เรื่องมันฟ้อง โดย กรงเล็บ
มาถึงตำนานรักหน้าสุดท้ายเขย่าวงการสีกากีของ E.J. หลังผ่านความหฤหรรษ์มาแล้ว 3 ด่านน้ำผึ้ง
ตัวละครที่จะเปิดต่อไปนี้ หลายคนเห็นแล้วร้องด้วยถ้อยคำเดียวกันว่า “อึ้ง ทึ่ง เสียว” อะจึ๋ยส์ !!!
ว่ากันว่า “พ.ต.ท. ศ.ศาลา” เป็นที่พักใจในยาม E.J.เปล่าเปลี่ยว ชนิดที่เรียกปุ๊บ มาปั๊บ แถมยังใจกว้างทำหน้าที่จัดหาเด็กๆ จากสายการบิน ฝึกฝนให้เปลี่ยนวิธีบริการบนเครื่องบิน มาเป็นบริการแบบถึงอกถึงใจในพื้นราบแทน
ทำเอา E.J. ติดบ่วงเสน่หาจนถอนตัวไม่ขึ้น
เมื่อสุดที่รักโดนเด้งจาก รอง ผกก.แถวนนทบุรี ไปเป็น รอง ผกก.ป.สภ.แห่งหนึ่งใน จ.นครพนม E.J. จึงแค้นหนัก งัดกระบวนท่า “ตั๊ด สู้ ฟุด” มาเป็นไม้ตาย ดึงตัวคู่ขากลับมาอยู่ที่ สภ. คุมพื้นที่สนามบินในเมืองหลวง
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจงรักภักดีกับ E.J. หรือยังค้นหารสนิยมตัวเองไม่เจอว่าจะเป็น ชาย หญิง หรือ ตุ๊ดดี ก็เลยทำให้ “พ.ต.ท. ศ.ศาลา” ยังครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้
ผ่านมาหลายด่าน E.J. ก็เริ่มอัพเกรด หันหน้าเข้าหาเทคโนโลยี หันหลังให้คนใช้ โดยตกหลุมพิศวาสทันทีที่ได้เห็นความสูง ใหญ่ ใบหน้าผ่องใส แถมขาวราวหยวกกล้วย
ตรงสเปกขนาดนี้ หัวใจ E.J. จึงระทวยอ่อนเข้าหา “พ.ต.อ. อ.อ่าง” (คนละคนกับ พ.ต.ท. อ.อ่าง คนแรก) นับแต่ครั้งแรกที่ได้พบสบตาในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.
แต่ด้วยความที่มีปากไม่ได้เก่งแค่ “อม” ยังมีวาทศิลป์เป็นเลิศ ประกอบกับช่วงเวลานั้น E.J. คั่วสองหนุ่มเชยชื่นอยู่กับ “พ.ต.ท. ค.ควาย” อดีตดาราช่องหลายสีอยู่ด้วย ก็เลยส่ง “พ.ต.อ. อ.อ่าง” ไปดูแลธุรกิจคอมพิวเตอร์ เมกะโปรเจกต์ของ สตม.
กระทั่งได้ดิบได้ดี เป็นใหญ่เป็นโตอยู่ที่ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ บก.ตม.ทอช. มีหน้าที่หลักรับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ให้บริษัทในเครือของพรรคพวก E.J.
