ASTVผู้จัดการรายวัน-“อุตสาหกรรม” เรียกโรงงานน้ำตาลทราย เช็กสต๊อก ยันมีปริมาณเหลือเฟือ น้ำตาลทรายในท้องตลาดไม่ขาดแคลนแน่ แนะพาณิชย์หากพบมีการตุกติกเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะเพื่อแลกกับการจัดส่งน้ำตาลให้มากขึ้น ขอให้จับกุมได้เลย “ยรรยง”นัดยี่ปั๊ว ซาปั๊วถกสัปดาห์นี้ ขู่หากยังมีปัญหาเสนอกกร. ออกมาตรการคุมเพิ่มเติม
นายดำริ สุโขธนัง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) กล่าวว่า วานนี้ (7 ก.ย.)ได้เรียกตัวแทนจาก 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายเข้าหารือเกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลทรายทั้งหมด โดยเฉพาะปริมาณน้ำตาลทรายโควตาก.(บริโภคในประเทศ) ที่มติกอน.จัดสรรไว้ 19 ล้านกระสอบ พบว่าปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานมีปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการไม่มีปัญหาการขาดแคลนแต่อย่างใดจึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก
“ปริมาณน้ำตาลยังมีค่อนข้างมากโดยค้างกระดานถึง 5.6 ล้านกระสอบจะใช้ได้ถึงสิ้นปีและปลายปีก็เตรียมเปิดหีบอ้อยใหม่แล้ว ส่วนกรณีที่ผู้ผลิตอาหารเพื่อการส่งออกจะหันมาซื้อโควตาก.แทนโควค.ที่จัดสรรให้เป็นพิเศษเฉพาะส่งออกก็เป็นไปได้ยากเนื่องจากมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไปหมดแล้วและราคาก็ต่ำกว่าราคาโควตาก.อีกด้วย”นายดำริกล่าว
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ได้หารือกับตัวแทน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลเพื่อเช็คปริมาณน้ำตาลแล้ว โดยยืนยันถึงปริมาณน้ำตาลที่ไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด โดยส่วนที่จัดสรรไว้ 19 ล้านกระสอบเพียงพอแน่นอน และไม่มีน้ำตาลค้างโกดัง อย่างไรก็ตามกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่ามียี่ปั๊ว ซาปั๊วมีปัญหา เพราะโรงงานน้ำตาลเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ ทางโรงงานได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันว่าไม่มีการกระทำดังกล่าวและหากทำถือว่าผิดกฎหมาย กระทรวงพาณิชย์สามารถจับกุมได้ทันที
“เราดูในแง่การผลิตและการจัดสรรน้ำตาลจากโรงงาน การกักตุน การจำหน่ายราคาเกินที่กำหนดเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงก็ควรจะจับกุม กรณีการลักลอบส่งออกตามตะเข็บชายแดนที่ผ่านมาได้ร่วมกับกรมศุลกากรและมีการปิดด่านไปถึง 10 ด่าน เหลือไม่มากแล้ว จึงไม่ใช่เป็นปริมาณมากมายอะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาได้”นายประเสริฐกล่าว
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ผลิตเพื่อการส่งออกถึงปริมาณน้ำตาลทรายที่ขาดแคลนแต่อย่างใดและยืนยันว่าผู้ผลิตที่เป็นบริษัทมีมาตรฐานคงไม่เสี่ยงที่จะนำชื่อเสียงด้วยการหันไปซื้อน้ำตาลโควตาก.แทนโควตาค.พิเศษ เพราะมีการทำสัญญาซื้อล่วงหน้าไปแล้วและหากซื้อไม่ถึงที่กำหนดก็จะถูกตัดสิทธิ์ในงวดต่อไป แต่กรณีบริษัทเล็กๆ ไม่ได้มาตรฐานอาจไปซื้อบ้างแต่ก็ไม่น่าจะเป็นปริมาณที่มากจนทำให้น้ำตาลขาด
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เข้ามาหารือเกี่ยวกับปัญหาการกักตุนน้ำตาลทราย เนื่องจากขณะนี้เกิดปัญหาผู้ค้าส่งได้รับน้ำตาลทรายในปริมาณน้อยลง แต่ถ้าต้องการได้ในปริมาณมากกว่าเดิมจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากจำนวนปกติ อีกทั้งยังได้รับการร้องเรียนจากผู้ค้าปลีกรายย่อยว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว กักตุนน้ำตาลไว้ค่อนข้างมาก
