xs
xsm
sm
md
lg

แก้ปัญหาทึ้งงบครีเอทีฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เสนอนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการขอใช้เงินครีเอทีฟ ไทยแลนด์ ป้องกันปัญหาขอใช้เงินมั่วและไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
นายสัญญา สถิรบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการจัดงานเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย (ครีเอทีฟ ไทยแลนด์) เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับเอกชนเจ้าของโครงการที่เสนอขอใช้งบประมาณภายใต้โครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ วานนี้ (7 ก.ย.) ว่า เตรียมนำเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นโดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักพิจารณากลั่นกรองโครงการที่ภาครัฐและเอกชนเสนอเข้ามาเพื่อขออนุมัติใช้งบประมาณของโครงการครีเอทีฟไทยแลนด์ โดยคณะทำงานที่จะตั้งขึ้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาว่าควรประกอบด้วยหน่วยงานด้านใดบ้าง ซึ่งอาจมีเอกชนร่วมเป็นคณะทำงาน เพราะหน้าที่ประการหนึ่งคือการกำหนดกรอบการเสนอขอใช้งบประมาณที่ชัดเจนและแก้ปัญหาความสับสนในขณะนี้ และจะเป็นผู้คัดกรองโครงการเบื้องต้นก่อนเสนอโครงการให้รัฐบาลนำไปพิจารณาในรายละเอียด
“ได้คุยกับเอกชนแล้วเห็นว่า ควรมีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำหน้าที่คัดกรองโครงการเบื้องต้นก่อนเสนอให้รัฐบาลตามพันธสัญญาที่ 1 ที่ระบุว่าจัดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใน 6 เดือน ซึ่งผมจะเสนอนายกฯ วันที่ 10 ก.ย.นี้ จากนั้นเป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่จะพิจารณาและตัดสินใจจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าวหรือไม่อย่างไร”นายสัญญากล่าว
ปัจจุบัน มีโครงการที่ภาคเอกชนเสนอแล้ว 49 โครงการ วงเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท และที่ภาครัฐเสนออีก 29 โครงการ วงเงินประมาณ 10,115.744 ล้านบาท รวม 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ภายใต้โครงการนี้ มีเงินสนับสนุนจากการจัดสรรงบประมาณตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง 2553-2555 จำนวน 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ ได้เปิดตัวโครงการเมืองไทย เมืองนักคิด หรือ Creative Thailand ไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2552 ที่ผ่านมา และภายใต้โครงการดังกล่าว รัฐบาลได้จัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP2) วงเงิน 20,130 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินกองทุนสำหรับการขับเคลื่อนให้กับอุตสาหกรรมนำร่อง 15 อุตสาหกรรมไปแล้วนั้น และเปิดกว้างสำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะขอใช้เงินก้อนนี้ ปรากฎว่ามีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เสนอโครงการเข้ามาขอใช้เงินเป็นจำนวนมาก และไม่มีหลักเกณฑ์การขอใช้เงินที่ชัดเจน ทำให้ต่างคนต่างเสนอโครงการเข้ามาขอใช้เงิน ซึ่งบางโครงการไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลตั้งไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น