แม้วันนี้ “พ.ต.อ. อ.อ่าง” จะไม่ได้ทะลุทะลวงผ่านประตูหลังอีกแล้ว แต่ก็เปรียบเหมือนกล่องดวงใจ เพราะเป็นกระเป๋าใบใหญ่ที่ E.J. ขอกกกอดไว้ไม่ให้ใครมาแตะ
นายตำรวจที่ตกถึงท้อง E.J. อีกราย คือ “พ.ต.อ. ส.เสือ” คนนี้ต้องบอกว่าฮาสุดขั้ว เพราะแม้ E.J. จะเข้าข่ายหัวเถิก พุงป่อง แต่สเปกเธอก็เลิศหรูอยู่เสมอ
ใครเลยจะคิดว่า E.J. จะหันมาจกปลาร้าอย่างเอร็ดอร่อยร่วมกับลูกอีสานร่างผอมเกร็ง ผิวคล้ำ อย่าง “พ.ต.อ. ส.เสือ” ชนิดมันส์หยดติ๋ง
นินทากันว่า ความอึด ความทนของลูกเสี่ยว ทำให้ E.J. ขึ้นสวรรค์ สอยดาวมานอนเคียงร้องครางได้คราวละหลายหน
พิศวาสบาดจิตขย่มอึดขนาดนี้ อยากย้ายไปไหน “พ.ต.อ. ส.เสือ” จึงได้ดังใจปรารถนา
ยกตัวอย่าง จาก บช.น.ไปเป็น ผกก.ใน สตม. แม้ในยามที่ E.J. หมดบารมี ความอึดที่ทำให้ E.J. หวิวสุดขั้ว ก็ยังทำให้ E.J. บากหน้าไปขอร้อง อดีต ผบ.ตร. คนหนึ่งให้ช่วยย้ายคนโปรดไปอยู่ สภ.ย่อยในบช.ภ.1 รอโยกเป็น รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ หรือ รอง ผบก.ศูนย์สืบสวน สตม.
อีกคนที่ทำหน้าที่มากกว่าการให้บริการคือ “พ.ต.อ. ธ.ธง” นายตำรวจประจำสำนักงานของ E.J. ที่รับหน้าเสื่อเป็นเอเย่นต์ใหญ่จัดหาเด็กหนุ่มให้ ในยาม E.J. หัวใจเปลี่ยวเหงา เนื่องจากซาบซึ้งในข้าวแดงแกงร้อนที่ E.J. ขุดขึ้นมาจากหลุม จนได้เป็น รอง ผกก.ใน ตม.กทม. และไต่ตูดเลื่อนขั้นเป็น ผกก.ในที่สุด
ทีเด็ดของ “พ.ต.อ. ธ.ธง” ซึ่งรู้ดีถึงความเสื่อมสภาพของตัวเอง แต่ไม่ยอมคลายมนต์เสน่หาจาก E.J. จึงลงทุนลงแรงสอดส่องหานายตำรวจรุ่นน้องที่ต้องการเติบโตในหน้าที่ราชการ เข้าเสนอตัวให้ E.J. ได้เลือกเฟ้น
ผลงานก็ใช่ย่อยถึงขนาดกล่อม “พ.ต.อ. ก.ไก่” สุดหล่อประจำ นรต.รุ่น 40 กว่าปลาย ๆ อดีตผู้ช่วยนายเวรของหนึ่งของบิ๊กสีกากีคนหนึ่ง ให้ยอมสละตัวแลกตำแหน่ง ผกก.จนสำเร็จ
ไม่เพียงรู้ใจนายในเรื่องโลกีย์เท่านั้น แต่ยังมองตาเห็นไปถึงตับ ไต ไส้ พุง ในเรื่องความโลภไม่มีที่สิ้นสุดของ E.J. อีกด้วย
“พ.ต.อ. ธ.ธง” จึงปวารณาตัวเป็นผู้จัดหาเงินจากพื้นที่สำคัญๆ ให้ E.J. โดยส่งรุ่นน้องที่ไว้ใจได้ลงไปดูแลขุมทรัพย์ที่ ตม.สมุย และ ตม.ระนอง เป็นต้น
วิธีการส่งคนของตัวเองไปแทนคนเก่า ก็เป็นลูกไม้เก่าตื้นเขินแต่ได้ผล คือจัดทำเอกสารร้องเรียนเท็จแล้วเสนอให้ E.J. ย้ายคนเก่าออกนอกพื้นที่ จากนั้นหนทางก็สะดวกสวมคนของตัวเองลงไปแทน สิ่งที่ตามมาก็คือ รับทรัพย์กันไม่หวาดไม่ไหว
โดยมีการจ่ายเงินกันเป็นรายเดือน อย่างที่ ตม.สมุยเริ่มจ่ายเดือนละสามแสนบาท ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ส่วน ตม.ระนอง ต้องจ่ายสูงถึงเดือนละสี่แสนบาท!!!
