xs
xsm
sm
md
lg

"แดงกัดกัน"ทวงหนี้เลือกตั้งซ่อม ดาวร้าย"เมธี"เดือดแทนนายอัดยับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ศึกวันแดงเดือด! ผอ.ศูนย์เลือกตั้งสุราษฎร์พรรคเพื่อไทย เข้ากรุงมาทวงถามเงินที่ช่วยในการใช้หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เบ็ดเสร็จ 8 แสนบาท แต่ถูกปฏิเสธทั้งจากผู้สมัคร โฆษกพรรค และเลขาธิการพรรค ใจร้อนคว้าไมค์ที่ติดเครื่องขยายเสียงบนรถฉีกหน้าจวกพรรคเละตุ้มเป๊ะหน้าที่ทำการพรรค ดาวร้าย “เมธี” ที่เคยขึ้นเวทีเสื้อแดงลงมารัวหมัดใส่ไม่ยั้ง จนหัวแตกเย็บ 3 เข็ม เจ้าตัวเผย เคยดูจากทางดีทีวีนึกว่าเป็นคนดี ด้านตำรวจระบุหลักฐานจากภาพผิดชัดเจน เตรียมเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา "ยงยุทธ"สุดทนเตรียมทิ้งหน.พท.

เวลา10.40 น. วานนี้ (8ก.ย.) กลุ่มผู้ประกอบการจัดทำสื่อหาเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดยนายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งซ่อมเขต 1 จ.สุราษฎร์ธานี พรรคเพื่อไทยและนายรังสรรค์ มธุระเมธาวี เลขาฯศูนย์ พร้อมคณะประมาณ 10 คน ได้นำรถตู้ติดเครื่องขยายเสียงพร้อมแขวนป้ายข้อความ “แพ้แล้วหนี หนี้ไม่จ่าย” มาปราศรัยอยู่ที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยนายอดิศราช กล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโดยมีเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการทวงเงินที่พรรคเพื่อไทย ค้างจ่ายให้กับกลุ่มผู้ประกอบการผลิตสื่อจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต1 สุราษฎรธานี เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่พรรคเพื่อไทยส่งนายสมพล วิชัยดิษฐ น้องชายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าว แต่พ่ายแพ้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์

ด้านนายรังสรรค์เปิดเผยว่า การว่าจ้างจัดทำสื่อหาเสียงนั้น นส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เดินทางไปติดต่อด้วยตัวเอง แต่หลังการเลือกตั้งผ่านไป ตนพยายามประสานไปยังน.ส.สุนีย์ และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยรวมถึงนายสมพลเพื่อให้ดำเนินการจ่ายเงินที่พรรคยังค้างชำระผู้ประกอบการอยู่ประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งเป็นค่าผลิตป้ายติดรถแห่ โปสเตอร์เล็ก ใบปลิว ค่าเวทีปราศรัยใหญ่ ค่าน้ำ และค่าไฟ ซึ่งพวกตนเคยมาทวงถามถึงที่ทำการพรรคแล้วถึง 2 ครั้งแต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นางอุไร วิชัยดิษฐ ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 1 ในผู้ที่เดินทางมาทวงเงินที่พรรคยังค้างชำระอยู่ด้วย กล่าวว่า ได้มีการสอบถามกับทางพรรคแล้ว โดยได้รับการชี้แจงว่า พรรคได้โอนเงินจำนวน 4 แสนบาท ไปให้กับนายภิญญา ช่วยปลอด อดีต ส.ว.สุราษฎร์ธานีแล้ว ซึ่งเมื่อสอบถามไปที่นายภิญญา ก็ได้รับการชี้แจงว่า ได้รับเงินมาแล้วจริง และได้จ่ายเป็นค่าป้ายต่างๆไปแล้ว แต่เมื่อสอบถามทางนายอดิศราช กลับได้รับการยืนยันว่า พรรคยังค้างชำระอยู่ ทำให้เกิดความสงสัยว่า เงินจำนวน 4 แสนบาทดังกล่าวหายไปไหน

