น้ำมันลดราคาดันตลาดรถกระบะขอนแก่นฟื้นตัว

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตลาดกระบะขอนแก่นฟื้นหลังราคาน้ำมันดีเซล ลดฮวบจากลิตรละ 44 บาท เหลือ 25 บาท/ลิตร ชี้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น ด้านผู้ค้ารายใหญ่ “โตโยต้าขอนแก่น” มั่นใจเปิดตัววีโก้สมาร์ทแค็บใหม่ ถูกที่ถูกเวลา ระบุแค็บเปิดได้ ตอบรับพฤติกรรมลูกค้าต่างจังหวัด มุ่งใช้กระบะแบบเก๋ง ผสานจุดแข็งแบรนด์ และศูนย์บริการครอบคลุม เสริมจุดแข็งดันยอดขายโตโยต้าครองเจ้าตลาดกระบะและตลาดรถรวมเมืองหมอแคนได้อีกสมัย

รถยนต์กระบะ ผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้ใช้รถจังหวัดขอนแก่น สัดส่วนยอดขายในรอบหลายปีที่ผ่านมามากกว่า 80% เป็นรถยนต์กระบะ แต่สถานการณ์ตลาดกระบะช่วงครึ่งแรกปี 2551 ที่เพิ่งผ่านมา กลับเป็นช่วงมรสุมกระหน่ำตลาดกระบะ จังหวัดขอนแก่นและทั่วประเทศ มียอดขายทรุดตัวอย่างรุนแรงในรอบหลายปี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กระบะที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ จะมียอดขายลดลงมากกว่ากระบะที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า

ปัจจัยหลักที่กระทบตลาดกระบะ มาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเคยปรับขึ้นไปสูงถึง 44 บาท/ลิตร ที่สำคัญยังเป็นราคาที่สูงกว่าน้ำมันเบนซิน เป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับผู้ใช้รถกระบะ ส่งผลโดยตรงกับยอดขายกระบะใหม่ตกลง ทั้งยังไปเพิ่มสัดส่วนยอดขายรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่มีราคาใกล้เคียงกันมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกช่วงปลายไตรมาส 3 ปรับลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาค้าปลีกน้ำมันในจังหวัดขอนแก่นปรับลดลงเช่นกัน ล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลจังหวัดขอนแก่นปรับลดเหลือที่ลิตรละ 24.38 บาท หรือลดลงเกือบ 50% จากราคาที่เคยปรับขึ้นสูงสุด นับเป็นข่าวดีของสังคมไทย โดยเฉพาะในธุรกิจค้ารถยนต์

นายกมลพงศ์ สงวนตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าขอนแก่น ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ถึงตลาดรถยนต์จังหวัดขอนแก่น ณ ปัจจุบันว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลงอย่างต่อเนื่อง ระดับราคาขายปลีกน้ำมันที่จังหวัดขอนแก่น ปรับลดใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นระดับราคาน้ำมันที่ประชาชนผู้ใช้รถยนต์ยอมรับได้ ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ในจังหวัดขอนแก่น ทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเกิดความเชื่อมั่น ต่อการซื้อรถยนต์ไว้ใช้งานยิ่งขึ้น

ช่วงเผชิญน้ำมันแพง กลุ่มรถกระบะได้รับผลกระทบมาก นอกจากทำให้ยอดขายกระบะทรุดแล้ว ยังมีผู้ใช้รถจำนวนมาก นำกระบะไปเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ซื้อจากเซียงกง พร้อมติดตั้งระบบใช้แก๊ส LPG หาทางออกจากปัญหาน้ำมันแพง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุดได้ไม่คุ้มเสีย เพราะประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องยนต์เบนซินไม่เหมาะฉุดลากบรรทุกแบบกระบะ

