยรอบยังเป็นของไทย
**ทัพหน้าปลุกประแสคนเมืองช้าง
วันเดียวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ถ.กรุงศรีนอก ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ประธานโครงรณรงค์ รวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสาน และคณะ ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ผู้ก่อตั้งเมืองสุรินทร์ และปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยตั้งแต่โบราณมาสู่ลูกหลานไทยและชาวสุรินทร์จวบจนปัจจุบัน
จากนั้นได้เคลื่อนขบวนรณรงค์ทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหารไปตามถนนสายสำคัญในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ โดยมีประชาชนให้ความสนใจตลอดเส้นทางที่ขบวนรณรงค์ผ่าน
นายเจริญ กล่าวย้ำว่า "หากรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาการบุกรุกยึดครองแผ่นดินไทยบริเวณเขาพระวิหารดังกล่าวพวกเราจะนำประชาชนและพลังมวลชนขบวนรวมใจไทยทวงคืนเขาพระวิหาร 19 จังหวัดภาคอีสานรวมทั้งชาวไทยทั่วประเทศ ขึ้นไปปักหลักอยู่อาศัยที่บริเวณพื้นที่บนเขาพระวิหารอย่างแน่นอน"
**"พธม.ใต้-เหนือ"นัดล้อหมุน18ก.ย.
ที่ จ.สงขลา พันธมิตรฯสงขลาได้รวมพลจัดขบวนพาหนะทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่หน้าลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟหาดใหญ่สู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ เพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมเดินทางทวงคืนผืนแผ่นดินเขาพระวิหาร โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนบริจาคเงินสมทบทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำหรับขบวนพันธมิตรฯสงขลา ได้นัดรวมตัวกันในวันที่ 17 ก.ย.นี้เวลา 13.00 น.ที่ลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนขบวนสู่จุดนัดรวมพลพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ที่อุทยานเขาพาง จ.ชุมพร และเคลื่อนขบวนสู่เขาพระวิหารในเวลา 24.00 น.วันที่ 18 ก.ย.ถึงจุดนัดหมายอุทยานปราสาทเขาพระวิหารในเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน
ในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯเชียงราย ต่างตื่นตัวในเรื่องนี้อย่างคึกคักเช่นกัน โดยนายสมาน ท่อทิพย์ ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯเชียงราย เผยว่า พวกเรามีแนวคิดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศด้วยเช่นกัน และมีกำหนดการเดินทางไป จ.ศรีษะเกษ เย็นวันที่ 18 ก.ย.นี้ เพื่อจะได้ทวงคืนดินแดนซึ่งเป็นของเราร่วมกับประชาชนทั่วประเทศ
**"สุเทพ"เตือน"พธม."ระวังซ้ำเติมชาติ
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯจะชุมนุมประท้วงที่เขาพระวิหารในวันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า ตนไม่แน่ใจว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะไปเพื่ออะไร ถ้าไปเพียงเพื่อแสดงออกถึงความรัก ความหวงแหนในแผ่นดินก็แสดงได้ แต่ต้องระมัดระวังอย่าไปกระทบกระทั่งกับฝ่ายเขมร ส่วนเรื่องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่เอามาพูดวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น ทั้ง 2 ประเทศตกลงกันแล้วว่าให้มีคณะกรรมการไปศึกษา ซึ่งเขาก็กำลังดำเนินการอยู่ เราไม่ควรเข้าไปวุ่นวายกับเขา ตนรู้ว่าทุกคนก็รักชาติบ้านเมือง ก็ช่วยกันดูแล อย่าไปซ้ำเติมชาติบ้านเมืองก็แล้วกัน
"พี่น้องประชาชนไม่ต้องออกแรงมาแสดงเอง เพราะรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศหาทางแก้ไขปัญหากันอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างจะไปทำตามอารมณ์ ทำตามหัวใจไม่ได้ เพราะใจคนมันวูบวาบเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้าของไทยกับกัมพูชานั้น ขณะนี้ลดลงไปเยอะแล้ว ดีขึ้นเยอะแล้ว"