ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท.ยังไม่อิ่ม ชงของบเพิ่มอีก 358 ล้านบาท อ้างใช้สอยหัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 4 เดือนสุดท้ายเพิ่มอีก 7.1 แสนคน สนองคำสั่งนายกฯมาร์คลั่นไว้ต้องได้ 14.1 ล้านคนปีนี้ ด้านเอกชน สวนกลับ ร่อนหนังสือจี้ “ชุมพล” สอบการใช้งบ ททท.ระบุปีนี้ได้งบพิเศษจนพุงปลิ้นกว่า 2,000 ลบ.แต่ไม่เห็นผลงาน
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเกี่ยวกับแผนการทำงานถึงนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอของบประมาณเพิ่มเติมสำหรับกระตุ้นตลาดช่วง 4 เดือนสุดท้ายปีนี้ รวมวงเงิน 358 ล้านบาท โดยให้นายชุมพลนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อย่างเร่งด่วน
วงเงินดังกล่าวจะแบ่งเป็นใช้สำหรับทำตลาดแบบอินมาร์เก็ตวงเงิน 245 ล้านบาท และใช้เจาะตลาดเพื่อส่งเสริมการขายอีก 113 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจากงบประมาณก้อนนี้ 7.1 แสนคน เพื่อให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงสิ้นปีนี้รวมแล้วให้ได้ 14.1 ล้านคนสร้างรายได้เข้าประเทศ 5.55 แสนล้านบาท ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีวางเป้าหมายไว้
“หากททท.ไม่มีแผนงานกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม คาดว่า ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 4.7 ล้านคน เมื่อรวมกับ ตัวเลขนักท่องเที่ยว 8 เดือน แรกปีนี้ คือตั้งแต่ มกราคมถึงสิงหาคม ซึ่งมีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทุกด่านประมาณ 8.6 ล้านคน จะได้ตัวเลขนักท่องเที่ยวประมาณ 13 ล้านคนเศษเท่านั้น โดยงบก้อนนี้จะใช้กระตุ้นตลาด ฮ่องกง ตะวันออกกลาง ยุโรป ฝรั่งเศส และ อินเดีย เป็นต้น ซึ่งเป็นประเทศใหม่ที่ไม่ได้มีในแผนงานเดิม”
***ฉกงบไทยเข้มแข็ง 715 ล้านบาท
รักษาการผู้ว่าการ ททท. กล่าว เพิ่มเติมว่า วงเงินดังกล่าวข้างต้น เป็นส่วนที่ขอเพิ่มเติมจากงบที่ททท.ได้รับจากโครงการไทยเข้มแข็ง 715 ล้านบาท โดยมีจุดประสงค์เพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14.1 ล้านคน สำหรับงบโครงการไทยเข้มแข็ง ที่ ททท.ได้รับจัดสรรมานั้น จะแบ่งใช้กระตุ้นตลาดต่างประเทศราว 500 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์แบบอินมาร์เก็ต 106 ล้านบาท และ ส่งเสริมการขาย 78 ล้านบาท ที่เหลือจะใช้เพื่อตั้งสำนักงานในต่างประเทศและอื่นๆ
อย่างไรก็ตามจากวงเงินที่ได้รับจากโครงการไทยเข้มแข็ง จะใช้เพื่อทำตลาด จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดจีน 1.4 แสนคน จากตลาดญี่ปุ่น 2.8 แสนคน และ เกาหลี 1.7 แสนคน โดยล่าสุด ททท.สั่งการให้ 22 สำนักงานในต่างประเทศ เร่งคัดกรองบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ของตัวเอง ที่มีศักยภาพที่จะดึงนักท่องเที่ยวมาให้ได้ตามจำนวนที่ตั้งไว้ นอกจากนั้นยังให้พิจารณาการใช้สื่อท้องถิ่นที่คุณภาพ ที่ต้องมีราคาถูกกว่าสื่อระดับเวิลด์วายที่ใช้อยู่
