ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “พงศกร เหิมเกริม” เกณฑ์ม็อบจัดตั้งหนุน "สมัคร" นั่งนายกฯต่อ เหิมหนักทำหุ่นฟางรูปควายและโลงศพเขียนป้ายศาลรัฐธรรมนูญ หวังเผาพร้อมหุ่นตุลาการและแกนนำพันธมิตรฯ แต่เกิดปาฏิหาริย์ฝนกระหน่ำเฉพาะบริเวณศาลากลางขอนแก่น แต่แกนนำม็อบยังดื้อใช้เบนซินราดจุดไฟเผาใหม่ ก่อนชาวบ้านแตกกระจายหลังฟ้าเปิดแดดจัดไล่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (10 ก.ย.) ตัวแทนชาวบ้านจากอำเภอต่างๆในจังหวัดขอนแก่นมารวมตัวชุมนุม ประกาศขอสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ โดยมีนายสงกรานต์ นาแปงถา เป็นแกนนำ อ้างว่าเป็นชมรมผู้รักประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น และนายสุนทร สิงสา อดีตกำนันอบต.เมืองเก่า ขอนแก่น นายอดุลย์ คามดิษฐ์ สจ.อ.ชนบท เป็นแกนนำสลับกันปราศรัยบนรถขยายเสียง นำชาวบ้านโดยมีป้ายผ้าระบุ เป็นองค์กรครูวิชาชีพ จ.ขอนแก่น และบรรดาสมาชิกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นขอนแก่น
ตลอดจนชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่น กว่า 2,000 คน เคลื่อนขบวนทั้งเดินเท้าและใช้รถกระบะ เคลื่อนจากบริเวณศาลหลักเมืองไปยังศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
โดยแกนนำที่ขึ้นปราศรัย ได้ประกาศตลอดทางที่แคลื่อนขบวน จนมาถึงศาลากลางจังหวัดขอนแก่นว่า จะเผาหุ่นและโลงศพนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพลตรี จำลองศรีเมือง ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพันธมาร ที่ทำให้รัฐบาลเดือดร้อน โดยเมื่อผู้ชุมนุมมาถึงบริเวณสนามหญ้า หน้าศาลากลางจังหวัด ปรากฏว่าแกนนำได้ประกาศอย่างเหิมเกริมถึงการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่ชอบธรรม โดยอ้างว่าชาวขอนแก่น 1.2 ล้านคน ที่เลือกพรรคพลังประชาชนนั้น ทุกคะแนนเสียง ยังต้องการสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม
จากนั้นแกนนำม็อบได้นำหุ่นฟางที่ทำเป็นรูปควาย ซึ่งเขียนชื่อ ศาลรัฐธรรมนูญติดไว้ และยังมีหุ่นฟางรูปคนเขียนป้าย ตุลาการ และพันธมิตร และทำโลงศพไม้อัด เขียนข้อความว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ มรณะ 9 ก.ย. 2551” มาวางไว้ บริเวณลานด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชการที่ 5 ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าตึกศาลากลางจังหวัดขอนแก่น พร้อมประกาศว่าจะเผาหุ่นและโลงศพ เพื่อแสดงถึงการเรียกร้องที่จะสนับสนุนนายสมัคร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ
แต่ปรากฏว่าเกิดฝนเทกระหน่ำลงมาทันที ทำให้ผู้มาชุมนุมวิ่งหนีไปหลบฝนตามใต้อาคาร และร่มไม้ แต่แกนนำได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเรียกชาวบ้าน และสื่อมวลชนเข้าไปร่วมพิธี โดยอ้างว่าเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ แต่หุ่นฟางและโลงศพถูกน้ำฝน ทำให้ไม่สามารถจุดไฟได้ แกนนำจึงใช้น้ำมันเบนซินเทราดลงบนหุ่นฟางและโลงศพจำนวนมาก และจุดไฟเผา
พร้อมยื่นหนังสือแถลงการณ์สนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยใต้หนังสือลงชื่อว่า พี่น้องประชาชนชาวขอนแก่น ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น โดยมีนานกฤษเพชร ศรีปาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มารับหนังสือแทน
จากนั้นฝนได้หยุดตกและท้องฟ้าเปิด และแดดจัดมาก ชาวบ้านต่างเดินทะยอยไปขึ้นรถกระบะที่นั่งมา เพื่อหลบแดดและทยอยเดินทางกลับ
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พบคนใกล้ชิดนายพงศกร อรรนพพร รมช.ศึกษาธิการ และคนใกล้ชิด นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่นพรรคพลังประชาชน หลบอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อเบ็นซ์ ใกล้ๆ บริเวณที่ชุมนุม เมื่อเห็นมีสื่อมวลชน จะเข้าถ่ายภาพ จึงสั่งให้คนขับรถถอยรถหลบออกไป สื่อมวลชนหลายสำนักระบุพ้องกันว่าภายในรถยนต์คันดังกล่าวมีนายพงศกรนั่งอยู่
สำหรับผู้ร่วมชุมนุมครั้งนี้ส่วนใหญ่ชาวบ้านใส่เสื้อแดงและถือป้ายผ้าที่เขียนด้วยข้อความอาทิ “คนขอนแก่นไม่ต้องการใครเป็นนายก นอกจากนายสมัคร” และ “คนขอนแก่นต้องการให้นายสมัครกลับเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ” เป็นต้น อีกทั้งมีป้ายผ้าจำนวนหนึ่งเขียนข้อความด่าโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเคลื่อนย้ายขบวนของผู้ชุมนุมเข้าไปภายในศาลากลางได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้เข้มงวดการใช้สถานที่เป็นที่ชุมนุม ประตูทางเข้าฝั่งตะวันตกด้านสำนักงานองค์การโทรศัพท์ถูกปิดล๊อคทั้งกลางวันกลางคืนตั้งแต่วันที่พันธมิตรเป่านกหวีด วันที่ 26 ส.ค.เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ผู้ที่มาสังเกตุการณ์ต่างวิเคราะห์ว่าจู่ๆ ฝนตกลงมาอย่างหนักก่อนที่แกนนำม็อบหนุนสมัครจะเริ่มจุดไฟเผา เป็นเสมือนปาฏิหาริย์ ด้วยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ไม่ต้องการให้คนไทย กระทำสิ่งที่ผิดต่อชาติบ้านเมือง