ASTVผู้จัดการรายวัน- "ป๊อก-ป้อม" งานเข้า! อัศวิน เผยความคืบหน้าคดีลอบยิงสนธิ 3 ผู้ต้องหาสำคัญยังอยู่ในไทย แต่ติดปัญหาตามตัวไม่ได้เพราะเจอพื้นที่ต้องห้ามไม่สามารถออกหมายค้นได้ เชื่อมีคนจ่ายเงินเลี้ยงดู ขณะที่ญาติจ่าปัญญาเผยหนึ่งในทีมสังหารต้องการมอบตัวแต่ขอปรึกษาคนไว้ใจได้ก่อน เบื้องหลังจ่าปัญญากินดีหมีกล้าส่งทนายเล่นเกมดึงเวลาที่แท้มีคนคุ้มกะลาหัว
วานนี้(18 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ตอนนี้ก็มีการติดตามผู้ต้องหา 3 คนซึ่งประกอบด้วย จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ส.ต.ท. วรวุฒิ มุ่งสันติ และ ส.อ. สมชาย บุนนาค ที่ถูกออกหมายจับมาโดยตลอด ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามควานหาทุกพื้นที่จัดชุดติดตามผู้ต้องหา 1 คนต่อชุด ติดตามหนึ่งชุด ซึ่งเราก็พอจะรู้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอยู่ที่ไหน ยังอยู่ในประเทศไทย แต่เป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ตามกฎหมายระบุว่าไม่สามารถออกหมายค้นได้
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า ตอนนี้เรายังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม ก็พยายามหาหลักฐานเพื่อที่จะขออนุมัติหมายจับเพิ่มอยู่ แต่เมื่อหลักฐานยังไม่เพียงพอ เราก็ยังไม่ขอหมายจับใครเพิ่ม สำหรับคดีนี้จากการสืบสวนก็ทราบว่าผู้เกี่ยวข้องจะเป็นทหารและตำรวจเท่านั้น ไม่มีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทีมสืบสวนได้ติดต่อญาติ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งมีบ้านอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งพบเพียงบิดา เพราะมารดาเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทางญาติระบุว่า จ.ส.อ.ปัญญา ต้องการที่จะมอบตัว แต่ขอปรึกษากับคนที่ไว้ใจได้ก่อน ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมหากเข้ามอบตัว
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า การหนีของผู้ต้องหา แน่นอนว่า ต้องมีคนให้การช่วยเหลือเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเงิน เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด พยายามเร่งทำคดีให้เกิดความรวดเร็ว
ในวันเดียวกันที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต ซาฟิร่า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ศว 8051 กทม.ที่ยึดได้จากบ้านแม่ยายของ ส.ต.ท.วรวุติ มุ่งสันติ ตำรวจ บช.ปส.ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายในซอยลาดปลาเค้า 72 และได้อายัดไว้ ซึ่งมีรายงานว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของกลางในคดียาเสพติด ที่ดีเอสไอ ขยายผลตรวจยึดมา เสร็จแล้ว ส.ต.ท.วรวุฒิ นำมาใช้ก่อนจะถูกออกหมายจับกุมนั้น ว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปตรวจสอบใหม่ พร้อมยืนยันว่า ในกระทรวงยุติธรรมไม่มีการดักฟังโทรศัพท์แล้ว เพราะเครื่องดักฟังมันเจ๊ง ซึ่งขอย้ำว่าไม่มีแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่ต้องห้ามที่ตามกฎหมายระบุว่าไม่สามารถออกหมายค้นได้ในความหมายของตำรวจนั้นทราบกันดีว่า เป็นเขตทหาร ซึ่งผู้ต้องหา 2 ใน 3 ที่ถูกออกหมายเป็นทหาร จึงเป็นไปได้สูงว่า แหล่งกบดานของผู้ต้องหาน่าจะใช้ช่องทางนี้ หรือไม่ก็อาศัยบารมีของทหารระดับใหญ่ดังที่จ่าปัญญาเคยทำงานในโรงงานของพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หลังจากก่อคดีเมื่อช่วงเดือนเมษายนซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นมาแล้ว
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า กรณีที่พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า การหนีของผู้ต้องหาต้องมีคนให้การช่วยเหลือเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเงิน เรก็เช่นกันเหล่านี้ทำเป็นกระบวนการเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา รวมถึงการให้คำปรึกษาต่อสู้คดีในรายของจ่าปัญญาที่ว่าจ้างทนายยื่นฟ้องพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์เพื่อทำให้เรื่องมันซับซ้อนยุ่งยากแม้ว่าศาลชั้นต้นจะไม่รับฟ้องแต่ก็ยังยื่นอุทธรณ์ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนที่ผู้ต้องหานอกจากจะไม่มอบตัวแล้วยังใช้วิธีประวิงเวลาด้วยการยื่นต่อศาล
