แทบไม่น่าเชื่อว่า ถึงวันนี้สมรภูมิการสู้รบทางการเมืองที่คนเสื้อแดง-พรรคเพื่อไทย ประกาศจะทำทุกอย่างเพื่อหามนช.(พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตรกลับประเทศไทยให้สมดังประสงค์ที่ทักษิณพร่ำเพ้อว่า อยากกลับบ้านเป็นความจริงให้ได้
กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการป่วนบ้านป่วนเมือง เผาแผ่นดินทำร้ายประเทศ จะทำทุกอย่างถึงขั้น
ชกใต้เข็มขัด เล่นเกมสกปรก ก่อสงครามใต้ดิน สาดโคลนกันอย่างด้านๆ
โดยการ”ตัดต่อเทปเสียง”ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศเกิดความเข้าใจผิดว่า ในช่วงสงกรานต์เลือดที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการในห้องประชุมแห่งหนึ่งเพื่อให้ทหาร-ตำรวจและทุกฝ่ายสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายโกลาหล
เพื่อให้รัฐบาลจะได้ใช้สถานการณ์นี้ประกาศพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กทม.และปริมณฑล
เป้าหมายของผู้วางแผนและกระทำการในการตัดต่อและเผยแพร่คลิปเสียงอภิสิทธิ์ เป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากมุ่งหวังให้เกิดความเข้าใจผิด เดือดแค้น เกลียดชังในตัวอภิสิทธิ์ หวังให้คนที่ได้รับฟังเสียง ได้รับข่าวสารข้อมูลแบบไม่ถูกต้อง เกิดความรู้สึกต่อต้านเกลียดชังในตัวนายกรัฐมนตรีและต้องการแก้แค้น และวิธีการที่ดีที่สุด คงไม่มีอะไรจะดีกว่า
ต้องออกไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที 30 สิงหาคม เพื่อให้แดงทั้งแผ่นดิน กลับมามีมนต์ขลังอีกครั้ง หลังจากเริ่มพบว่าระยะหลังๆ มีแต่ถอยหลังลงเรื่อยๆ
ทีมข่าวการเมือง ASTVผู้จัดการขอสะกิดให้คิดว่า การกระทำอย่างนี้มันควรหรือไม่ กับความคิดของฝ่ายที่มุ่งหวังจะเอาชนะโค่นล้มกันทางการเมืองให้ได้ จนถึงขั้นต้องงัดแผนสกปรกถึงขั้นตัดต่อเทปเสียงผู้นำประเทศ แล้วแจกจ่ายไปถึงมือและบ้านพักของเหล่านักการเมืองบางพรรค
จนกระทั่งมี ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งนำคลิปเสียงดังกล่าวมาให้สื่อมวลชนประจำพรรคการเมืองพรรคหนึ่งฟังตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ 25 สิงหาคมเพื่อหวังให้สื่อมวลชนสนใจ และทำเป็นข่าวทันที
หลังจากวันเดียวกันคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการออกพรบ.ความมั่นคงฯในพื้นที่เขตดุสิตเพื่อรับมือกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง
โดยอาจหวังว่า จะใช้เรื่องนี้เป็นการลดทอดความเชื่อถือนายกฯอภิสิทธิ์ แต่ดีที่สื่อมวลชนไหวไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองและคนที่กระทำความผิด จึงขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
แต่ก็ปรากฏว่าคลิปเสียงดังกล่าวมีการเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำไปโพสต์ไว้เว็ปไซด์บางแห่งและส่งต่อเป็น Forward mail จนสุดท้ายนำไปเผยแพร่ในสื่อสารมวลชนค่ายเสื้อแดง
ไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด หรือวางแผนอันสกปรกเช่นนี้ แต่เราอยากบอกว่า มันเป็นวิธีการที่บ้องตื้น ที่คิดว่าจะหลอกประชาชนให้หลงเชื่อ ด้วยกลอุบายสกปรกเช่นนี้
เพราะแค่ใช้หลักคิดง่ายๆ ก็จะพบว่ามันไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้วกับเรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าอภิสิทธิ์จะวางแผนป้ายสีความผิดให้กับคนเสื้อแดง โดยขอให้มีการสร้างสถานการณ์ อันเป็นเรื่องผิดทั้งทางกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมือง ซึ่งหากถูกจับได้ ไม่ใช่แค่ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ถึงขั้นต้องปิดฉากชีวิตการเมืองทันที