“โตโยต้าขอนแก่น ทำงานเชิงรุกเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ถึงประสิทธิภาพและจุดเด่นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล สื่อให้ผู้ใช้รถเข้าใจถูกต้อง ทั้งในแง่คุณสมบัติการใช้งานเครื่องยนต์ดีเซล เหมาะใช้ฉุดลากแบบกระบะ รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีเซลต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซินมาก และค่าบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งานต่ำกว่า หลายปัจจัยที่กล่าวมา โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นประชาชน ต่อตลาดรถยนต์กระบะปรับตัวดีขึ้น”นายกมลพงศ์ กล่าว และว่า

ที่สำคัญระยะน้ำมันเริ่มปรับลงนี้ โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวกระบะวีโก้ สมาร์ทแค็บใหม่ ในรูปแบบไมเนอร์เชนจ์ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือ กระบะแค็บเปิดได้ หรือสมาร์ทแค็บ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์กระบะค่ายอื่นในตลาด ทำให้กระบะวีโก้ ใหม่ มีความน่าสนใจกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หลังจากที่กระบะวีโก้ทำตลาดมานานกว่า 5 ปี เสริมความแข็งแกร่งในการรุกตลาดกระบะของโตโยต้าปี 2551

นายกมลพงศ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาเป็นกระบะแค็บเปิดได้ เป็นจุดเด่นและจุดขายหลักของวีโก้ใหม่ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถในจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานกระบะของผู้ใช้รถต่างจังหวัด ใช้รถกระบะเป็นทั้งบรรทุกและเป็นรถยนต์นั่งคันเดียวกัน แค็บที่เปิดได้กว้างถึง 92 องศา จะอำนวยความสะดวกต่อผู้โดยสารขึ้นลงสะดวก ตรงกับความต้องการตลาดปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน วีโก้ ใหม่ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นในหลายจุด ทั้งระบบช่วงล่าง ขยายกรอบล้อเป็น 16 นิ้ว เพิ่มขนาดดิสก์เบรกหน้าเป็น 15 นิ้ว ผนวกกับจุดเด่นของระบบเครื่องยนต์คอมมอนเรล ที่ให้ความประหยัดและอัตราเร่งที่ดี พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัย ด้วยโครงสร้างตัวถัง GOA ที่เลื่องชื่อของโตโยต้า และศูนย์บริการมากที่สุดในประเทศ น่าจะได้รับการตอบรับสูงเช่นเคย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า วีโก้ สมาร์ทแค็บ ซึ่งเป็นแค็บเปิดได้ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการทำตลาดกระบะวีโก้ 4 ประตู เพราะการทำตลาดจับกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม โดยกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานเน้นหนักโดยสารเป็นหลัก จะเลือกกระบะ 4 ประตูใช้งาน ส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้งานโดยสารตอนหลังมากนักและเน้นใช้งานอเนกประสงค์จะเลือกสมาร์ทแค็บ การจับตลาดของทั้งสองผลิตภัณฑ์จึงแตกต่างกันชัดเจน

กลยุทธ์การรุกตลาด โตโยต้าขอนแก่นฯ จะชูจุดแข็งอรรถประโยชน์ของสมาร์ทแค็บ สื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับ เชื่อว่าจะสร้างโอกาสและง่ายต่อการตัดสินใจเลือก โดยสถานการณ์ตลาดกระบะขอนแก่นปี 51 แม้จะชะลอตัวมาเป็นเวลาหลายเดือน แต่ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย เชื่อว่าวีโก้สมาร์ทแค็บจะเป็นรถธงในการรุกทวงยอดขาย และสร้างยอดขายให้โตโยต้า ครองแชมป์กระบะ และยอดขายรวมในจังหวัดขอนแก่นได้อีกสมัยแน่นอน

ส่วนตลาดรถยนต์นั่ง แม้ว่าในปี 51 นี้ แบรนด์โตโยต้า จะไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมารับมือการแข่งขัน แต่ยอดขายรถยนต์นั่งในหลายเซกเมนต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่มีโตโยต้าวีออส มียอดขายสะสมทิ้งห่างคู่แข่งไว้มาก คาดว่าโตโยต้าจะสามารถรักษาแชมป์ยอดขายรถยนต์นั่งในจังหวัดขอนแก่นได้เช่นกัน