ถ้าตามขุดคุ้ยต่อจะพบว่า“โผเล็ก” ที่คนโตใน สตช.หวงนักหวงหนา จะมีรายชื่อนายตำรวจสาย “พ.ต.อ. ธ.ธง” ได้ดิบได้ดีอยู่ในสถานที่ทำเลทองทั้งสิ้น ทั้งจากเพื่อนร่วมรุ่น นรต. 45 และรุ่นน้องๆ ที่มาประสานเงินและเสนอตัว
ผลงานดีเด่นขนาดนี้ ตามโผเล็กที่จัดทำกันไว้ “พ.ต.อ. ธ.ธง” จึงถูกวางตัวให้เป็น ผกก.ตม.จังหวัดใหญ่ในภาคเหนือ หรือไม่ก็ ผกก.ตม.กทม.
เรื่องมันฟ้องอย่างนี้ ถ้าปล่อยโผเล็กคลอดออกมา ก็คงเป็นการคลอดครั้งแรกที่ไม่ต้องพึ่งน้ำคร่ำ แต่ใช้น้ำกาม กับน้ำเงินหล่อเลี้ยงจนเติบใหญ่แทน
ความอัปยศแบบนี้ผู้มีอำนาจไม่คิดสะสางบ้างหรืออย่างไร หรือจะปล่อยให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องอยู่อย่างอดสู เงยหน้าก็อายฟ้า ก้มหน้าก็อายดิน มีแต่จะต้องมุดลงรูอย่างเดียว จนสักวันต้องเปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักงานตุ๊ดแห่งชาติ” จะเอากันอย่างนี้หรือ ?
อนาถใจจริง !
มาถึงตำนานรักหน้าสุดท้ายเขย่าวงการสีกากีของ E.J. หลังผ่านความหฤหรรษ์มาแล้ว 3 ด่านน้ำผึ้ง
ตัวละครที่จะเปิดต่อไปนี้ หลายคนเห็นแล้วร้องด้วยถ้อยคำเดียวกันว่า “อึ้ง ทึ่ง เสียว” อะจึ๋ยส์ !!!
ว่ากันว่า “พ.ต.ท. ศ.ศาลา” เป็นที่พักใจในยาม E.J.เปล่าเปลี่ยว ชนิดที่เรียกปุ๊บ มาปั๊บ แถมยังใจกว้างทำหน้าที่จัดหาเด็กๆ จากสายการบิน ฝึกฝนให้เปลี่ยนวิธีบริการบนเครื่องบิน มาเป็นบริการแบบถึงอกถึงใจในพื้นราบแทน
ทำเอา E.J. ติดบ่วงเสน่หาจนถอนตัวไม่ขึ้น
เมื่อสุดที่รักโดนเด้งจาก รอง ผกก.แถวนนทบุรี ไปเป็น รอง ผกก.ป.สภ.แห่งหนึ่งใน จ.นครพนม E.J. จึงแค้นหนัก งัดกระบวนท่า “ตั๊ด สู้ ฟุด” มาเป็นไม้ตาย ดึงตัวคู่ขากลับมาอยู่ที่ สภ. คุมพื้นที่สนามบินในเมืองหลวง
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจงรักภักดีกับ E.J. หรือยังค้นหารสนิยมตัวเองไม่เจอว่าจะเป็น ชาย หญิง หรือ ตุ๊ดดี ก็เลยทำให้ “พ.ต.ท. ศ.ศาลา” ยังครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้
ผ่านมาหลายด่าน E.J. ก็เริ่มอัพเกรด หันหน้าเข้าหาเทคโนโลยี หันหลังให้คนใช้ โดยตกหลุมพิศวาสทันทีที่ได้เห็นความสูง ใหญ่ ใบหน้าผ่องใส แถมขาวราวหยวกกล้วย
ตรงสเปกขนาดนี้ หัวใจ E.J. จึงระทวยอ่อนเข้าหา “พ.ต.อ. อ.อ่าง” (คนละคนกับ พ.ต.ท. อ.อ่าง คนแรก) นับแต่ครั้งแรกที่ได้พบสบตาในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.