***จี้ชุมพล สอบการใช้งบททท.
ทางด้านนายเอนก ศรีชีวะชาติ ที่ปรึกษาสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) นายกสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และ กรรมการสหสมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) กล่าวว่า เฟสต้าเตรียมทำหนังสือถึง นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณของ ททท. ว่า แต่ละโครงการที่ดำเนินมา และงบประมาณที่ใช้ไปนั้น เห็นผลมากน้อยแค่ไหน
เพราะ ททท.เป็นหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเยอะมาก ซึ่งไม่นับงบประมาณประจำปี 2552 ปีนี้ ททท.ได้งบพิเศษกว่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ งบกระตุ้นท่องเที่ยว 450 ล้านบาท งบกลางปีฉุกเฉิน กว่า 900 ล้านบาท งบโครงการไทยเข้มแข็ง 715 ล้านบาท และล่าสุดเตรียมขออีก 358 ล้านบาท ซึ่งภาคเอกชนยังมองไม่เห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวตามที่หวังไว้
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเกี่ยวกับแผนการทำงานถึงนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอของบประมาณเพิ่มเติมสำหรับกระตุ้นตลาดช่วง 4 เดือนสุดท้ายปีนี้ รวมวงเงิน 358 ล้านบาท โดยให้นายชุมพลนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อย่างเร่งด่วน
วงเงินดังกล่าวจะแบ่งเป็นใช้สำหรับทำตลาดแบบอินมาร์เก็ตวงเงิน 245 ล้านบาท และใช้เจาะตลาดเพื่อส่งเสริมการขายอีก 113 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจากงบประมาณก้อนนี้ 7.1 แสนคน เพื่อให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงสิ้นปีนี้รวมแล้วให้ได้ 14.1 ล้านคนสร้างรายได้เข้าประเทศ 5.55 แสนล้านบาท ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีวางเป้าหมายไว้
“หากททท.ไม่มีแผนงานกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม คาดว่า ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 4.7 ล้านคน เมื่อรวมกับ ตัวเลขนักท่องเที่ยว 8 เดือน แรกปีนี้ คือตั้งแต่ มกราคมถึงสิงหาคม ซึ่งมีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทุกด่านประมาณ 8.6 ล้านคน จะได้ตัวเลขนักท่องเที่ยวประมาณ 13 ล้านคนเศษเท่านั้น โดยงบก้อนนี้จะใช้กระตุ้นตลาด ฮ่องกง ตะวันออกกลาง ยุโรป ฝรั่งเศส และ อินเดีย เป็นต้น ซึ่งเป็นประเทศใหม่ที่ไม่ได้มีในแผนงานเดิม”
***ฉกงบไทยเข้มแข็ง 715 ล้านบาท
รักษาการผู้ว่าการ ททท. กล่าว เพิ่มเติมว่า วงเงินดังกล่าวข้างต้น เป็นส่วนที่ขอเพิ่มเติมจากงบที่ททท.ได้รับจากโครงการไทยเข้มแข็ง 715 ล้านบาท โดยมีจุดประสงค์เพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14.1 ล้านคน สำหรับงบโครงการไทยเข้มแข็ง ที่ ททท.ได้รับจัดสรรมานั้น จะแบ่งใช้กระตุ้นตลาดต่างประเทศราว 500 ล้านบาท โดยจะนำไปใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์แบบอินมาร์เก็ต 106 ล้านบาท และ ส่งเสริมการขาย 78 ล้านบาท ที่เหลือจะใช้เพื่อตั้งสำนักงานในต่างประเทศและอื่นๆ
อย่างไรก็ตามจากวงเงินที่ได้รับจากโครงการไทยเข้มแข็ง จะใช้เพื่อทำตลาด จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดจีน 1.4 แสนคน จากตลาดญี่ปุ่น 2.8 แสนคน และ เกาหลี 1.7 แสนคน โดยล่าสุด ททท.สั่งการให้ 22 สำนักงานในต่างประเทศ เร่งคัดกรองบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ของตัวเอง ที่มีศักยภาพที่จะดึงนักท่องเที่ยวมาให้ได้ตามจำนวนที่ตั้งไว้ นอกจากนั้นยังให้พิจารณาการใช้สื่อท้องถิ่นที่คุณภาพ ที่ต้องมีราคาถูกกว่าสื่อระดับเวิลด์วายที่ใช้อยู่
***จี้ชุมพล สอบการใช้งบททท.
ทางด้านนายเอนก ศรีชีวะชาติ ที่ปรึกษาสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) นายกสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และ กรรมการสหสมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟสต้า) กล่าวว่า เฟสต้าเตรียมทำหนังสือถึง นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณของ ททท. ว่า แต่ละโครงการที่ดำเนินมา และงบประมาณที่ใช้ไปนั้น เห็นผลมากน้อยแค่ไหน
เพราะ ททท.เป็นหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณเยอะมาก ซึ่งไม่นับงบประมาณประจำปี 2552 ปีนี้ ททท.ได้งบพิเศษกว่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ งบกระตุ้นท่องเที่ยว 450 ล้านบาท งบกลางปีฉุกเฉิน กว่า 900 ล้านบาท งบโครงการไทยเข้มแข็ง 715 ล้านบาท และล่าสุดเตรียมขออีก 358 ล้านบาท ซึ่งภาคเอกชนยังมองไม่เห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวตามที่หวังไว้