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะติดตามเส้นทางการขายน้ำตาลอย่างใกล้ชิด โดยจะขอดูใบส่งสินค้า ตรวจสต็อกน้ำตาล และตรวจสอบการกระจายของสินค้า ว่าส่งไปขายยังที่ใดบ้าง หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อพิจารณาออกมาตรการ เช่น ดูแลการเคลื่อนย้ายหรือแจ้งปริมาณน้ำตาลทรายในสต๊อก เป็นต้น
นายดำริ สุโขธนัง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) กล่าวว่า วานนี้ (7 ก.ย.)ได้เรียกตัวแทนจาก 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายเข้าหารือเกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลทรายทั้งหมด โดยเฉพาะปริมาณน้ำตาลทรายโควตาก.(บริโภคในประเทศ) ที่มติกอน.จัดสรรไว้ 19 ล้านกระสอบ พบว่าปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานมีปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการไม่มีปัญหาการขาดแคลนแต่อย่างใดจึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก
“ปริมาณน้ำตาลยังมีค่อนข้างมากโดยค้างกระดานถึง 5.6 ล้านกระสอบจะใช้ได้ถึงสิ้นปีและปลายปีก็เตรียมเปิดหีบอ้อยใหม่แล้ว ส่วนกรณีที่ผู้ผลิตอาหารเพื่อการส่งออกจะหันมาซื้อโควตาก.แทนโควค.ที่จัดสรรให้เป็นพิเศษเฉพาะส่งออกก็เป็นไปได้ยากเนื่องจากมีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไปหมดแล้วและราคาก็ต่ำกว่าราคาโควตาก.อีกด้วย”นายดำริกล่าว
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ได้หารือกับตัวแทน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลเพื่อเช็คปริมาณน้ำตาลแล้ว โดยยืนยันถึงปริมาณน้ำตาลที่ไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด โดยส่วนที่จัดสรรไว้ 19 ล้านกระสอบเพียงพอแน่นอน และไม่มีน้ำตาลค้างโกดัง อย่างไรก็ตามกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่ามียี่ปั๊ว ซาปั๊วมีปัญหา เพราะโรงงานน้ำตาลเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ ทางโรงงานได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยันว่าไม่มีการกระทำดังกล่าวและหากทำถือว่าผิดกฎหมาย กระทรวงพาณิชย์สามารถจับกุมได้ทันที
“เราดูในแง่การผลิตและการจัดสรรน้ำตาลจากโรงงาน การกักตุน การจำหน่ายราคาเกินที่กำหนดเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงก็ควรจะจับกุม กรณีการลักลอบส่งออกตามตะเข็บชายแดนที่ผ่านมาได้ร่วมกับกรมศุลกากรและมีการปิดด่านไปถึง 10 ด่าน เหลือไม่มากแล้ว จึงไม่ใช่เป็นปริมาณมากมายอะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาได้”นายประเสริฐกล่าว
นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ผลิตเพื่อการส่งออกถึงปริมาณน้ำตาลทรายที่ขาดแคลนแต่อย่างใดและยืนยันว่าผู้ผลิตที่เป็นบริษัทมีมาตรฐานคงไม่เสี่ยงที่จะนำชื่อเสียงด้วยการหันไปซื้อน้ำตาลโควตาก.แทนโควตาค.พิเศษ เพราะมีการทำสัญญาซื้อล่วงหน้าไปแล้วและหากซื้อไม่ถึงที่กำหนดก็จะถูกตัดสิทธิ์ในงวดต่อไป แต่กรณีบริษัทเล็กๆ ไม่ได้มาตรฐานอาจไปซื้อบ้างแต่ก็ไม่น่าจะเป็นปริมาณที่มากจนทำให้น้ำตาลขาด
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เข้ามาหารือเกี่ยวกับปัญหาการกักตุนน้ำตาลทราย เนื่องจากขณะนี้เกิดปัญหาผู้ค้าส่งได้รับน้ำตาลทรายในปริมาณน้อยลง แต่ถ้าต้องการได้ในปริมาณมากกว่าเดิมจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจากจำนวนปกติ อีกทั้งยังได้รับการร้องเรียนจากผู้ค้าปลีกรายย่อยว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว กักตุนน้ำตาลไว้ค่อนข้างมาก
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะติดตามเส้นทางการขายน้ำตาลอย่างใกล้ชิด โดยจะขอดูใบส่งสินค้า ตรวจสต็อกน้ำตาล และตรวจสอบการกระจายของสินค้า ว่าส่งไปขายยังที่ใดบ้าง หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อพิจารณาออกมาตรการ เช่น ดูแลการเคลื่อนย้ายหรือแจ้งปริมาณน้ำตาลทรายในสต๊อก เป็นต้น