แต่ด้วยความที่มีปากไม่ได้เก่งแค่ “อม” ยังมีวาทศิลป์เป็นเลิศ ประกอบกับช่วงเวลานั้น E.J. คั่วสองหนุ่มเชยชื่นอยู่กับ “พ.ต.ท. ค.ควาย” อดีตดาราช่องหลายสีอยู่ด้วย ก็เลยส่ง “พ.ต.อ. อ.อ่าง” ไปดูแลธุรกิจคอมพิวเตอร์ เมกะโปรเจกต์ของ สตม.
กระทั่งได้ดิบได้ดี เป็นใหญ่เป็นโตอยู่ที่ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ บก.ตม.ทอช. มีหน้าที่หลักรับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ให้บริษัทในเครือของพรรคพวก E.J.
แม้วันนี้ “พ.ต.อ. อ.อ่าง” จะไม่ได้ทะลุทะลวงผ่านประตูหลังอีกแล้ว แต่ก็เปรียบเหมือนกล่องดวงใจ เพราะเป็นกระเป๋าใบใหญ่ที่ E.J. ขอกกกอดไว้ไม่ให้ใครมาแตะ
นายตำรวจที่ตกถึงท้อง E.J. อีกราย คือ “พ.ต.อ. ส.เสือ” คนนี้ต้องบอกว่าฮาสุดขั้ว เพราะแม้ E.J. จะเข้าข่ายหัวเถิก พุงป่อง แต่สเปกเธอก็เลิศหรูอยู่เสมอ
ใครเลยจะคิดว่า E.J. จะหันมาจกปลาร้าอย่างเอร็ดอร่อยร่วมกับลูกอีสานร่างผอมเกร็ง ผิวคล้ำ อย่าง “พ.ต.อ. ส.เสือ” ชนิดมันส์หยดติ๋ง
นินทากันว่า ความอึด ความทนของลูกเสี่ยว ทำให้ E.J. ขึ้นสวรรค์ สอยดาวมานอนเคียงร้องครางได้คราวละหลายหน
พิศวาสบาดจิตขย่มอึดขนาดนี้ อยากย้ายไปไหน “พ.ต.อ. ส.เสือ” จึงได้ดังใจปรารถนา
ยกตัวอย่าง จาก บช.น.ไปเป็น ผกก.ใน สตม. แม้ในยามที่ E.J. หมดบารมี ความอึดที่ทำให้ E.J. หวิวสุดขั้ว ก็ยังทำให้ E.J. บากหน้าไปขอร้อง อดีต ผบ.ตร. คนหนึ่งให้ช่วยย้ายคนโปรดไปอยู่ สภ.ย่อยในบช.ภ.1 รอโยกเป็น รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ หรือ รอง ผบก.ศูนย์สืบสวน สตม.