**ดาราเสื้อแดงสวมบทดาวร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอดิศราช กำลังกล่าวปราศรัยอยู่ที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยนั้น ปรากฎว่านายเมธี อมรวุฒิกุล นักแสดง และนายแบบ ซึ่งเคยขึ้นเวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง และเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทยหลายครั้ง ได้เดินตรงเข้าไปเพื่อกระชากไมค์ โดยได้จิ้มนิ้วชี้เข้าที่หน้าอกของนายอิศราช พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “ทำแบบนี้ทำไม ใครจ้างมา ถ้ามีปัญหากับใครควรทำเป็นรายบุคคล ไม่ควรมาด่าทั้งพรรค นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ มีจุดประสงค์อะไร” นายอดิศราช จึงชี้แจงว่า ตนและพวกไม่ได้มาก่อกวน แต่เป็นเจ้าหนี้เพื่อมาทวงเงินเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นายเมธี ได้กระทุ้งเข้าที่ท้องของนายอดิศราช 1 ครั้ง ก่อนที่จะต่อด้วยหมัดซ้ายเข้าที่ใบหน้านายอดิศราช ทำให้นายอดิศราช ร่วงลงจากบันได ไปติดกับรถปราศรัยที่นำมา แต่ปรากฎว่า นายเมธีไ ด้ตามเข้าไปปล่อยหมัดซ้ายอีก 1 หมัด แต่ไม่ถูก ก่อนที่จะรัวหมัดขวา เข้าที่ท้องของนายอดิศราช อีก 3 หมัด จนนายอดิศราชถึงกับตัวงอก่อนที่จะถอยห่างออกไป ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาสื่อมวลชนเจ้าหน้าที่ ของพรรค และประชาชนในละแวกนั้น

**เจ้าหนี้ ยัน แจ้งความ"เมธี"

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากนั้นนายเมธี ได้เดินเข้าไปในพรรคเพื่อไทย และเข้าไปสงบสติอารมณ์ที่ศูนย์สำนักงานปราบโกงของพรรค ก่อนที่จะขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนของที่ทำการพรรค อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพบาดแผลของนายอดิศราช ที่อยู่ในอาการตกใจนั้น พบว่ามีเลือดไหลออกจากศรีษะ ข้อมือแขนด้านซ้ายมีรอยขูดขีดจนเลือดซิบ และนาฬิกาสูญหายไป 1 เรือน โดยนายอดิศราช กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะตนช่วยเหลือพรรคมาโดยตลอด แม้ว่าเพิ่งจะเข้ามาดูแลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี ก็ตาม เพราะตนก็รักพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายเมธี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรักจำนวน 4 นายมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

**"พิเชษฐ"อ้างเจ้าหนี้ใจร้อนเกินไป

ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล รักษาการประธานคณะทำงานภาคใต้ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างเกิดเรื่องนั้นนายสมพล กำลังเดินทางเพื่อมาชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมตามที่พรรคได้นัดหมาย ในช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.ย. หลังจากเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาตนได้ลงไปเคลียร์ปัญหามาครั้งหนึ่งแล้ว โดยใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่ายไปก่อนจำนวน 195,000 บาท แต่ส่วนที่เหลือนายสมพล ขอเวลาในการเตรียมเอกสารก่อน จะเคลียร์ค่าใช้จ่ายอีกครั้งให้เรียบร้อย เพราะหลังจากเลือกตั้งนั้น จะต้องแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ทางผู้ที่ช่วยหาเสียงคงจะใจร้อน ขณะเดียวกันก็รู้กันอยู่ว่า มีปัญหาเรื่องการเมืองในพื้นที่บ้างเล็กน้อย เพราะคนที่ลงเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายคนที่อยากจะลงในนามพรรคเพื่อไทย

นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ชกต่อยนั้น ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับพรรค อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่นายพิเชษฐ์ ได้ดูเทปบันทึกภาพของช่างภาพโทรทัศน์ ก็ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “นายอดิศราช เป็นเด็กของนายภิญญา ช่วยปลอด อดีตส.ว.สุราษฎร์ธานี อย่างนี้มีเรื่องแน่ ที่จริงถ้าผมลงมาเร็วกว่านี้ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพราะผมรู้จักกับนายอดิศราช น่าจะพูดคุยกันได้อยู่แล้ว”

**อ้างทนพฤติกรรมลบหลู่ไม่ไหว

จากนั้นเวลา 12.00 น.นายเมธี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนมองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่คนกลุ่มดังกล่าวนำพานดอกไม้ ไปมอบให้กับนายสมชาย ก่อนที่จะเดินออกมาโวยวายอยู่ที่หน้าพรรค ซึ่งการกระทำแบบนี้ ตนยอมไม่ได้ และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็ยอมไม่ได้ ที่มาทำอะไรกับพานพุ่ม หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และยิ่งได้มาเห็นต่อหน้าต่อตาแบบนี้ยิ่งยอมไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายจริง ทั้งนี้ตนพยายามจะโยนไมค์ที่ชายคนดังกล่าวพูดอยู่ทิ้ง แต่เขาคงคิดว่าตนจะไปทำร้ายร่างกาย จึงพูดกับตนว่า จะเอาหรือ และทำท่าเหมือนจะชกตน ตนจึงฮุคซ้ายเข้าไปชายคนดังกล่าวจึงเซไปก่อนที่ตนจะเดินตามไปต่อยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนไม่ได้อธิบายใดๆ กับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เรื่องหนี้สินต่างๆ ตนก็ไม่รู้เรื่อง เพียงแต่ตนเห็นคนทำแบบนี้กับพานดอกไม้ และพระบรมฉายาลักษณ์ต่อหน้าต่อตาไม่ได้

**จวกดาราอันธพาลทำพรรคเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนได้เข้ามาสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าวจากสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยบางรายถึงกับอุทานว่า “มันทำอย่างนี้มันโง่หรือมันบ้า พรรคเสียหายหมด”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พานพุ่มดอกไม้ ที่นายเมธี กล่าวถึงนั้น เป็นพานพุ่มดอกไม้ ที่ใช้สักการะพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งประดับไว้อยู่หน้าที่ทำการพรรค และนายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้นำพานดอกไม้ดังกล่าว ไปมอบให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพื่อให้กำลังใจ หลังจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด จากรณีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 7 ตุลา 51

**รับ “เมธี” เป็นสมาชิกพรรค

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันจนเกิดการทำร้ายร่างกายกันที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคได้หารือถึงเรื่องดังกล่าวโดยเชื่อว่าอาจเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน รวมทั้งการใช้อารมณ์จนถึงขั้นชกต่อย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนในพรรคเดียวกัน อาจจะเกิดปัญหาในระหว่างการเดินทางของเงินที่อาจจะยังไม่ถึงมือผู้รับ ไปติดค้างอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ชกต่อยที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความรุนแรงแต่คิดว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคลที่เกิดอารมณ์ขึ้นมากกว่าและสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวงการ สำหรับนายเมธี อมรวุฒิกุล นั้น ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคนที่ศรัทธาในแนวทางของพรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างมาก

**”อดิศราช” แตกเย็บ 3 เข็ม

ต่อมา นายอดิศราช ธรรมพิทักษ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ภูมิยศ เหล็กกล้า พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บางรัก เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ นายเมธี อมรวุฒิกุล พร้อมให้การว่า ก่อนหน้านี้ เป็น บก.หนังสือพิมพ์ชนใต้ เพิ่งจะมารับเป็น ผอ.ศูนย์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เขต 1 สุราษฎร์ธานี เป็นครั้งแรก โดยก่อนที่จะทำการเลือกตั้ง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายสมพล วิชัยดิษฐ ผู้สมัคร ที่ขอร้องให้ตนช่วย จึงถามกลับไปว่าจะสู้จริงหรือไม่ เพราะพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับการยืนยันจาก นายสมพลว่า จะขอสู้จริง จึงได้รับปากจะช่วย โดยเริ่มจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ใช้เครดิตของกลุ่มเพื่อนจัดหาค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นป้ายหาเสียง สติกเกอร์ โปสเตอร์ รวมทั้งค่าจัดเวทีปราศรัย ค่าน้ำค่าไฟ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 800,000 บาท

