xs
xsm
sm
md
lg

"ลาเซ็นซ่า"รุกหนัก ขยายฐานบราวัยรุ่น จ่อเปิดเพิ่ม2ชอป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – เอฟ เจฯ มึน ศก.-การเมือง ฟาดหางใส่ยอดขายชุดชั้นใน ลาเซ็นซ่าโตแค่ 5% ต่ำหว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 30% ยันยังมีแผนรุกต่อเนื่อง มั่นใจศักยภาพตลาดระยะยาว เตรียมนำเข้าสินค้าใหม่ขยายฐานกลุ่มเด็ก เล็งเปิดอีก 2 ชอป
นางสาวกนกพร ลิมสุขสิริ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท เอฟ เจ เบนจามิน คอนเซ็ปทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่นแบรนด์จากต่างประเทศ กล่าวว่า ยอดขายของชุดชั้นในนำเข้าแบรนด์ ลาเซ็นซ่า จากแคนาดา ในช่วงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 – มิถุนายน 2552 มีอัตราการเติบโตเพียง 5% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าป้าหมายเดิมที่ตั้งการเตบิโตไว้ที่ 30% อย่างมาก
สาเหตุหลักที่ยอดขายเติบโตต่ำเป้าหมาย เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจนในประเทศศที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและเหตุการณ์การม็อบปะทะกันอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีแผนรุกตลาดชุดชั้นในลาเซ็นซ่าต่อเนื่อง เพราะมองว่าในตลาดระยะยาวยังมีศักยภาพ โดยในปีบัญชี 2552 มีแผนที่จะนำเข้าสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งรูปแบบ สีสัน และการใช้งาน รวมไปถึงการเน้นจัดโปรโมชั่น กิจกรรมการตลาด การลดราคาสินค้าเฉลี่ย 10-15% ซึ่งจะถือเป็นการลดราคาครั้งแรกหลังจากที่นำลาเซ็นซ่าเข้ามาทำตลาดในไทยประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในใหม่เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ เน้นเจาะกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุในช่วง 18 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเน้นลวดลายและสีสันและเน้นผลิตภัณฑ์ที่เสริมทรวงอกด้วย จากเดิมที่สินค้าลาเซ็นซ่าส่วนใหญ่เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้ไป ซึ่งเป็นลูกค้าระดับบีบวก มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
อีกทั้งเตรียมจะขยายชอปลาเซ็นซ่าเพิ่มอีก 2 สาขา ในศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม และเซ็นทรัลชิดลม จากเดิมที่มีเพียง 2 สาขาคือ เซ็นทรัลเวิลด์ และสยามพารากอน โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 5 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่งบการตลาดนั้นจะใช้ประมาณ 4% ของรายได้
นางสาวกนกพรกล่าวว่า จากแผนดำเนินงานทั้งหมด ทั้งการขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย การทำตลาด การเพิ่มชอป จะทำให้บริษัทฯมียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 20% จากที่ขณะนี้มีประมาณ 5,000 ราย และคาดว่า ยอดขายเดือนกรกฎาคม 2552- มิถุนายน 2553 จะมียอดขายเติบโตประมาณ 16% เพิ่มขึ้นขึ้นจากปี 2551 และมั่นใจว่าภายใน 2 ปีบริษัทฯน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดชุดชั้นในติด 1 ใน 10
กำลังโหลดความคิดเห็น