อีกคนที่ทำหน้าที่มากกว่าการให้บริการคือ “พ.ต.อ. ธ.ธง” นายตำรวจประจำสำนักงานของ E.J. ที่รับหน้าเสื่อเป็นเอเย่นต์ใหญ่จัดหาเด็กหนุ่มให้ ในยาม E.J. หัวใจเปลี่ยวเหงา เนื่องจากซาบซึ้งในข้าวแดงแกงร้อนที่ E.J. ขุดขึ้นมาจากหลุม จนได้เป็น รอง ผกก.ใน ตม.กทม. และไต่ตูดเลื่อนขั้นเป็น ผกก.ในที่สุด
ทีเด็ดของ “พ.ต.อ. ธ.ธง” ซึ่งรู้ดีถึงความเสื่อมสภาพของตัวเอง แต่ไม่ยอมคลายมนต์เสน่หาจาก E.J. จึงลงทุนลงแรงสอดส่องหานายตำรวจรุ่นน้องที่ต้องการเติบโตในหน้าที่ราชการ เข้าเสนอตัวให้ E.J. ได้เลือกเฟ้น
ผลงานก็ใช่ย่อยถึงขนาดกล่อม “พ.ต.อ. ก.ไก่” สุดหล่อประจำ นรต.รุ่น 40 กว่าปลาย ๆ อดีตผู้ช่วยนายเวรของหนึ่งของบิ๊กสีกากีคนหนึ่ง ให้ยอมสละตัวแลกตำแหน่ง ผกก.จนสำเร็จ
ไม่เพียงรู้ใจนายในเรื่องโลกีย์เท่านั้น แต่ยังมองตาเห็นไปถึงตับ ไต ไส้ พุง ในเรื่องความโลภไม่มีที่สิ้นสุดของ E.J. อีกด้วย
“พ.ต.อ. ธ.ธง” จึงปวารณาตัวเป็นผู้จัดหาเงินจากพื้นที่สำคัญๆ ให้ E.J. โดยส่งรุ่นน้องที่ไว้ใจได้ลงไปดูแลขุมทรัพย์ที่ ตม.สมุย และ ตม.ระนอง เป็นต้น
วิธีการส่งคนของตัวเองไปแทนคนเก่า ก็เป็นลูกไม้เก่าตื้นเขินแต่ได้ผล คือจัดทำเอกสารร้องเรียนเท็จแล้วเสนอให้ E.J. ย้ายคนเก่าออกนอกพื้นที่ จากนั้นหนทางก็สะดวกสวมคนของตัวเองลงไปแทน สิ่งที่ตามมาก็คือ รับทรัพย์กันไม่หวาดไม่ไหว
โดยมีการจ่ายเงินกันเป็นรายเดือน อย่างที่ ตม.สมุยเริ่มจ่ายเดือนละสามแสนบาท ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2550 ส่วน ตม.ระนอง ต้องจ่ายสูงถึงเดือนละสี่แสนบาท!!!
ถ้าตามขุดคุ้ยต่อจะพบว่า“โผเล็ก” ที่คนโตใน สตช.หวงนักหวงหนา จะมีรายชื่อนายตำรวจสาย “พ.ต.อ. ธ.ธง” ได้ดิบได้ดีอยู่ในสถานที่ทำเลทองทั้งสิ้น ทั้งจากเพื่อนร่วมรุ่น นรต. 45 และรุ่นน้องๆ ที่มาประสานเงินและเสนอตัว
ผลงานดีเด่นขนาดนี้ ตามโผเล็กที่จัดทำกันไว้ “พ.ต.อ. ธ.ธง” จึงถูกวางตัวให้เป็น ผกก.ตม.จังหวัดใหญ่ในภาคเหนือ หรือไม่ก็ ผกก.ตม.กทม.
เรื่องมันฟ้องอย่างนี้ ถ้าปล่อยโผเล็กคลอดออกมา ก็คงเป็นการคลอดครั้งแรกที่ไม่ต้องพึ่งน้ำคร่ำ แต่ใช้น้ำกาม กับน้ำเงินหล่อเลี้ยงจนเติบใหญ่แทน
ความอัปยศแบบนี้ผู้มีอำนาจไม่คิดสะสางบ้างหรืออย่างไร หรือจะปล่อยให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องอยู่อย่างอดสู เงยหน้าก็อายฟ้า ก้มหน้าก็อายดิน มีแต่จะต้องมุดลงรูอย่างเดียว จนสักวันต้องเปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักงานตุ๊ดแห่งชาติ” จะเอากันอย่างนี้หรือ ?
อนาถใจจริง !