ดังนั้นเรื่องที่มีผลกระทบรุนแรงเช่นนี้ อภิสิทธิ์คงไม่โง่พอที่จะไปเที่ยวพูดสั่งการแบบผิดกฎหมายกับที่ประชุมซึ่งมีคนอยู่จำนวนมาก เพื่อให้มีพยานบุคคลและพยานวัตถุผูกมัดตัวเองในภายหลัง
และคนอย่างอภิสิทธิ์ก็ย่อมรู้ดีว่า ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครองที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการคลี่คลายสถานการณ์สงกรานต์เลือด แม้โดยหน้าที่ความรับผิดชอบจะอยู่กับฝ่ายรัฐบาล
แต่ทว่าอภิสิทธิ์ก็ย่อมรู้ดีว่าเขาไม่สามารถไว้วางใจใครได้ทั้งสิ้นในสถานการณ์ที่ล่อแหลมขนาดนั้น
เพราะไม่รู้ว่าอาจมีไส้ศึกฝ่ายตรงข้ามที่ยังภักดีต่อระบอบทักษิณ หรือพวกทหาร ตำรวจเกียร์ว่างที่รอตลบหลังรัฐบาลได้ทุกเมื่อ จึงอัดเทปการประชุมสั่งการเอาไว้เพื่อเตรียมแบล็คเมล์อภิสิทธิ์
เพราะทุกวันนี้ก็เป็นที่รู้กันดีว่า ขนาดเรื่องสำคัญๆ ทางการเมือง ต่อให้เป็นโทรศัพท์มือถือของนายกรัฐมนตรี ผู้นำทหาร ตำรวจ เวลาจะพูดเรื่องสำคัญๆ ทางโทรศัพท์ก็ไม่มีใครเขาพูดกันเพราะทุกคน ก็กลัวจะถูกดักฟังโทรศัพท์ แล้วจะมีผู้นำประเทศคนไหนหน้าโง่ถึงขั้นไปสั่งการแบบนั้นในห้องประชุมได้
ทีมข่าวการเมืองฯ จึงเห็นด้วยที่ทุกฝ่ายจะต้องเร่งสอบสวนเบื้องหน้าเบื้องหลังเรื่องนี้โดยด่วนเพื่อกระชากหน้ากากไอ้โม่งที่กระทำการสกปรกเช่นนี้ แล้วเอาตัวคนผิดที่ไปตัดต่อเทปเสียงและเผยแพร่เทปเสียงอันเป็นเท็จผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต มาลงโทษในความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งพรบ.คอมพิวเตอร์ ที่มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และความผิดคดีอาญาโดยเร่งด่วน
และหากพบว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้อง ก็ต้องเล่นงานให้หนักถึงขั้นส่งเรื่องให้กกต.สอบสวนเพื่อเอาผิดในคดี
ยุบพรรค!
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการฟ้องทางการเมืองว่า เทปเสียงตัดต่อดังกล่าว ที่จงใจจะเผยแพร่ในช่วงก่อนการนัดชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง มีความเชื่อมโยงกับการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง และนักการเมืองบางกลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัยใดๆ เลย
ทั้งหมดคือสิ่งที่ประชาชน อย่างพวกเราต้องรู้ให้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม กลอุบาย การวางแผนสกปรกทางการเมือง ของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยเฉพาะกับกลุ่มประชาชนที่ยังเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของแกนนำเสื้อแดง และส.ส.เพื่อไทย ที่พยายามจะหลอกใช้ประชาชนมาเป็นเครื่องมือในการระดมมวลชนให้มานัดชุมนุมการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า โดยแอบอ้างว่าเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
แท้ที่จริงก็คือ เป็นการรับแผนมาจากนายใหญ่หน้าเหลี่ยมที่จะเอาประชาชนเป็นตัวประกัน
ในการทำให้ทักษิณ กลับประเทศไทยโดยไม่ต้องรับโทษ เพราะแค่ความพยายามจัดทำเทปเสียงอันเป็นเท็จแค่นี้ ก็บ่งบอกได้ชัดแล้วว่า การเคลื่อนไหวของผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
