ศูนย์ข่าวขอนแก่น-คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่นปัดรับเรื่องร้องเรียนกรณีค้าปลีกย่อยถูกนายทุนค้าปลีกยักษ์ เทสโก้ โลตัส ถือความได้เปรียบเหนือตลาดบุกชิงแชร์ตลาดถึงถิ่น แจงเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนต่อเอกชน อยู่นอกกรอบการปฏิบัติหน้าที่ แต่แนะร้องเรียนตรวจสอบผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นได้ หากพบข้อมูลเซ็นอนุญาตให้ตั้งสาขาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น(กธจ.)เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา นายไพโรจน์ สุวรรณจันทร์ดี เลขาธิการหอการค้าจังหวัดขอนแก่นในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่นได้เสนอข้อเรียกร้องกรณีชมรมผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบอาชีพอิสระจังหวัดขอนแก่นได้รับผลกระทบจากการรุกเปิดสาขายย่อยของห้างเทสโก้ โลตัสเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อให้พิจารณาช่วยเหลือลดความเดือดร้อน แต่คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดปฏิเสธที่จะรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ หนึ่งในคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลที่ไม่สามารถรับหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากชมรมผู้ค้าปลีกฯดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นประเด็นปัญหาที่อยู่นอกเหนือกรอบระเบียบการทำหน้าที่ของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ซึ่งตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำหนดบทบาทของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดหรือ กธจ.ไว้เพียงแค่การติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและสมาชิกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่มีข้อร้องเรียนกรณีมีพฤติกรรมประพฤติมิชอบและกระทำการอันใดที่เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เท่านั้น
ดังนั้น ข้อร้องเรียนกรณีความเดือดร้อนของชมรมผู้ประกอบการค้าปลีกฯขอนแก่น ที่เสนอขอความช่วยเหลือมานั้น จึงเกินกรอบอำนาจของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด จะดำเนินการใดๆได้ เพราะเป็นกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างภาคเอกชนคือผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย และบริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่ การปฏิเสธรับหนังสือร้องทุกข์ของชมรมค้าปลีกฯครั้งนี้ จึงมีความชอบธรรมตามระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
แม้จะไม่สามารถช่วยเหลือโชวห่วยได้ แต่นายวิฑูรย์ระบุว่า ประเด็นปัญหาความเดือดร้อนที่กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นได้รับจากการเข้ามาเปิดสาขาของกลุ่มทุนค้าปลีกรายใหญ่ในพื้นที่ กลุ่มผู้เดือดร้อนสามารถยื่นหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดได้เช่นกัน ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็น เทศบาล หรืออบต.ใดก็ตามที่ลงนามอนุญาตให้ห้างค้าปลีกใหญ่เหล่านั้นตั้งสาขาโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ผ่านขั้นตอนกระบวนการที่ถูกต้อง
กรณีนี้ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมีอำนาจเต็มที่ ที่จะเชิญผู้บริหารท้องถิ่นนั้นๆมาสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับตรวจสอบข้อมูลพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อรายงานข้อเท็จจริงต่อหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อดำเนินการขั้นต่อไป หากพบว่ามีมูลตามที่ถูกร้อง ผู้บริหารเทศบาลหรืออบต.รายนั้น ก็มีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายวิฑูรย์กล่าวว่า คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ประชาชนสามารถร้องเรียนให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานโดยมิชอบของบรรดาข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและบรรดาผู้บริหารหรือสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกเหนือจากช่องทางร้องเรียนอื่นๆที่มีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดจะไม่มีอำนาจในการกล่าวโทษเอาผิดบุคคลผู้ถูกร้องเรียน เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จและพบว่ามีมูลความผิดจริง ต้องรายงานผลการตรวจสอบต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ทั้งนี้ ภายใน 30 วัน ผู้ว่าฯต้องทำหนังสือตอบกลับมาว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อผู้ถูกกล่าวหารายนั้นๆ หากภายใน 30 วันไม่มีหนังสือตอบกลับจากผู้ว่าฯ คณะกรรมการธรรมาภิบาลต้องทำรายงานเสนอตรงไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น(กธจ.)เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา นายไพโรจน์ สุวรรณจันทร์ดี เลขาธิการหอการค้าจังหวัดขอนแก่นในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่นได้เสนอข้อเรียกร้องกรณีชมรมผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบอาชีพอิสระจังหวัดขอนแก่นได้รับผลกระทบจากการรุกเปิดสาขายย่อยของห้างเทสโก้ โลตัสเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อให้พิจารณาช่วยเหลือลดความเดือดร้อน แต่คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดปฏิเสธที่จะรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ หนึ่งในคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลที่ไม่สามารถรับหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากชมรมผู้ค้าปลีกฯดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นประเด็นปัญหาที่อยู่นอกเหนือกรอบระเบียบการทำหน้าที่ของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ซึ่งตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีได้กำหนดบทบาทของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดหรือ กธจ.ไว้เพียงแค่การติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและสมาชิกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่มีข้อร้องเรียนกรณีมีพฤติกรรมประพฤติมิชอบและกระทำการอันใดที่เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 เท่านั้น
ดังนั้น ข้อร้องเรียนกรณีความเดือดร้อนของชมรมผู้ประกอบการค้าปลีกฯขอนแก่น ที่เสนอขอความช่วยเหลือมานั้น จึงเกินกรอบอำนาจของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด จะดำเนินการใดๆได้ เพราะเป็นกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างภาคเอกชนคือผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย และบริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่ การปฏิเสธรับหนังสือร้องทุกข์ของชมรมค้าปลีกฯครั้งนี้ จึงมีความชอบธรรมตามระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
แม้จะไม่สามารถช่วยเหลือโชวห่วยได้ แต่นายวิฑูรย์ระบุว่า ประเด็นปัญหาความเดือดร้อนที่กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นได้รับจากการเข้ามาเปิดสาขาของกลุ่มทุนค้าปลีกรายใหญ่ในพื้นที่ กลุ่มผู้เดือดร้อนสามารถยื่นหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดได้เช่นกัน ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็น เทศบาล หรืออบต.ใดก็ตามที่ลงนามอนุญาตให้ห้างค้าปลีกใหญ่เหล่านั้นตั้งสาขาโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ผ่านขั้นตอนกระบวนการที่ถูกต้อง
กรณีนี้ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมีอำนาจเต็มที่ ที่จะเชิญผู้บริหารท้องถิ่นนั้นๆมาสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับตรวจสอบข้อมูลพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อรายงานข้อเท็จจริงต่อหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อดำเนินการขั้นต่อไป หากพบว่ามีมูลตามที่ถูกร้อง ผู้บริหารเทศบาลหรืออบต.รายนั้น ก็มีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายวิฑูรย์กล่าวว่า คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ประชาชนสามารถร้องเรียนให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานโดยมิชอบของบรรดาข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและบรรดาผู้บริหารหรือสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกเหนือจากช่องทางร้องเรียนอื่นๆที่มีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดจะไม่มีอำนาจในการกล่าวโทษเอาผิดบุคคลผู้ถูกร้องเรียน เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จและพบว่ามีมูลความผิดจริง ต้องรายงานผลการตรวจสอบต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
ทั้งนี้ ภายใน 30 วัน ผู้ว่าฯต้องทำหนังสือตอบกลับมาว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อผู้ถูกกล่าวหารายนั้นๆ หากภายใน 30 วันไม่มีหนังสือตอบกลับจากผู้ว่าฯ คณะกรรมการธรรมาภิบาลต้องทำรายงานเสนอตรงไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
