ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้ว่าร.ฟ.ท.เน้นโปรโมทไม่สนความปลอดภัย ประกาศ 1 ต.ค. 52 ให้ประชาชนร่วมนั่งทดลองแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้ ทั้งๆที่ ระบบและพนักงานยังไม่พร้อม ขณะที่ตามเนื้องาน เดินรถเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเร็ว เม.ย.53 ชี้ปัญหาองค์กรเดินรถไม่ชัดเจน บุคลากรไม่ผ่านการอบรม เหตุ ICE ยังไม่รับรองระบบหวั่นเรื่องความปลอดภัย
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ว่า การก่อสร้างและการทดสอบระบบต่างๆ เป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยจะมีการเปิดทดสอบระบบอย่างเป็นทางในวันที่ 5 ธ.ค. 2552 เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน เม.ย. 2553
โดยวานนี้ (14 ก.ย.) นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวถึงโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ว่า จะเปิดให้ประชาชนทดลองนั่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2552 นี้ สัปดาห์ละ 1 วัน โดยจะให้ประชาชนขอรับตั๋วที่สำนักงานบริหารโครงการที่มักกะสัน หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ ร.ฟ.ท. โดยเป็นการเปิดทดลองถึงวันที่ 5 ธ.ค. 2552 จึงจะทดลองการเดินรถอย่างจริงจังและจะเปิดเดินรถเชิงพาณิชยฺในเดือนมี.ค. 2553
โดยขณะนี้งานโยธาคืบหน้า 99.9% งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลคืบหน้า 99.8%
ส่วนปัญหาการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นการทดสอบระบบการบริหารเดินรถ ร.ฟ.ท.จะดำเนินการเองไปก่อนและหากยังไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องบริษัทลูกได้ ก็อาจจะจ้าง บริษัท Deutsche Bahn International(DBI) จากเยอรมันซึ่งร.ฟ.ท.จ้างเป็นที่ปรึกษาด้านการเดินรถให้เป็นผู้บริหารการเดินรถชั่วคราว
แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนร่วมทดสอบระบบการเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ในวันที่ 1 ต.ค.52ได้ตามที่นายยุทธนาระบุหรือไม่ เนื่องจากจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยกับประชาชนด้วย ซึ่งจะต้องหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กำหนดเปิดทดลองนั่งได้เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้นซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกันในปัจจุบันที่มีการเดินรถให้กับคณะบุคคล เช่นคณะกรรมาธิการ เข้าร่วมอยู่แล้ว
ส่วนการเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ได้ จะต้องได้รับการรับรองจาก ที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (Independent safety and system Certification Engineer : ICE) ทั้งด้านระบบด้านความปลอดภัย หลังการเชื่อมต่อระบบ ( Integrate) ความพร้อมด้านบุคลากร องค์กรที่จะบริหารการเดินรถ และเอกสารและคู่มือประกอบการ Operate ทั้งหมดของโครงการซึ่งจากตารางงานส่วนที่เหลือโดยเฉพาะการอบรมพนักงานด้านปฎิบัติการคาดว่าสามารถเปิดได้เร็วที่สุดเดือน เม.ย. 2553
โดยในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกลุ่มกิจการร่วมค้า บี.กริมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ คืองานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาและการติดตั้งระบบรางและระบบไฟฟ้าเครื่องกล (E&M) รวมถึงการทดสอบการใช้งานของระบบ ความปลอดภัยของระบบ การเชื่อมต่อระบบทั้งหมดถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ตามสัญญากำหนดต้องเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 5 พ.ย. 2552 โดย ICE จะตรวจสอบและรับรองความสมบูรณ์แต่ยังไม่สามารถเปิดเดินรถได้ จนกว่า ICE จะรับรองในขั้นที่ 2 คือ ความพร้อมด้านบุคลากรซึ่งต้องผ่านการฝึกอบรมและทดสอบการปฎิบัติงาน , องค์กรบริหารการเดินรถ เอกสารและคู่มือประกอบการ Operate ทั้งหมด โดย บริษัทซีเมนส์จะเป็นผู้ฝึกอบรมในส่วนที่เป็นพื้นฐานในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ และการซ่อมบำรุง ดูแลรักษาระบบ ส่วน บริษัท Deutsche Bahn International(DBI) จากเยอรมันซึ่งร.ฟ.ท.จ้าง เป็นที่ปรึกษาด้านการเดินรถจะฝึกอบรมในด้านการเดินรถที่ปลอดภัยและระบบที่เกี่ยวกับการ Operate ทั้งหมด
“ความล่าช้าขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการก่อสร้างและการทดสอบระบบ แต่เป็นเรื่องบุคลากร และความพร้อมขององค์กรที่จะตั้งขึ้นเพื่อดูแลงานด้านปฎิบัติการเดินรถทั้งหมด ซึ่งเป็นปัญหาของร.ฟ.ท.เอง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ ส่วนการรับพนักงานนั้น ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้างสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการ ซึ่งแม้จะรับคนมาพร้อม ฝึกอบรมพร้อมแต่องค์กรที่จะบริหารไม่พร้อม ICE ก็ไม่รับรองอยู่ดี ”แหล่งข่าวกล่าว
นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ว่า การก่อสร้างและการทดสอบระบบต่างๆ เป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยจะมีการเปิดทดสอบระบบอย่างเป็นทางในวันที่ 5 ธ.ค. 2552 เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะเปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน เม.ย. 2553
โดยวานนี้ (14 ก.ย.) นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. กล่าวถึงโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ว่า จะเปิดให้ประชาชนทดลองนั่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2552 นี้ สัปดาห์ละ 1 วัน โดยจะให้ประชาชนขอรับตั๋วที่สำนักงานบริหารโครงการที่มักกะสัน หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ ร.ฟ.ท. โดยเป็นการเปิดทดลองถึงวันที่ 5 ธ.ค. 2552 จึงจะทดลองการเดินรถอย่างจริงจังและจะเปิดเดินรถเชิงพาณิชยฺในเดือนมี.ค. 2553
โดยขณะนี้งานโยธาคืบหน้า 99.9% งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลคืบหน้า 99.8%
ส่วนปัญหาการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นการทดสอบระบบการบริหารเดินรถ ร.ฟ.ท.จะดำเนินการเองไปก่อนและหากยังไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องบริษัทลูกได้ ก็อาจจะจ้าง บริษัท Deutsche Bahn International(DBI) จากเยอรมันซึ่งร.ฟ.ท.จ้างเป็นที่ปรึกษาด้านการเดินรถให้เป็นผู้บริหารการเดินรถชั่วคราว
แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนร่วมทดสอบระบบการเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ในวันที่ 1 ต.ค.52ได้ตามที่นายยุทธนาระบุหรือไม่ เนื่องจากจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยกับประชาชนด้วย ซึ่งจะต้องหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กำหนดเปิดทดลองนั่งได้เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้นซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกันในปัจจุบันที่มีการเดินรถให้กับคณะบุคคล เช่นคณะกรรมาธิการ เข้าร่วมอยู่แล้ว
ส่วนการเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ได้ จะต้องได้รับการรับรองจาก ที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (Independent safety and system Certification Engineer : ICE) ทั้งด้านระบบด้านความปลอดภัย หลังการเชื่อมต่อระบบ ( Integrate) ความพร้อมด้านบุคลากร องค์กรที่จะบริหารการเดินรถ และเอกสารและคู่มือประกอบการ Operate ทั้งหมดของโครงการซึ่งจากตารางงานส่วนที่เหลือโดยเฉพาะการอบรมพนักงานด้านปฎิบัติการคาดว่าสามารถเปิดได้เร็วที่สุดเดือน เม.ย. 2553
โดยในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกลุ่มกิจการร่วมค้า บี.กริมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ คืองานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาและการติดตั้งระบบรางและระบบไฟฟ้าเครื่องกล (E&M) รวมถึงการทดสอบการใช้งานของระบบ ความปลอดภัยของระบบ การเชื่อมต่อระบบทั้งหมดถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ตามสัญญากำหนดต้องเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 5 พ.ย. 2552 โดย ICE จะตรวจสอบและรับรองความสมบูรณ์แต่ยังไม่สามารถเปิดเดินรถได้ จนกว่า ICE จะรับรองในขั้นที่ 2 คือ ความพร้อมด้านบุคลากรซึ่งต้องผ่านการฝึกอบรมและทดสอบการปฎิบัติงาน , องค์กรบริหารการเดินรถ เอกสารและคู่มือประกอบการ Operate ทั้งหมด โดย บริษัทซีเมนส์จะเป็นผู้ฝึกอบรมในส่วนที่เป็นพื้นฐานในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ และการซ่อมบำรุง ดูแลรักษาระบบ ส่วน บริษัท Deutsche Bahn International(DBI) จากเยอรมันซึ่งร.ฟ.ท.จ้าง เป็นที่ปรึกษาด้านการเดินรถจะฝึกอบรมในด้านการเดินรถที่ปลอดภัยและระบบที่เกี่ยวกับการ Operate ทั้งหมด
“ความล่าช้าขณะนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการก่อสร้างและการทดสอบระบบ แต่เป็นเรื่องบุคลากร และความพร้อมขององค์กรที่จะตั้งขึ้นเพื่อดูแลงานด้านปฎิบัติการเดินรถทั้งหมด ซึ่งเป็นปัญหาของร.ฟ.ท.เอง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติเรื่องการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถแอร์พอร์ตลิ้งค์ ส่วนการรับพนักงานนั้น ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้างสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการ ซึ่งแม้จะรับคนมาพร้อม ฝึกอบรมพร้อมแต่องค์กรที่จะบริหารไม่พร้อม ICE ก็ไม่รับรองอยู่ดี ”แหล่งข่าวกล่าว