จึงสมควรหรือยังที่ประชาชนที่ไปสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองกับคนเสื้อแดง ต้องทบทวนความคิดของตัวเองและผละตัวออกมาจากพวกนี้โดยเร็วที่สุด
ไม่เช่นนั้น ก็เชื่อได้ว่าจะมีวิธีการสกปรกทางการเมืองแบบการตัดต่อเทปเสียงเช่นนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ
เรื่อง”คลิปเสียงลวงโลก”น่าจะเป็นสัญญาณทางการเมือง ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า สงครามการเมืองที่กลุ่มคนเสื้อแดง ทักษิณ
พยายามเติมฟืนเข้าเตาไฟเพื่อหวังทำลายชาติ
ยังคงไม่จบสิ้นลงอย่างง่ายๆ อย่างที่คนเสื้อแดงและทักษิณ ประกาศว่าจะยุติการเคลื่อนไหวการเมืองหลังเสร็จสิ้นกระบวนการยื่นรายชื่อถวายฎีกาฯ
จึงควรต้องจับตามองกันไปที่การนัดชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงวันที่ 30 สิงหาคมนี้ว่าจะมีเหตุแทรกซ้อนอะไรหรือไม่ แม้ฝ่ายรัฐบาลและหน่วยงานการข่าวและความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ จะมั่นอกมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ หลังจากหน่วยข่าวความมั่นคงได้ประเมินแล้วว่า
ไม่น่าจะมีสถานการณ์แทรกซ้อนหรือกลุ่มมือที่ 3 ฉวยโอกาสร้างสถานการณ์ที่จะนำไปสู่เหตุจลาจลวุ่นวาย
ซึ่งทีมข่าวการเมืองฯก็เชื่อเช่นนั้น เหตุเพราะจะพบว่าเวลานี้แกนนำคนเสื้อแดงไม่มีประเด็นอันแหลมคมที่นำไปสู่การเร่งเร้า ปลุกระดม เพื่อให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศหลั่งไหลมารวมตัวกันได้เหมือนเช่นเคย เพราะมันได้เลยจุดสูงสุดมาแล้วหลังการล่ารายชื่อถวายฎีกาฯ
ยิ่งประเด็นเรื่องเทปเสียงตัดต่อได้ถูกฝ่ายรัฐบาลตอบโต้และชี้แจงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เรื่องจะลุกลามบานปลายทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเกิดความเข้าใจผิด ก็ยิ่งทำให้การนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่คาดว่าจะมีเต็มที่ประมาณไม่เกิน 3 หมื่นคนก็น่าจะไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่ทุกฝ่ายจะควบคุมสถานการณ์ได้
โดยเฉพาะก็ได้มีการประกาศพรบ.ความมั่นคงในพื้นที่บริเวณการชุมนุมเอาไว้ด้วยแล้ว หากว่าทหาร-ตำรวจ ยังควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบไม่ได้ ก็ต้องถือว่า
เป็นความบกพร่องอย่างร้ายแรง หรือเจตนาเกียร์ว่างแน่นอน
ประกอบกับปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องเครดิตความน่าเชื่อถือของแกนนำเสื้อแดง ที่กำลังตกต่ำอย่างหนักหลังมีการสาวไส้กันเองของแกนนำเสื้อแดง ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่า แกนนำเสื้อแดงบางคน “สู้แล้วรวย”เพราะได้เอาการเคลื่อนไหวการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตยและทักษิณ ชินวัตรมาบังหน้าแต่แท้ที่จริงก็เพื่อสร้างสถานะความร่ำรวยให้กับตัวเอง
อันย่อมทำให้มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วนกำลังคิดหนักเช่นกันหากจะร่วมเคลื่อนไหวการเมืองกับ
3 เกลอ วีระ มุกสิกพงษ์-จตุพร พรหมพันธ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าเมื่อใดเป้าหมายจะสำเร็จ แต่สามเกลอกลับสุขสบายขึ้นเรื่อยๆ
สรุปสุดท้าย ทีมข่าวการเมืองประเมินว่า สถานการณ์วันนี้เห็นได้ชัดว่าทั้งเรื่องเทปเสียงปลอม -ความอ่อนล้าในการปลุกกระแสให้คนเสื้อแดงมาร่วมเคลื่อนไหวการเมืองด้วยกันเริ่มจุดไม่ติด –การแตกกันเองของแกนนำเสื้อแดง –การตั้งรับของฝ่ายรัฐบาลที่มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดีมากขึ้น