แต่เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายสมพลแพ้การเลือกตั้ง จึงได้ไปทวงถามค่าใช้จ่ายดังกล่าว แต่นายสมพลอ้างว่ายังไม่ได้รับเงินจากพรรค และในวันที่ 2 ก.ย.จึงได้เดินทางขึ้นมายัง กทม.เพื่อทวงถามเรื่องดังกล่าวที่พรรค และในวันนั้นได้เข้าพบ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค และ นางสุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเช่นเคย โดยอ้างว่าต้องไปคุยกับผู้สมัครกันเอง จนกระทั่งในวันนี้ได้เดินทางมาที่พรรคเพื่อทวงถามอีกครั้ง เนื่องจากตนถูกบรรดาเจ้าหนี้เริ่มทวงเงินที่ติดค้างอยู่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายดังกล่าว จึงพากันมาที่พรรค โดยส่งตัวแทน คือ นายวีรวิทย์ โชติช่วง ขึ้นไปพูดคุยกับนางสุนีย์อีกครั้ง แต่นางสุนีย์ยังปฏิเสธเช่นเดิม โดยบอกว่าให้ไปคุยกับ นายพร้อมพงศ์ เอง อีกทั้งยังพุดจาในทำนองว่าพวกตนชอบไปโกงกินกันเอง หลังจากนั้น พวกตนจึงนั่งรอในห้องอีกห้องหนึ่ง จนกระทั่ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงข่าวเกี่ยวกับ ป.ป.ช.เรียบร้อยแล้ว จึงได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสมชาย ซึ่งนายสมชายก็ได้รับหนังสือร้องเรียนไว้ ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟต์ไปโดยไม่ได้พูดจาอะไร

“หลังจากนั้น ผมกลับมานั่งรอในห้องเดิมอีก แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่พรรคคนไหนมาพูดคุยกับผมเลย ด้วยความร้อนใจผมจึงเดินไปที่หน้าพรรค หยิบไมค์ออกจากรถมาพูดว่า พวกผมเป็นคนทำงานให้กับพรรค ทำไมพรรคถึงไม่รับผิดชอบ แพ้การเลือกตั้งแล้วยังต้องมาแพ้ให้กับเรื่องในพรรคอีก และขณะที่ผมกำลังพูดอยู่นั้น นายเมธีได้เดินตรงเข้ามาหาผม พร้อมกับต่อว่าต่อขานผมว่า เป็นพวกที่ทำร้ายพรรค มาก่อกวนพรรค เป็นมือปืนรับจ้างมาทำลายชื่อเสียงของพรรค แต่ผมก็ปฏิเสธไปว่า ไม่ใช่ ผมเป็นเจ้าหนี้ มาทวงถามความเป็นธรรมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่งยังพูดไม่ทันจบ นายเมธี ก็ตรงเข้ามาต่อยหลายครั้งจนผมสะบักสะบอมไปทั้งตัว ตรงหน้าผากแตก นาฬิกามิโด้ ราคา 3 หมื่นหล่นหายไป ซึ่งผมไม่ได้ตอบโต้อะไร จึงมาแจ้งความที่โรงพัก ก่อนที่ทางตำรวจจะส่งผมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเลิดสิน” นายอดิศราช กล่าว

