เอเจนซี - ยูกิโอะ ฮาโตยามะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันจันทร์ (7) ว่าเขาจะผลักดันให้ญี่ปุ่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 25 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2020 จากระดับก๊าซในปี 1999 แม้ว่าจะมีเสียงค้านจากภาคธุรกิจที่เห็นว่าจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็ตาม
อย่างไรก็ดี ฮาโตยามะกล่าวในงานสัมมนาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า "เราไม่สามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ด้วยการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราเอง ... แต่เรายังมีเป้าหมายที่จะสร้างกรอบเค้าโครงระดับระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมโดยประเทศชั้นนำของโลกด้วย"
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการมีบทบาทมากขึ้นในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ ที่กรุงโคเปนเฮเกน โดยการประชุมดังกล่าวจะเป็นการวางกรอบข้อตกลงใหม่ในเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อทดแทนพิธีสารเกียวโตที่จะหมดอายุลง
ก่อนหน้านี้มีรายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นชุดที่กำลังจะพ้นอำนาจ ระบุว่าการลดก๊าซเรือนกระจกลง 25 เปอร์เซ็นต์จะกระทบต่ออุตสาหกรรมทั้งในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า เหล็กกล้า ซีเมนต์ ไปจนถึงรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น รัฐบาลชุดก่อนจึงกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกลงที่ระดับ 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ทว่า ฮาโตยามะยืนยันว่าการแก้ปัญหาโลกร้อนจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น พลังงานโซลาร์เซล เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ฮาโตยามะกล่าวในงานสัมมนาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า "เราไม่สามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ด้วยการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราเอง ... แต่เรายังมีเป้าหมายที่จะสร้างกรอบเค้าโครงระดับระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมโดยประเทศชั้นนำของโลกด้วย"
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการมีบทบาทมากขึ้นในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ ที่กรุงโคเปนเฮเกน โดยการประชุมดังกล่าวจะเป็นการวางกรอบข้อตกลงใหม่ในเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อทดแทนพิธีสารเกียวโตที่จะหมดอายุลง
ก่อนหน้านี้มีรายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นชุดที่กำลังจะพ้นอำนาจ ระบุว่าการลดก๊าซเรือนกระจกลง 25 เปอร์เซ็นต์จะกระทบต่ออุตสาหกรรมทั้งในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า เหล็กกล้า ซีเมนต์ ไปจนถึงรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการว่างงานเพิ่มขึ้น รัฐบาลชุดก่อนจึงกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกลงที่ระดับ 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ทว่า ฮาโตยามะยืนยันว่าการแก้ปัญหาโลกร้อนจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น พลังงานโซลาร์เซล เป็นต้น