ได้ทำให้ เสื้อแดงอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็ถือเป็นข่าวดีของคนไทย ที่กลุ่มแดงถ่อยพวกนี้
กำลังจะล่มสลายและพังพินาศในไม่ช้า
กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังการป่วนบ้านป่วนเมือง เผาแผ่นดินทำร้ายประเทศ จะทำทุกอย่างถึงขั้น
ชกใต้เข็มขัด เล่นเกมสกปรก ก่อสงครามใต้ดิน สาดโคลนกันอย่างด้านๆ
โดยการ”ตัดต่อเทปเสียง”ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศเกิดความเข้าใจผิดว่า ในช่วงสงกรานต์เลือดที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการในห้องประชุมแห่งหนึ่งเพื่อให้ทหาร-ตำรวจและทุกฝ่ายสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายโกลาหล
เพื่อให้รัฐบาลจะได้ใช้สถานการณ์นี้ประกาศพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กทม.และปริมณฑล
เป้าหมายของผู้วางแผนและกระทำการในการตัดต่อและเผยแพร่คลิปเสียงอภิสิทธิ์ เป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากมุ่งหวังให้เกิดความเข้าใจผิด เดือดแค้น เกลียดชังในตัวอภิสิทธิ์ หวังให้คนที่ได้รับฟังเสียง ได้รับข่าวสารข้อมูลแบบไม่ถูกต้อง เกิดความรู้สึกต่อต้านเกลียดชังในตัวนายกรัฐมนตรีและต้องการแก้แค้น และวิธีการที่ดีที่สุด คงไม่มีอะไรจะดีกว่า
ต้องออกไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที 30 สิงหาคม เพื่อให้แดงทั้งแผ่นดิน กลับมามีมนต์ขลังอีกครั้ง หลังจากเริ่มพบว่าระยะหลังๆ มีแต่ถอยหลังลงเรื่อยๆ
ทีมข่าวการเมือง ASTVผู้จัดการขอสะกิดให้คิดว่า การกระทำอย่างนี้มันควรหรือไม่ กับความคิดของฝ่ายที่มุ่งหวังจะเอาชนะโค่นล้มกันทางการเมืองให้ได้ จนถึงขั้นต้องงัดแผนสกปรกถึงขั้นตัดต่อเทปเสียงผู้นำประเทศ แล้วแจกจ่ายไปถึงมือและบ้านพักของเหล่านักการเมืองบางพรรค
จนกระทั่งมี ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งนำคลิปเสียงดังกล่าวมาให้สื่อมวลชนประจำพรรคการเมืองพรรคหนึ่งฟังตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ 25 สิงหาคมเพื่อหวังให้สื่อมวลชนสนใจ และทำเป็นข่าวทันที
หลังจากวันเดียวกันคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการออกพรบ.ความมั่นคงฯในพื้นที่เขตดุสิตเพื่อรับมือกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง
โดยอาจหวังว่า จะใช้เรื่องนี้เป็นการลดทอดความเชื่อถือนายกฯอภิสิทธิ์ แต่ดีที่สื่อมวลชนไหวไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองและคนที่กระทำความผิด จึงขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
แต่ก็ปรากฏว่าคลิปเสียงดังกล่าวมีการเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำไปโพสต์ไว้เว็ปไซด์บางแห่งและส่งต่อเป็น Forward mail จนสุดท้ายนำไปเผยแพร่ในสื่อสารมวลชนค่ายเสื้อแดง
ไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด หรือวางแผนอันสกปรกเช่นนี้ แต่เราอยากบอกว่า มันเป็นวิธีการที่บ้องตื้น ที่คิดว่าจะหลอกประชาชนให้หลงเชื่อ ด้วยกลอุบายสกปรกเช่นนี้
เพราะแค่ใช้หลักคิดง่ายๆ ก็จะพบว่ามันไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้วกับเรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าอภิสิทธิ์จะวางแผนป้ายสีความผิดให้กับคนเสื้อแดง โดยขอให้มีการสร้างสถานการณ์ อันเป็นเรื่องผิดทั้งทางกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมือง ซึ่งหากถูกจับได้ ไม่ใช่แค่ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่ถึงขั้นต้องปิดฉากชีวิตการเมืองทันที