"จ่าปัญญา ไม่ใช่กินดีหมีมาจากไหน แต่เพราะเชื่อว่ามีคนคุ้มกะลาหัวตัวเองได้จึงกล้าทำอะไรที่คาดไม่ถึง" รายงานข่าวระบุ
วานนี้(18 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ตอนนี้ก็มีการติดตามผู้ต้องหา 3 คนซึ่งประกอบด้วย จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ส.ต.ท. วรวุฒิ มุ่งสันติ และ ส.อ. สมชาย บุนนาค ที่ถูกออกหมายจับมาโดยตลอด ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามควานหาทุกพื้นที่จัดชุดติดตามผู้ต้องหา 1 คนต่อชุด ติดตามหนึ่งชุด ซึ่งเราก็พอจะรู้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอยู่ที่ไหน ยังอยู่ในประเทศไทย แต่เป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ตามกฎหมายระบุว่าไม่สามารถออกหมายค้นได้
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า ตอนนี้เรายังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม ก็พยายามหาหลักฐานเพื่อที่จะขออนุมัติหมายจับเพิ่มอยู่ แต่เมื่อหลักฐานยังไม่เพียงพอ เราก็ยังไม่ขอหมายจับใครเพิ่ม สำหรับคดีนี้จากการสืบสวนก็ทราบว่าผู้เกี่ยวข้องจะเป็นทหารและตำรวจเท่านั้น ไม่มีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทีมสืบสวนได้ติดต่อญาติ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งมีบ้านอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งพบเพียงบิดา เพราะมารดาเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทางญาติระบุว่า จ.ส.อ.ปัญญา ต้องการที่จะมอบตัว แต่ขอปรึกษากับคนที่ไว้ใจได้ก่อน ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมหากเข้ามอบตัว
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า การหนีของผู้ต้องหา แน่นอนว่า ต้องมีคนให้การช่วยเหลือเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเงิน เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด พยายามเร่งทำคดีให้เกิดความรวดเร็ว
ในวันเดียวกันที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต ซาฟิร่า สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ศว 8051 กทม.ที่ยึดได้จากบ้านแม่ยายของ ส.ต.ท.วรวุติ มุ่งสันติ ตำรวจ บช.ปส.ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายในซอยลาดปลาเค้า 72 และได้อายัดไว้ ซึ่งมีรายงานว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของกลางในคดียาเสพติด ที่ดีเอสไอ ขยายผลตรวจยึดมา เสร็จแล้ว ส.ต.ท.วรวุฒิ นำมาใช้ก่อนจะถูกออกหมายจับกุมนั้น ว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปตรวจสอบใหม่ พร้อมยืนยันว่า ในกระทรวงยุติธรรมไม่มีการดักฟังโทรศัพท์แล้ว เพราะเครื่องดักฟังมันเจ๊ง ซึ่งขอย้ำว่าไม่มีแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่ต้องห้ามที่ตามกฎหมายระบุว่าไม่สามารถออกหมายค้นได้ในความหมายของตำรวจนั้นทราบกันดีว่า เป็นเขตทหาร ซึ่งผู้ต้องหา 2 ใน 3 ที่ถูกออกหมายเป็นทหาร จึงเป็นไปได้สูงว่า แหล่งกบดานของผู้ต้องหาน่าจะใช้ช่องทางนี้ หรือไม่ก็อาศัยบารมีของทหารระดับใหญ่ดังที่จ่าปัญญาเคยทำงานในโรงงานของพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หลังจากก่อคดีเมื่อช่วงเดือนเมษายนซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นมาแล้ว
รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า กรณีที่พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า การหนีของผู้ต้องหาต้องมีคนให้การช่วยเหลือเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเงิน เรก็เช่นกันเหล่านี้ทำเป็นกระบวนการเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา รวมถึงการให้คำปรึกษาต่อสู้คดีในรายของจ่าปัญญาที่ว่าจ้างทนายยื่นฟ้องพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์เพื่อทำให้เรื่องมันซับซ้อนยุ่งยากแม้ว่าศาลชั้นต้นจะไม่รับฟ้องแต่ก็ยังยื่นอุทธรณ์ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนที่ผู้ต้องหานอกจากจะไม่มอบตัวแล้วยังใช้วิธีประวิงเวลาด้วยการยื่นต่อศาล
"จ่าปัญญา ไม่ใช่กินดีหมีมาจากไหน แต่เพราะเชื่อว่ามีคนคุ้มกะลาหัวตัวเองได้จึงกล้าทำอะไรที่คาดไม่ถึง" รายงานข่าวระบุ
