เอเอฟพี - นักวิเคราะห์ชี้ ภูมิภาคเอเชียกำลังฟื้นตัวออกจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้อย่างเข้มแข็งยิ่งกว่าที่เคยคาดหมายกันไว้ โดยที่ในตลาดการจ้างงานของเอเชียนั้น พวกสถาบันการเงินต่างๆ กำลังกลับมาว่าจ้างพนักงานกันใหม่อย่างรวดเร็วกว่าเพื่อน
ขณะที่ภาวะการว่างงานโดยรวมยังคงกำลังเพิ่มสูงขึ้น 1 ปีหลังการล้มละลายของวานิชธนกิจยักษ์ใหญ่ "เลห์แมน บราเธอร์ส" ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2008 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดวิกฤตการทางการเงินและวิกฤตเศรษฐกิจไปทั่วโลก แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายรายชี้ว่า ภาคการเงินกลับกำลังสวนแนวโน้มดังกล่าวนี้
ไมค์ เกม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทบริการจัดหาบุคลากร "ฮัดสัน" ซึ่งมีฐานในฮ่องกงระบุว่า สิ่งที่กำลังได้เห็นอยู่มีความสดใสมากจนเขาคิด ว่ามันคือการฟื้นตัว โดยเฉพาะกิจกรรมในจีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีสัญญาณของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในสิงคโปร์
ทางด้านแมตธิว ฮอยล์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท "เอ็มเอชเอฟเอ็ม" ที่มีหน้าที่จัดหาบุคลากรเข้าทำงานให้แก่ภาคการธนาคาร และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ในฮ่องกง ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเอเชียในช่วงขาลงของเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมานั้น คือ การที่บริษัทจำนวนมากในภูมิภาคนี้ไม่เต็มใจที่จะสูญเสียบุคลากรของตนออกไป แต่เวลานี้บรรดาผู้ที่ถูกเลิกจ้างในช่วงก่อนหน้านี้ก็เริ่มกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง และธุรกิจของพวกบริษัทบริการจัดหาบุคลากรในเวลานี้ก็มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 เท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน
ด้านข้อมูลตัวเลขการจ้างงานของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงก็ระบุว่า แม้อัตราการจ้างงานในภาคการเงิน ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 0.4 จากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน หรือคิดเป็นตำแหน่งงานเกือบ 700 ตำแหน่ง
พวกนักวิเคราะห์บอกว่า สถาบันการเงินต่างๆ ที่ดำเนินงานในฮ่องกง ได้ยุติการจ้างงานโดยสิ้นเชิงในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ก่อนที่จะเริ่มหาคนเข้ามาลงในตำแหน่งสำคัญๆ ที่ว่างอยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นปีนี้ แล้วจากนั้นจึงหาคนเพิ่มเข้ามาอีก เพื่อรองรับความต้องการของงานที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสอง
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า เอชเอสบีซี กำลังระดมพนักงานเพิ่มขึ้นกว่า 100 ตำแหน่งในฮ่องกง ขณะที่ในแผ่นดินใหญ่จีนนั้นวางแผนจะเพิ่มถึง 1,000 ตำแหน่งในปีนี้ และปีหน้าก็คาดว่าจะรับคนในจำนวนใกล้เคียงกัน
ตำแหน่งงานที่รับเข้ามาเหล่านี้ส่วนใหญ่ทีเดียวเป็นตำแหน่งที่ได้ยุบเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่ เอียน สตรุตตัน ผู้บริหารของแมนพาวเวอร์ โปรเฟสชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทบริการจัดหาบุคลากรชั้นนำอีกแห่งหนึ่งในฮ่องกง ก็ออกมาเปิดเผยว่า ร้อยละ 20 เป็นการขยายตำแหน่งใหม่ๆ
"โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ยอมรับกันว่า เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยย่างกรายเข้ามา ภาคบริการทางการเงินนี่แหละจะเป็นภาคแรกที่แสดงปฏิกิริยารับมือและตัดลดการลงทุน และเมื่อเศรษฐกิจเริ่มที่จะฟื้นตัว ภาคนี้อีกเหมือนกันที่จะเริ่มต้นการลงทุนอีกครั้ง และพวกเขาก็จะทำเรื่องนี้อย่างรวดเร็วด้วย" เขาบอก
ทางด้าน แลนซี สุย ผู้จัดการใหญ่ประจำฮ่องกงและมาเก๊าของแมนพาวเวอร์ โปรเฟสชันแนล กล่าวเสริมว่า บริษัทกำลังเห็นว่า พวกลูกค้ามีความต้องการบุคลากรในด้านการธนาคารลูกค้าบรรษัทกันมากขึ้น ยิ่งทางด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่ง ก็เป็นที่ต้องการกันมากเป็นพิเศษ