ดังนั้นเรื่องที่มีผลกระทบรุนแรงเช่นนี้ อภิสิทธิ์คงไม่โง่พอที่จะไปเที่ยวพูดสั่งการแบบผิดกฎหมายกับที่ประชุมซึ่งมีคนอยู่จำนวนมาก เพื่อให้มีพยานบุคคลและพยานวัตถุผูกมัดตัวเองในภายหลัง
และคนอย่างอภิสิทธิ์ก็ย่อมรู้ดีว่า ทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครองที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการคลี่คลายสถานการณ์สงกรานต์เลือด แม้โดยหน้าที่ความรับผิดชอบจะอยู่กับฝ่ายรัฐบาล
แต่ทว่าอภิสิทธิ์ก็ย่อมรู้ดีว่าเขาไม่สามารถไว้วางใจใครได้ทั้งสิ้นในสถานการณ์ที่ล่อแหลมขนาดนั้น
เพราะไม่รู้ว่าอาจมีไส้ศึกฝ่ายตรงข้ามที่ยังภักดีต่อระบอบทักษิณ หรือพวกทหาร ตำรวจเกียร์ว่างที่รอตลบหลังรัฐบาลได้ทุกเมื่อ จึงอัดเทปการประชุมสั่งการเอาไว้เพื่อเตรียมแบล็คเมล์อภิสิทธิ์
เพราะทุกวันนี้ก็เป็นที่รู้กันดีว่า ขนาดเรื่องสำคัญๆ ทางการเมือง ต่อให้เป็นโทรศัพท์มือถือของนายกรัฐมนตรี ผู้นำทหาร ตำรวจ เวลาจะพูดเรื่องสำคัญๆ ทางโทรศัพท์ก็ไม่มีใครเขาพูดกันเพราะทุกคน ก็กลัวจะถูกดักฟังโทรศัพท์ แล้วจะมีผู้นำประเทศคนไหนหน้าโง่ถึงขั้นไปสั่งการแบบนั้นในห้องประชุมได้
ทีมข่าวการเมืองฯ จึงเห็นด้วยที่ทุกฝ่ายจะต้องเร่งสอบสวนเบื้องหน้าเบื้องหลังเรื่องนี้โดยด่วนเพื่อกระชากหน้ากากไอ้โม่งที่กระทำการสกปรกเช่นนี้ แล้วเอาตัวคนผิดที่ไปตัดต่อเทปเสียงและเผยแพร่เทปเสียงอันเป็นเท็จผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต มาลงโทษในความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งพรบ.คอมพิวเตอร์ ที่มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และความผิดคดีอาญาโดยเร่งด่วน
และหากพบว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้อง ก็ต้องเล่นงานให้หนักถึงขั้นส่งเรื่องให้กกต.สอบสวนเพื่อเอาผิดในคดี
ยุบพรรค!
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นการฟ้องทางการเมืองว่า เทปเสียงตัดต่อดังกล่าว ที่จงใจจะเผยแพร่ในช่วงก่อนการนัดชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง มีความเชื่อมโยงกับการนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง และนักการเมืองบางกลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัยใดๆ เลย
ทั้งหมดคือสิ่งที่ประชาชน อย่างพวกเราต้องรู้ให้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม กลอุบาย การวางแผนสกปรกทางการเมือง ของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
โดยเฉพาะกับกลุ่มประชาชนที่ยังเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของแกนนำเสื้อแดง และส.ส.เพื่อไทย ที่พยายามจะหลอกใช้ประชาชนมาเป็นเครื่องมือในการระดมมวลชนให้มานัดชุมนุมการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า โดยแอบอ้างว่าเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
แท้ที่จริงก็คือ เป็นการรับแผนมาจากนายใหญ่หน้าเหลี่ยมที่จะเอาประชาชนเป็นตัวประกัน
ในการทำให้ทักษิณ กลับประเทศไทยโดยไม่ต้องรับโทษ เพราะแค่ความพยายามจัดทำเทปเสียงอันเป็นเท็จแค่นี้ ก็บ่งบอกได้ชัดแล้วว่า การเคลื่อนไหวของผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
จึงสมควรหรือยังที่ประชาชนที่ไปสนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองกับคนเสื้อแดง ต้องทบทวนความคิดของตัวเองและผละตัวออกมาจากพวกนี้โดยเร็วที่สุด