เหยื่อของดาราดาวร้ายผู้นี้ให้การต่อว่า ในเบื้องต้นแพทย์ได้ทำการเย็บแผลที่ศีรษะให้ 3 เข็ม ขณะนี้ยังรู้สึกหูอื้ออยู่ ตามตัวมีรอยถลอก แขนซ้ายบวม และยังรู้สึกระบมที่ขา ส่วนนายเมธีนั้นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะว่าเคยได้ดูดีทีวีก็รู้สึกชอบ แต่เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้รู้สึกว่า นายเมธีผิดไปจากเดิมไม่ใช่จากที่เคยเห็นในโทรทัศน์

ด้าน พ.ต.ท.ภูมิยศ กล่าวว่า ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลเลิดสินแล้ว จากนั้นได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วเช่นกัน รวมทั้งมีการสอบปากคำพยานของฝ่ายผู้เสียหายไปแล้ว 1 ปาก และหลังจากนี้ จะต้องรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างเป็นทางการ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ รวมทั้งหาพยานแวดล้อม และภาพเหตุการณ์ที่สื่อมวลชนสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ก่อนจะออกหมายเรียกนายเมธีมารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายต่อไป และหากนายเมธีไม่มาตามหมายเรียกก็จะออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

“เท่าที่ดูจากคลิปที่สื่อมวลชนนำมาเปิดให้ดูนั้น ค่อนข้างชัดเจน” พ.ต.ท.ภูมิยศ กล่าว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายเมธีตกเป็น 1 ใน 21 ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1697/2552 ลงวันที่ 15 มิ.ย.2552 ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยเป็นหัวหน้า และร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จากกรณีขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ก่อนและหลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถูกส่งไปดำเนินคดีที่ สน.ดุสิต ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ก่อนใช้หลักทรัพย์เงินสด 500,000 บาท ขอยื่นประกันตัวออกไป

ทั้งนี้ นายเมธี มีชื่อจริงว่า นายทัฬห์ อมรบุณยกร มีผลงานละครทางโทรทัศน์ซึ่งส่วนใหญ่สวมบทบาทดาวร้ายประจำเรื่อง เช่น ดอกไม้ในป่าหนาว ทางช่อง 5, โปลิศจับขโมย ทางช่อง 3, พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ทางช่อง 7, เพลิงรัก ไฟแค้น, อตีตา, นายฮ้อยทมิฬ, แม้เลือกเกิดได้, นิราศสองภพ, หัวใจและไกปืน, หลังม่านมายา, ตากสินมหาราช, หลงไฟ, หักเหลี่ยมพระกาฬ, จิตสังหาร รวมถึงภาพยนตร์ และถ่ายแบบอีกหลายครั้ง

**"ยงยุทธ"สุดทนเตรียมทิ้ง หน.พท.

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มผู้ประกอบการจัดทำสื่อหาเสียง มาทวงถามเงินที่พรรคยังค้างชำระจากการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีเขต 1 ว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด และไม่ต้องการแสดงความเห็นเรื่องนี้ ตนไม่ได้อยากมีอาชีพด้านนี้ และไม่ต้องการเป็นข่าวทำนองนี้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ระบุว่าไม่ต้องการทำอาชีพนี้ หมายความว่าจะสละตำแหน่งหัวหน้าพรรคในเร็วๆนี้ ใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ใช่ ตนจะสละตำแหน่ง ตนไม่เหมาะกับงานนี้ แล้วก็ไม่อยากเป็นข่าวเรื่องนี้อย่างนี้ บอกไปเลยว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้

**ต้องสอบก่อน“เมธี” ผิดจริงหรือไม่
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม ในฐานะ คณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราต้องเรียกมาสอบกันก่อน จะด่วนสรุปไม่ได้ ถ้าสอบสวนแล้วนายเมธี ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มีความผิด ก็ต้องดำเนินการไปตามความจริง ไม่มีการช่วยเหลืออย่างแน่นอน ซึ่งในเรื่องของความผิดและบทลงโทษนั้นพรรคมีกฎข้อบังคับอยู่ แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่า ผิดจริงหรือไม่ และถ้าผิด จะถึงขั้นไล่ออกจากสมาชิกพรรคหรือไม่ ตรงนี้ต้องดูกฎระเบียบของพรรคก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น