ขณะที่ภาวะการว่างงานโดยรวมยังคงกำลังเพิ่มสูงขึ้น 1 ปีหลังการล้มละลายของวานิชธนกิจยักษ์ใหญ่ "เลห์แมน บราเธอร์ส" ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2008 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เกิดวิกฤตการทางการเงินและวิกฤตเศรษฐกิจไปทั่วโลก แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายรายชี้ว่า ภาคการเงินกลับกำลังสวนแนวโน้มดังกล่าวนี้
ไมค์ เกม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทบริการจัดหาบุคลากร "ฮัดสัน" ซึ่งมีฐานในฮ่องกงระบุว่า สิ่งที่กำลังได้เห็นอยู่มีความสดใสมากจนเขาคิด ว่ามันคือการฟื้นตัว โดยเฉพาะกิจกรรมในจีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีสัญญาณของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในสิงคโปร์
ทางด้านแมตธิว ฮอยล์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท "เอ็มเอชเอฟเอ็ม" ที่มีหน้าที่จัดหาบุคลากรเข้าทำงานให้แก่ภาคการธนาคาร และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ ในฮ่องกง ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเอเชียในช่วงขาลงของเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมานั้น คือ การที่บริษัทจำนวนมากในภูมิภาคนี้ไม่เต็มใจที่จะสูญเสียบุคลากรของตนออกไป แต่เวลานี้บรรดาผู้ที่ถูกเลิกจ้างในช่วงก่อนหน้านี้ก็เริ่มกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง และธุรกิจของพวกบริษัทบริการจัดหาบุคลากรในเวลานี้ก็มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 เท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน
ด้านข้อมูลตัวเลขการจ้างงานของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงก็ระบุว่า แม้อัตราการจ้างงานในภาคการเงิน ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 0.4 จากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน หรือคิดเป็นตำแหน่งงานเกือบ 700 ตำแหน่ง
พวกนักวิเคราะห์บอกว่า สถาบันการเงินต่างๆ ที่ดำเนินงานในฮ่องกง ได้ยุติการจ้างงานโดยสิ้นเชิงในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ก่อนที่จะเริ่มหาคนเข้ามาลงในตำแหน่งสำคัญๆ ที่ว่างอยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นปีนี้ แล้วจากนั้นจึงหาคนเพิ่มเข้ามาอีก เพื่อรองรับความต้องการของงานที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไตรมาสสอง
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า เอชเอสบีซี กำลังระดมพนักงานเพิ่มขึ้นกว่า 100 ตำแหน่งในฮ่องกง ขณะที่ในแผ่นดินใหญ่จีนนั้นวางแผนจะเพิ่มถึง 1,000 ตำแหน่งในปีนี้ และปีหน้าก็คาดว่าจะรับคนในจำนวนใกล้เคียงกัน
ตำแหน่งงานที่รับเข้ามาเหล่านี้ส่วนใหญ่ทีเดียวเป็นตำแหน่งที่ได้ยุบเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่ เอียน สตรุตตัน ผู้บริหารของแมนพาวเวอร์ โปรเฟสชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทบริการจัดหาบุคลากรชั้นนำอีกแห่งหนึ่งในฮ่องกง ก็ออกมาเปิดเผยว่า ร้อยละ 20 เป็นการขยายตำแหน่งใหม่ๆ
"โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ยอมรับกันว่า เมื่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยย่างกรายเข้ามา ภาคบริการทางการเงินนี่แหละจะเป็นภาคแรกที่แสดงปฏิกิริยารับมือและตัดลดการลงทุน และเมื่อเศรษฐกิจเริ่มที่จะฟื้นตัว ภาคนี้อีกเหมือนกันที่จะเริ่มต้นการลงทุนอีกครั้ง และพวกเขาก็จะทำเรื่องนี้อย่างรวดเร็วด้วย" เขาบอก
ทางด้าน แลนซี สุย ผู้จัดการใหญ่ประจำฮ่องกงและมาเก๊าของแมนพาวเวอร์ โปรเฟสชันแนล กล่าวเสริมว่า บริษัทกำลังเห็นว่า พวกลูกค้ามีความต้องการบุคลากรในด้านการธนาคารลูกค้าบรรษัทกันมากขึ้น ยิ่งทางด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่ง ก็เป็นที่ต้องการกันมากเป็นพิเศษ