ไม่เช่นนั้น ก็เชื่อได้ว่าจะมีวิธีการสกปรกทางการเมืองแบบการตัดต่อเทปเสียงเช่นนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ
เรื่อง”คลิปเสียงลวงโลก”น่าจะเป็นสัญญาณทางการเมือง ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า สงครามการเมืองที่กลุ่มคนเสื้อแดง ทักษิณ
พยายามเติมฟืนเข้าเตาไฟเพื่อหวังทำลายชาติ
ยังคงไม่จบสิ้นลงอย่างง่ายๆ อย่างที่คนเสื้อแดงและทักษิณ ประกาศว่าจะยุติการเคลื่อนไหวการเมืองหลังเสร็จสิ้นกระบวนการยื่นรายชื่อถวายฎีกาฯ
จึงควรต้องจับตามองกันไปที่การนัดชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงวันที่ 30 สิงหาคมนี้ว่าจะมีเหตุแทรกซ้อนอะไรหรือไม่ แม้ฝ่ายรัฐบาลและหน่วยงานการข่าวและความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ จะมั่นอกมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ หลังจากหน่วยข่าวความมั่นคงได้ประเมินแล้วว่า
ไม่น่าจะมีสถานการณ์แทรกซ้อนหรือกลุ่มมือที่ 3 ฉวยโอกาสร้างสถานการณ์ที่จะนำไปสู่เหตุจลาจลวุ่นวาย
ซึ่งทีมข่าวการเมืองฯก็เชื่อเช่นนั้น เหตุเพราะจะพบว่าเวลานี้แกนนำคนเสื้อแดงไม่มีประเด็นอันแหลมคมที่นำไปสู่การเร่งเร้า ปลุกระดม เพื่อให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศหลั่งไหลมารวมตัวกันได้เหมือนเช่นเคย เพราะมันได้เลยจุดสูงสุดมาแล้วหลังการล่ารายชื่อถวายฎีกาฯ
ยิ่งประเด็นเรื่องเทปเสียงตัดต่อได้ถูกฝ่ายรัฐบาลตอบโต้และชี้แจงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เรื่องจะลุกลามบานปลายทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเกิดความเข้าใจผิด ก็ยิ่งทำให้การนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่คาดว่าจะมีเต็มที่ประมาณไม่เกิน 3 หมื่นคนก็น่าจะไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่ทุกฝ่ายจะควบคุมสถานการณ์ได้
โดยเฉพาะก็ได้มีการประกาศพรบ.ความมั่นคงในพื้นที่บริเวณการชุมนุมเอาไว้ด้วยแล้ว หากว่าทหาร-ตำรวจ ยังควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบไม่ได้ ก็ต้องถือว่า
เป็นความบกพร่องอย่างร้ายแรง หรือเจตนาเกียร์ว่างแน่นอน
ประกอบกับปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องเครดิตความน่าเชื่อถือของแกนนำเสื้อแดง ที่กำลังตกต่ำอย่างหนักหลังมีการสาวไส้กันเองของแกนนำเสื้อแดง ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่า แกนนำเสื้อแดงบางคน “สู้แล้วรวย”เพราะได้เอาการเคลื่อนไหวการเมืองโดยอ้างประชาธิปไตยและทักษิณ ชินวัตรมาบังหน้าแต่แท้ที่จริงก็เพื่อสร้างสถานะความร่ำรวยให้กับตัวเอง
อันย่อมทำให้มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วนกำลังคิดหนักเช่นกันหากจะร่วมเคลื่อนไหวการเมืองกับ
3 เกลอ วีระ มุกสิกพงษ์-จตุพร พรหมพันธ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าเมื่อใดเป้าหมายจะสำเร็จ แต่สามเกลอกลับสุขสบายขึ้นเรื่อยๆ
สรุปสุดท้าย ทีมข่าวการเมืองประเมินว่า สถานการณ์วันนี้เห็นได้ชัดว่าทั้งเรื่องเทปเสียงปลอม -ความอ่อนล้าในการปลุกกระแสให้คนเสื้อแดงมาร่วมเคลื่อนไหวการเมืองด้วยกันเริ่มจุดไม่ติด –การแตกกันเองของแกนนำเสื้อแดง –การตั้งรับของฝ่ายรัฐบาลที่มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดีมากขึ้น
ได้ทำให้ เสื้อแดงอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็ถือเป็นข่าวดีของคนไทย ที่กลุ่มแดงถ่อยพวกนี้
กำลังจะล่มสลายและพังพินาศในไม่ช้า